รีวิว Weed The People (2018) - Netflix
“มะเร็ง กัญชา กับความหวังที่เปี่ยมล้น”
เรื่องย่อ
/ หนังสารคดีสัญชาติอเมริกันเรื่องนี้ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเด็ก 5 คนที่เป็นโรคมะเร็ง และมุมมองความหวังและการดิ้นรนของพ่อแม่ที่เชื่อว่ากัญชาจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถรักษาลูกๆของพวกเขาได้ โดยมุ่งเน้นไปที่คุณภาพชีวิตของพวกเขาว่าดีขึ้นด้วยกัญชาอย่างไร ท่ามกลางข้อโต้แย้งเรื่องความถูกต้องของกฎหมาย (ที่ถูกเชื่อมโยงเข้ากับการเหยียดเชื้อชาติอย่างน่าคลางแคลงใจ) กลุ่มผู้คนที่ต่อต้าน รวมไปถึงงานวิจัยที่ถูกปิดกั้นและไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเท่าที่ควร
/ โดยได้มีการติดตามครอบครัวผู้ป่วย (ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจและเอาใจช่วยพวกเขาไปตลอดทั้งเรื่อง) ตัดสลับกับการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาหลายคน หนึ่งในนั้นคือ Mara Gordon อดีตวิศวกรผู้ซึ่งผ่านวิกฤตสุขภาพของเธอด้วยกัญชาทางการแพทย์ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอตั้งบริษัทและใช้ประสบการณ์ในการรักษาของเธอเพื่อช่วยเหลือผู้คนอย่างเต็มที่ เธอใช้น้ำมันกัญชาสูตรที่คิดค้นกับสามีในการรักษาเด็ก และบันทึกข้อมูลของพวกเขาด้วยความหวังว่าจะส่งต่อให้กับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อใช้ศึกษาต่อไป
/ ครอบครัวเหล่านี้ล้วนค้นพบผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์ของกัญชาทางการแพทย์ในการ “ฆ่าเซลล์มะเร็ง ควบคุมผลข้างเคียงของเคมีบำบัด ลดความเจ็บปวดทางกายและใจของผู้ป่วย และช่วยให้ทานอาหารได้มากขึ้นเพื่อมีแรงต่อสู้กับโรค” ความจริงที่ว่าการให้ปริมาณยาหรือโดสที่เหมาะสมของทั้งสาร THC และ CBD “สามารถทำให้ขนาดของเนื้องอกลดตัวลงได้”
/ เด็กๆและครอบครัวประสบความสำเร็จในการรักษาโรคมะเร็งเกินกว่า 80% พวกเขามีโอกาสได้กลับมามีชีวิตใหม่ที่สดใสอีกครั้งหลังจากผ่านมรสุมลูกใหญ่ของชีวิตที่แสนยากลำบากมาด้วยกัน และนั่นทำให้พวกเขาเห็นคุณค่าของกัญชาทางการแพทย์เปลี่ยนไปตลอดกาล
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ
1. กัญชาถูกค้นพบและใช้เป็นยามามากกว่า 5,000 ปีแล้ว และเคยถูกขายเป็นยาในร้านขายยาในหลายประเทศ
2. กัญชาไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่คือวิทยาศาสตร์ เมื่อในปี 1988 มีการค้นพบว่าในร่างกายมนุษย์มีระบบหนึ่งที่ชื่อว่า “เอ็นโดแคนนาบินอยด์” ซึ่งเกี่ยวข้องอย่างสำคัญกับโรคทั้งหมดของมนุษย์ และสารในกัญชาคือกุญแจสำคัญที่สามารถจะไขเข้าไปสู่ระบบนั้น เพื่อซ่อมแซมเซลล์ต่างๆในร่างกาย
3. คีโมส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างมาก และอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับใครหลายคน
4. กัญชาช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งให้หายได้มากขึ้น และหลักฐานชิ้นแรกที่พบว่ากัญชามีฤทธิ์ต้านมะเร็งถูกเผยแพร่ในปี 1975
5. ถ้าหากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม กัญชาจะให้คุณประโยชน์มากกว่าโทษด้วยซ้ำ
6. 94 % ของงานวิจัยมองไปที่เป้าหมายว่ากัญชาส่งผลเสียอย่างไร ในขณะที่มีเพียงแค่ 6 % เท่านั้นที่มองไปที่ผลดี
7. ยาปฏิชีวนะหลายตัวถูกกล่าวถึงว่ามีผลข้างเคียงที่อาจทำให้มนุษย์เสียชีวิตได้โดยไม่ตั้งใจ แต่กัญชาที่อาจมีผลข้างเคียงน้อยกว่าและไม่ถึงชีวิตนั้นสามารถรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนได้มากมาย กลับถูกบัญญัติไว้ในกลุ่มของยาเสพติดให้โทษอันตรายร้ายแรง
8. กัญชามีความเชื่อมโยงบางอย่างเข้ากับการเมือง ซึ่งส่งผลให้การเข้าถึงของกลุ่มผู้ป่วยและประชาชนที่ต้องการใช้ในทางการแพทย์ เป็นไปด้วยความยากลำบาก
9. การรวมพลังกันของกลุ่มคนที่มีความศรัทธาในเรื่องเดียวกันสามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากที่ได้ดู
ให้คะแนน : 9.5/10
(*มีสปอยล์นะครับ)
/ ต้องขออนุญาตบอกก่อนนะครับว่าผมเคยมีประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยสูญเสียพี่ชายที่สนิทที่สุดคนหนึ่งไปด้วยโรคมะเร็งสมอง เลยอาจจะทำให้รู้สึกอินมากเป็นพิเศษ ผมดูหนังเรื่องนี้ไป 2 รอบ ยอมรับว่าเสียน้ำตาไปมากกว่าที่คิดไว้เยอะมาก (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำตาแห่งความปีติยินดีนะครับ 😊)
/ ในช่วงแรกค่อนข้างมืดมนเลย มีหลายฉากที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดแต่ก็เข้าใจมากๆ เช่น ตอนที่ Ron Watson พูดถึงลูกชายของเขาที่จากไปด้วยโรคมะเร็ง, ตอนที่เห็นสีหน้าของเด็กๆที่อยู่ในขั้นตอนของการทำคีโม และทุกครั้งที่พ่อแม่ของเด็กพูดถึงอาการของลูกๆในแง่ลบด้วยความเศร้าและความสิ้นหวัง ผมคิดว่าผมรับรู้ความรู้สึกของพวกเขาได้แทบทั้งหมด เพราะเคยผ่านเหตุการณ์ที่คล้ายกันเหล่านี้มาแล้ว
/ ส่วนช่วงหลังฟ้าเริ่มสดใส มีฉากที่ทำให้รู้สึกดีใจและประทับใจเยอะกว่ามาก เช่น ตอนที่คุณหมอแห่กันมาฉลองให้ Sophie ในวันสุดท้ายของการทำคีโม, ตอนที่ Chico ได้ขี่จักรยานเป็นครั้งแรกพร้อมรอยยิ้มทั้งน้ำตาของคนเป็นแม่, ตอนที่ AJ ได้กลับไปเรียนต่อจนจบและได้รับใบปริญญาบัตร, ตอนที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาหลายคนมารวมตัวกันที่คณะแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และภาพที่ทุกครอบครัวได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าอย่างมีความสุขหลังจากที่เด็กๆหายจากมะเร็ง
/ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดนี้ส่งผ่านพลังงานความเชื่อที่มากขึ้นให้กับผม มันช่วยกระตุ้นความคิดในการมองโลกในแง่ดี และทำให้ผมรู้สึกมีความหวังต่อการมีชีวิตมากขึ้น เด็กๆทุกคนมีความฝันและพวกเขามีโอกาสที่จะทำมันได้เมื่อเขามีชีวิตรอดจากมะเร็ง
/ ผมคิดว่า Weed The People เป็นหนี่งในตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมและทรงพลังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ในการสนับสนุนให้มีการวิจัยเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์มากขึ้นทั่วโลก และเป็นจุดสำคัญในการที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้คนให้มีความเข้าใจพืชกัญชาในอีกมุมหนึ่งได้อย่างดีเลยครับ ☺
เหตุผลที่ทำไมถึงควรดู?
/ สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือ คนที่รู้จักผู้ที่กำลังป่วย
- เพื่อดูไว้เป็นข้อมูล และเป็นแนวทางวิธีในการรักษาเพื่อนำไปปรับใช้ให้เข้ากับผู้ป่วยในแต่ละบุคคลได้
/ คนที่เห็นด้วยกับกัญชา
- เพื่อเพิ่มข้อมูล ความรู้ และความเชื่อ ว่าสิ่งนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร
/ คนที่ยังไม่เห็นด้วยกับกัญชา
- เพื่อเปิดตา เปิดใจ เปิดรับมุมมองใหม่ๆ ผมเชื่อว่ามันจะคุ้มค่าและมีประโยชน์ในอนาคตอย่างแน่นอนครับ 👍
Watch "Weed The People" Now : https://www.netflix.com/watch/81016247?source=35
Director : Abby Epstien
Movie Length : 1h 37m
#ช่วยคนด้วยกัญ #helppeoplewithcannabis #medicalcannabis #cannabisismedicine #ช่วยคนด้วยกัญรีวิว #รีวิวNetflix #WeedThePeople #Netflix #cannabis #cancer #cancerhunter #THC #CBD
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
