โดย Pursuit of Business
ความสำเร็จต้อง "ไล่ล่า"
Digital Marketing คืออะไร? และช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างไร?
คุณสงสัยหรือไม่ว่าการตลาดบนอินเทอร์เน็ตคืออะไร และมันมีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณอย่างไร
คุณยังจำยุคของ "สมุดหน้าเหลือง" กันได้ไหม?
เพียงเพื่อหาเบอร์โทรของช่างประปา เราต้องไล่หาข้อมูลกันจนเหนื่อยเลยล่ะ
แต่แน่นอนว่า ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
เราเพียงแค่พิมพ์ "ช่างประปาใกล้ฉัน" ลงใน Google ตัวเลือกทั้งหมดภายในรัศมี 10 กิโลเมตร ก็จะปรากฏขึ้นมา
ในมุมมองของลูกค้า มันเป็นวิธีในอุดมคติเลยทีเดียว
พวกเขาไม่ต้องเปิดสมุดโทรศัพท์ และไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เมื่ออินเทอร์เน็ตสามารถช่วยได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องยุ่งยากขึ้นอีกเล็กน้อย
ข้อดีของสมุดหน้าเหลือง (directory) ก็คือ มันให้ "พื้นที่เล่น" ที่เท่าเทียมกัน
หากธุรกิจของคุณมีชื่ออยู่ในสมุดหน้าเหลือง ก็มีโอกาสที่คุณจะได้ลูกค้าใหม่ๆ จากเบอร์โทรของคุณ พอๆ กับคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันการทำโปรโมชั่นด้วยตนเองมีความซับซ้อนกว่านั้นพอสมควร
หากคุณต้องการให้เบอร์โทรของคุณอยู่บนสุด เมื่อ "ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า" ค้นหา "ช่างประปาที่อยู่ใกล้ฉัน" คุณจะต้องมีกลยุทธ์และความรู้เกี่ยวกับ digital marketing พอสมควร
เราจะมาบอกคุณว่าจริงๆ แล้ว digital marketing คืออะไร
Digital Marketing คืออะไร?
ลองนึกถึงอุปกรณ์ดิจิตอลทั้งหมดที่เราใช้ในแต่ละวัน
โทรศัพท์, โน้ตบุ๊ค, พีซี, แท็บเล็ต, นาฬิกาอัจฉริยะ (smart watch) หรือ แม้แต่หนังสือ เดี๋ยวนี้ก็มีการแปลงเป็นดิจิตอลบน Kindles แล้วเช่นกัน
อาจมีอุปกรณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นในอนาคตได้อีก และในขณะที่อุปกรณ์แต่ละชนิดมีจุดประสงค์เฉพาะอย่าง พวกมันยังมีวิธีการที่แตกต่างกันในการสื่อสารกับลูกค้าของคุณอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถส่ง SMS เตือนความจำให้ลูกค้าของคุณเพื่อไม่ให้พลาดการนัดหมาย ใช้ประโยชน์จากฟีดข่าวของพวกเขาด้วยโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ส่งอีเมล์ด้วยข้อเสนอที่น่าดึงดูด และแม้กระทั่งปรากฎอยู่บนสุดของการค้นหาโดย Google โดยการใช้ Pay Per Click (PPC)
การตลาดดิจิตอล (digital marketing) หมายถึง การสื่อสารใดๆ ที่ธุรกิจของคุณมีกับลูกค้า ผ่านวิธีการทางดิจิตอล ไม่ว่าจะเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ หรือรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า
หรือจะกล่าวอีกอย่างก็คือ การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจของคุณกับลูกค้านั่นเอง
และเมื่อพิจารณาว่าทุกวันนี้ เราทุกคนเชื่อมต่อกันมากแค่ไหน การสร้างและดูแลความผูกพันระหว่างธุรกิจกับลูกค้าจึงง่ายกว่าที่เคยเป็นมากๆ
อย่างไรก็ตาม digital marketing นั้นค่อนข้างจะซับซ้อนไม่น้อยเช่นกัน
มีวิธีที่เป็นประโยชน์มากมายในการใช้เทคโนโลยีทำการตลาด แต่ไม่ใช่ว่าทุกวิธีจะเหมาะกับทุกธุรกิจ
ต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับ digital marketing โดยครอบคลุมถึงประเภทของ digital marketing ที่เหมาะสมที่สุด และวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อส่งเสริมธุรกิจของคุณ
ประโยชน์ของ digital marketing
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย
digital marketing เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับแบรนด์ของคุณ
การตลาดแบบดั้งเดิม เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ หรือการตลาดทางกายภาพอื่นๆ มีราคาแพง และมักจะถูกผูกขาดโดยแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มีงบประมาณสูง ทำให้เป็นการยากสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่จะเข้าแข่งขัน
แต่ในโลกดิจิตอล คุณจะได้รับผลตอบแทนทางการตลาดมากกว่ามากๆ ทำให้มันเป็นทางเลือกที่ราคาไม่แพง
ขณะที่กลยุทธ์การตลาดแบบดั้งเดิมมักจะมีการ "ซ่อนป้ายราคา" ไว้ การตลาดดิจิตอลนั้นค่อนข้างถูก เพียงแต่จะต้องใช้ "เวลา" และ "ความอดทน" เป็นอย่างมาก
วิธีที่เป็นธรรมชาติ (organic) และฟรีอย่างเช่น Search Engine Optimization (SEO) และการตลาดบนโซเชียลมีเดีย จะต้องใช้เวลาเพื่อให้มีแรงฉุดมากพอที่จะสร้างผลกระทบได้
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเร่งความเร็วด้วยวิธีการ เช่น Pay Per Click (PPC), การโฆษณาแบบ display และการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า
2. สามารถวัดผลกระทบได้
ลองนึกภาพว่า คุณมีแคมเปญทีเด็ดที่มีกราฟิกระดับเทพ แต่คุณไม่มีทางรู้ได้ว่าจริงๆ แล้ว มันมีผลกระทบกับยอดขายหรือไม่เพียงใด หรือแม้กระทั่งผู้คนได้เห็นแคมเปญนี้แล้วหรือยัง
แต่ด้วย digital marketing สถานการณ์เช่นนี้จะถูกหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เนื่องจาก digital marketing มีเครื่องมือวิเคราะห์ (analytics tools) ที่จะคอยบอกคุณอย่างชัดเจนเกี่ยวกับ จำนวนคนที่แคมเปญเข้าถึง จำนวนผู้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ และจำนวน conversion ที่เกิดขึ้น
ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์ดังกล่าวสามารถช่วยขจัดความลึกลับของการตลาดได้
คุณสามารถเห็นผลกระทบโดยตรงของแต่ละแคมเปญ ซึ่งจะทำให้สามารถทำการตลาดอย่างชาญฉลาดมากขึ้น และตรงเป้าหมายมากขึ้นในอนาคต
3. เป็นวิธีที่คล่องตัว
ในโลกดิจิตอล ทุกการค้นหา (search), การเรียกดู (browse) และการซื้อ (purchase) ล้วนมีวัตถุประสงค์ทั้งสิ้น
digital marketing ช่วยให้แบรนด์ของคุณ และผู้คนที่มีวัตถุประสงค์ตรงกัน ได้มาพบกัน
คุณจะสามารถวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคุณ เพื่อให้ปรากฎในผลการค้นหาของ Google ที่เกี่ยวข้องผ่าน SEO
นอกจากนั้น วิธีการต่างๆ เช่น Pay Per Click, โฆษณาแบบ display และโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ยังใช้ข้อมูลเชิงประชากรเพื่อกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ที่โดยสถิติแล้วมีแนวโน้มว่าจะสนใจแบรนด์ของคุณมากที่สุด
ดังนั้น ด้วยค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ คุณสามารถสร้างผลกระทบสูงสุดได้เช่นกัน
4. เพิ่มการมองเห็น
ทุกวันนี้ ลูกค้าหันมาใช้ search engine เพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหา ก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการใดเสียด้วยซ้ำ
ตามที่ผู้ผลิตวิดีโอออนไลน์อย่าง Vimeo ระบุว่า 93% ของประสบการณ์ออนไลน์เริ่มต้นด้วย search engine ในขณะที่ 59% ของผู้บริโภคชอบที่จะตรวจสอบหลายๆ ช่องทาง (เช่น เว็บไซต์ของแบรนด์ และช่องทางบนโซเชียลมีเดีย) ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าถึงตัวธุรกิจ
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคนี้ เผยให้เห็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจ ในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค และช่วยกำหนดเป้าหมายในช่วงต้นของกระบวนการซื้อของผู้บริโภค
มันง่ายที่จะปรับปรุงการมองเห็นแบบออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพที่เรียบง่าย ทำให้แบรนด์ของคุณปรากฏบนหน้าจอของลูกค้า โดยใช้ค่าใช้จ่ายน้อย และไม่ยุ่งยาก
5. ปรับเป็นวิธีเฉพาะตัวได้
หาก 59% ของผู้บริโภคมีการตรวจสอบหลายช่องทาง ก่อนตัดสินใจว่าจะเยี่ยมชมหรือซื้อของจากธุรกิจใด นั่นหมายความว่า ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้ามากกว่าครึ่งหนึ่ง จะมีการตรวจสอบเว็บไซต์, Facebook, Instagram และ Twitter ก่อนตัดสินใจเข้าถึงธุรกิจของคุณ
ดังนั้นจงแน่ใจว่าโซเชียลมีเดียของคุณเจ๋งพอ เพราะนั่นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หากคุณต้องการเปลี่ยน "ลูกค้าผู้สนใจ" ให้กลายมาเป็น "ลูกค้าประจำ"
เพื่อจุดประสงค์นี้ โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด โดยช่วยให้ลูกค้าของคุณสามารถกดถูกใจ แสดงความคิดเห็น และแชร์ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ และอนุญาตให้คุณตอบกลับความคิดเห็นของลูกค้าต่อสาธารณะ ซึ่งนั่นทำให้ธุรกิจของคุณดูดี เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณเต็มใจที่จะดูแลลูกค้าของคุณ
ประเภทของ Digital Marketing
คำว่า "digital marketing" ครอบคลุมกลยุทธ์ดิจิตอลที่หลากหลาย และมีองค์ประกอบมากมายที่ควรพิจารณา เมื่อคุณต้องการออกแบบแผนการตลาด
เราได้รวบรวมประเภทของ digital marketing ที่สำคัญๆ รวมถึงอธิบายคำศัพท์บางคำที่คุณน่าจะพบบนเส้นทางการตลาดดิจิตอลของคุณ
Search Engine Optimization (SEO)
วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ (traffic) ของคุณคือการปรับปรุงการมองเห็น (visibility) ของเว็บไซต์
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มสถานะหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (search engine) ที่เรียกว่า SERP ของเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นคุณจึงต้องไปอยู่ในที่ที่ลูกค้าสามารถเห็นคุณได้ นั่นก็คือด้านบนสุดของการค้นหาโดย Google นั่นเอง
แล้วทำอย่างไรล่ะ?
คำตอบก็คือ โดยการใช้คีย์เวิร์ด (keyword) และทำให้แน่ใจว่าเนื้อหา (content) ของคุณมีคุณภาพอยู่ในอันดับต้นๆ
Pay Per Click (PPC)
อย่างที่คุณอาจจะพอเดาได้ คุณจะต้องจ่ายเงินสำหรับสิ่งนี้
PPC หมายความว่า ผู้ลงโฆษณา (เจ้าของสินค้า) จะจ่ายเงินให้กับผู้เผยแพร่ (publisher) เช่น Google ทุกครั้งที่มีคนคลิกที่โฆษณา
ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเห็นโฆษณาปรากฏที่ด้านขวามือของหน้าผลลัพธ์ (SERP) ของ search engine โฆษณาดังกล่าวทำงานในรูปแบบ PPC
ผู้ลงโฆษณา (ในกรณีนี้คือเจ้าของสินค้า) จะจ่ายเงินให้กับผู้เผยแพร่ (publisher) อย่าง Google แต่ละครั้งที่ลูกค้าคลิกที่โฆษณาเพื่อไปยังเว็บไซต์ของเจ้าของสินค้า
Display Advertising
display advertising หรือการโฆษณาแบบ display ซึ่งก็คือ "ป้ายโฆษณา" บนโลกโซเชียลมีเดียนั่นเอง
display advertising หมายถึง การตลาดดิจิตอลแบบชำระเงินที่คุณอาจเคยเห็น เวลาคุณเลื่อนฟีดข่าวบนโซเชียลมีเดียของคุณเอง
ซึ่งหมายความครอบคลุมโฆษณาและแบนเนอร์ที่ปรากฏขึ้น (pop up) เมื่อคุณเล่น Instragram หรือ Twitter ด้วยเช่นกัน
display advertising ประกอบด้วยข้อความ รูปภาพ แฟลช (flash) วิดีโอ และเสียง ที่ออกแบบมาเพื่อส่งสารของแบรนด์เพื่อเพิ่มการรับรู้ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอลยอดนิยมต่างๆ
Social Media (Organic)
การตลาดบนโซเชียลมีเดียแบบ "organic" หมายถึง กิจกรรมและการส่งเสริมบนโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้นโดย "ไม่ต้องจ่ายเงิน"
ลองนึกถึงโพสต์ที่ไม่ได้รับการ "ส่งเสริม" ทางการเงิน แต่ได้รับความนิยมจากการ ไกดไลค์" และ "การแชร์"
นั่นหมายความว่า ไม่มีการจ่ายเงินสำหรับการปรากฏตัวของแบรนด์คุณบนโซเชียลมีเดีย แต่มันกลายเป็นที่นิยมตามธรรมชาติ
Social Media (แบบชำระเงิน)
โซเชียลมีเดียแบบชำระเงินมีความสอดคล้องกับวิธีการทางการตลาดแบบดั้งเดิมมากกว่า ซึ่งหมายถึงการจ่ายเงินให้กับบุคคลที่สามเพื่อโปรโมท "ข้อความ" ของแบรนด์ โดยที่การโฆษณาแบบ display เป็นตัวอย่างหนึ่งของโซเชียลมีเดียแบบชำระเงิน
E-mail Marketing (CRM)
การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) หมายถึง องค์กร ระบบอัตโนมัติ การซิงโครไนซ์ ฯลฯ กระบวนการทางธุรกิจผ่านอีเมล์
e-mail marketing ช่วยให้ธุรกิจของคุณติดต่อกับลูกค้าได้โดยตรงผ่านทาง inbox ของพวกเขา ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของคุณได้รับข่าวสารล่าสุด ในรูปแบบจดหมายข่าว ข้อเสนอ และโอกาสต่างๆ
ในเวลาเดียวกัน คุณสามารถติดตามลูกค้าว่า รายใดมีส่วนร่วมกับอีเมล์ของคุณ โดยการคลิกไปยังเว็บไซต์ของคุณผ่านลิงค์ในอีเมล์
Influencer Marketing
influencer marketing ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงบุคคลหรือองค์กรที่เฉพาะเจาะจง เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการมองเห็น และอาจจะเพิ่มยอดขายอีกด้วย
โดยปกติ influencer จะต้องมีผู้ติดตามประมาณ 10,000 คนขึ้นไป
การทำงานกับ influencer นั้นง่ายพอๆ กับการส่งตัวอย่างไปแสดงบนเพจของพวกเขา อย่างไรก็ตาม influencer บางรายอาจคิดค่าธรรมเนียมเช่นกัน
Pursuit of Business
ความสำเร็จต้อง "ไล่ล่า"
หากนี่เป็นบทความที่ "ใช่" สำหรับคุณ
คุณสามารถติดตามเราได้ที่...
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
