Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปลดร้าย - ไปรัก
•
ติดตาม
12 ส.ค. 2021 เวลา 18:18 • ปรัชญา
EP : 3 แปรร่างไร้วิญญาณ สู่คุณค่าและความหมาย
เมื่อความตายมาเยี่ยมเยือน💀💀💀
สำหรับผู้ป่วยหลายคนนับว่าโชคดี พอจะรู้เวลาที่เหลืออยู่ในการมีชีวิตว่าเหลืออีกยาวนานเท่าใด
บางคนมีความวิตกหวาดกลัว เตรียมใจยอมรับไม่ได้ เพราะยึดติดโหยหาความสุขขณะมีชีวิต หรือกังวลเป็นห่วงคนรัก บริวาร งาน และทรัพย์สิน
ส่วนคนตั้งสติได้ไวก็วางแผนกำหนดเป้าหมายก่อนตายว่าจะจัดการทำอะไรบ้าง ให้ภารกิจเสร็จสิ้นสมบูรณ์ก่อนจากโลก
ขอบพระคุณ :ภาพถ่ายโดย Mathias P.R. Reding จาก Pexels
ใครๆ ล้วนทราบดีว่า การบริจาคร่างกายและอวัยวะหลังเสียชีวิต เป็นการอุทิศชีวิตสุดท้ายที่ได้บุญกุศล และสร้างคุณประโยชน์หลายประการ มีความสำคัญกับการศึกษาด้านการแพทย์
.
การส่งต่อร่างเป็นอาจารย์หมอให้นักศึกษาแพทย์ได้ผ่าชันสูตร เพื่อเรียนรู้สัมผัสกลไกการทำงานของอวัยวะจริงทั้งภายนอกและภายในร่างกาย ส่งเสริมแพทย์ให้มีประสบการณ์เพิ่มความเชี่ยวชาญในศาสตร์การรักษาผู้ป่วยจากโรคภัยต่างๆ
.
ในส่วนของอวัยวะต่างๆ หลังสิ้นชีพที่มีสภาพสมบูรณ์ทำงานได้ดี สามารถเก็บรักษา ทันต่อการนำไปใช้ช่วยชีวิตคนเจ็บ ที่รอการช่วยเหลือปลูกถ่ายอวัยวะ นับเป็นคุณค่ายิ่งใหญ่แก่การเสียสละให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันในสังคม
.
นอกจากนี้ ร่างกายและอวัยวะที่บริจาคส่วนหนึ่ง ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อการเก็บรักษา เป็นรูปแบบตัวอย่าง หรือ จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ขยายความรู้ในวงกว้าง ให้นักเรียนแพทย์และประชาชนได้ศึกษา
.
กรรมวิธีการเก็บรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อคงสภาพร่างกาย หรือชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ที่เสียชีวิต ไม่ให้มีการเน่าสลาย คงสภาพอยู่ได้นาน เพื่อความสะดวกในการศึกษารายละเอียดได้ครบถ้วน เป็นความรู้สืบต่อไป
ขอบพระคุณ : ภาพถ่ายโดย Nima Nezafat Yazdiจาก Pexels
แต่คนบางส่วนยังมีทัศนคติความเชื่อ คิดว่าการตัดอวัยวะออกไปจากคนตาย จะทำให้ชาติหน้าพิการในอวัยวะส่วนนั้น หรือทำให้เกิดใหม่มีอวัยวะไม่ครบ 32
ซึ่งเป็นความคิดส่วนบุคคลที่มีความเชื่อเกี่ยวพันธ์กับบางศาสนา หรือ แม้แต่ญาติผู้ตายก็อาจจะไม่กล้ามอบร่างหลังความตาย เพราะทำใจไม่ได้กับร่างกายของคนรักที่ต้องสูญเสียความสวยงามไป
จากเรื่องจริงของเพื่อนสนิท เพื่อนเรามีเพื่อนที่ป่วยหนักทราบว่าตนเองจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน จึงฝากฝังเพื่อนของเราให้นำขี้เถ้ากระดูกไปทำการวิจัยหลังเสียชีวิต
เพื่อนได้ชวนเราไปช่วยทำวิจัยนี้ด้วย แต่เนื่องจากเราติดสอบจึงไม่ได้ไปช่วย
เพื่อนเล่าว่าเป็นการลงมือทำการทดลองเร็วที่สุดเพียงข้ามคืน เพราะเตรียมการณ์มาแต่เนิ่นๆ โดยเล่าบรรยากาศว่าทำคนเดียวในห้องที่ปิดหน้าต่างหมดตอนค่ำ
ระหว่างใช้โกร่งบดสาร มือก็สั่นเพราะรีบทำ ตาก็แลมองไปรอบๆตัวตลอดเวลา ทำไปหลอนไป เพราะกลัวผีเพื่อนจะโผล่มาหลอก 😱😱😱
ผลงานน้ำเคลือบขี้เถ้ากระดูกเคลือบบนเซรามิกส์ออกมาสวยพิเศษมากๆ เหมือนมีจิตวิญญาณความรักแฝงตรึงอยู่ 💖💖
แม่ของเพื่อนผู้เสียชีวิตรู้สึกยินดี ภูมิใจที่ลูกทำเพื่อการศึกษา และมีผลงานที่มาจากตัวลูกเก็บไว้เป็นความทรงจำให้ระลึกถึงตลอดกาล
ภายหลังเราบอกกับเพื่อนว่าถ้าเราตายฝากเอาขี้เถ้ากระดูกไปทำวิจัยแบบนี้ด้วย เพื่อนบอกว่า “ไม่ล่ะ ทำคนเดียวพอแล้ว หลอนมากค่ะ”
“ความตายที่ยอมสละร่างกายเพื่อประโยชน์ เท่ากับการเห็นแจ้งในการละวางตัวตนสุดท้าย นำพาความสุขอิ่มเอมภายใน เกิดคุณค่าต่อชีวิตใหม่ ให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ นับเป็นทานอันประเสริฐ“
- ❤ -
🙏 ขอบพระคุณสำหรับกดติดตามค่ะ
#ปลดร้ายไปรัก
อ้างอิง ✍️
พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ :
http://www.cu100.chula.ac.th/story/444/
2 บันทึก
6
8
4
2
6
8
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย