14 ส.ค. 2021 เวลา 06:33 • ครอบครัว & เด็ก
โลกจะจัดสรร สิ่งเลวร้ายน้อยที่สุดให้เราเอง..
หนึ่งในคำพูดที่ผมพูดกับพ่อในวันนี้
ปกติคุยโทรศัพท์กับพ่อน้อยมาก นานที่สุดในชีวิตคือไม่เกิน 20 ถึง 30 นาทีเท่านั้นเอง
วันนี้ได้มีโอกาสโทรคุยกับพ่อถึง 1 ชั่วโมงกับ 27 นาที นานที่สุดในชีวิตแล้ว แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่มีค่าช่วงเวลาหนึ่งสำหรับผม
เป็นครั้งที่รู้สึกว่าพ่อตั้งใจรับฟัง และมีการตอบสนอง พูดคุยกับผมอย่างเป็นกันเอง บางครั้งเหมือนพ่อยังไม่อยากวางสาย อยากจะฟังหรือคุยต่อ
“โลกจะจัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด และเลวร้ายน้อยที่สุดให้เราเสมอไม่ว่าเราจะต้องเผชิญกับอะไร เลวร้ายแค่ไหน ความเจ็บป่วยยังไง ทุกข์ยากยังไงก็ตาม เราน่ะทำดีมาตั้งเยอะถึงแม้ในชีวิตของทุกคนจะทำสิ่งไม่ดีบ้าง ดีบ้าง ปะปนกันไป แต่สิ่งดีดีมันจะกลับมาช่วยเราเสมอนะพ่อ”
อีกมากมายที่ผมคุยกับพ่อ อาจจะเป็นสิ่งที่อัดอั้นมาทั้งชีวิต และไม่คิดว่าพ่อจะรับฟัง แต่ท้ายที่สุดพ่อก็ฟัง ฟังเสียงหัวใจอ่อนโยนของเด็กตัวเล็กๆที่พ่อเคยอุ้มตอนเด็ก ฟังเสียงหัวใจในส่วนที่บอบบางและใสบริสุทธิ์ที่สุด ท่ามกลางโลกอันแปดเปื้อนและหม่นหมอง ฟังเสียงร้องเพลงสดใสของเด็กผู้ชายตัวน้อยที่อยู่ในร่างกายที่ตรากตรำ และผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน
ผมได้ยินเสียงตัวเองหัวเราะบ่อยครั้งผ่านสัญญาณโทรศัพท์นั้น เห็นหน้าตัวเองที่แปดเปื้อนรอยยิ้มทั้งที่ไม่มีกระจกอยู่ซักบาน รู้สึกถึงรอยยิ้มในหัวใจของพ่อ และเกือบจะได้ยินเสียงหัวเราะท่ามกลางก้นบึ้งที่ลึกที่สุดในหัวใจพ่อ
ไม่ได้พูดว่าผมรักพ่อนะ แต่รู้ว่าพ่อรับรู้ได้ ผมไม่ใช่ลูกที่ดี แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเลวร้าย ไม่ได้ดูแลพ่อดีที่สุด แต่ก็ดีในแบบของตัวเอง เท่าที่คนไม่ดีอย่างผมจะทำได้
ไม่รู้นะว่า ทั้งชีวิตนี้ผมเคยทำอะไรพ่อภูมิใจไหม แต่ก็ภูมิใจในตัวเองเสมอมา ที่ไม่เคยทำสิ่งเลวร้ายโดยตั้งใจที่จะทำร้ายใคร ไม่ว่าทางกาย วาจา หรือใจ
อยากให้พ่อรู้นะ ว่าภายใต้ความเงียบงันทางคำพูด ภายใต้พฤติกรรมที่อาจจะไม่ถูกใจ ผมพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่มันดีได้เท่านี้ ดีของแต่ละคนมันไม่เคยเท่ากันเลย
มากกว่าคำพูด.. คือความรัก และมากกว่าความรัก คือความห่วงใยที่มีให้กัน ถึงทุกสิ่งทุกอย่างจะซ่อนอยู่ในความเงียบงัน ในมุมเล็กๆบนโลกนี้ก็ตาม
รักเสมอครับ
สิขเรศ เอี่ยมประชา
14 สิงหาคม 2564
โฆษณา