ความรัก 🤵❤️👰
ครั้งหนึ่งฉันเคยระแวงในตัวของคนรัก ขี้หึง ไม่ไว้ใจ ฉันคิดว่าคนรักควรซื้อของที่ควรจะซื้อให้ เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง อาหารดี ๆ ฉันชอบเอาแต่ใจ ฉันหาเรื่องชวนทะเลาะบ่อย ๆ และบ่อยครั้งที่ฉันไม่รู้ว่าความรักมันคืออะไร
“หากเธอคบกับฉันเพราะฉันทำให้เธอรู้สึกสนุกขอบอกเลยว่ามันไม่ใช่และขอให้เลิกกับฉันเสีย”
นี่เป็นคำพูดของคน ๆ หนึ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนรักของฉัน แต่คน ๆ นี้กลายเป็นคน (เคย) รักที่ฉันสนิทที่สุด เข้าใจฉันมากที่สุดและทำให้ฉันเข้าใจความรักอย่างถ่องแท้
ฉันเคยเข้าใจว่าคนรักจะต้องสนองความต้องการที่ทำให้ฉันรู้สึกดี เช่นกลับบ้านตรงเวลา พาฉันไปที่ที่อยากไป ซื้อของขวัญให้และบอกฉันว่าจะไปไหนทำอะไรกับใครเสมอ ต้องอยู่กับฉันตลอดเวลาเหมือนเป็นบัดดี้บัด-เดอร์
เมื่อเขาลั่นประโยคนั้นออกมาในวันที่เราทะเลาะกันและต้องจับเข่าคุย มันทำให้ฉันรู้สึกจุกอกบอกไม่ถูก ฉันได้พิจารณาหลังจากคุยกันว่าการกระทำของฉันนั้นมันช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกินเพราะสิ่งเหล่านั้นที่ฉันได้กระทำมันคือสิ่งที่ควรทำกับทาสไม่ใช่กับคนรักและการกระทำแบบนั้นมันไม่ใช่ความรักแต่มันคือ "การเห็นแก่ตัว"
บางครั้งเราต่างก็หลงลืมไปว่าคนรักของเราเขาก็มีชีวิตที่เป็นตัวเขาเหมือนกัน เขามีสังคมของเขา โลกของเขาที่บางครั้งก็ไม่จำเป็นจะต้องบอกหรือรายงานใครทุกอย่าง ถึงแม้เราจะสนิทกับคนรักมากแค่ไหนแต่การให้ความเป็นส่วนตัวกันมันก็คือสิ่งที่ควรทำเช่นเดียวกับการดูแลซึ่งกันและกัน หากคู่รักของเราคือคนที่เราจะต้องใช้ชีวิตไปจนวันสุดท้ายแล้วการระแวงในตัวเขา การไม่ไว้ใจในตัวเขาจะทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจนวันสุดท้ายได้อย่างไร สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้รักครั้งนั้นแม้ว่าที่ผ่านมาฉันจะเจอกับรักสามเศร้า การแทงข้างหลังมากี่ครั้งแต่ครั้งนั้นทำให้ฉันได้เรียนรู้ที่จะไว้ใจคนรักอีกครั้ง
มีบางครั้งที่ฉันลองขอเขาไปนั่งดริ๊งก์กับผู้ชายคนอื่นฉันอยากจะรู้ว่าเขาพูดอะไร
ไม่เลย เขสไม่พูดพร่ำหรือห้้ามฉันเลย เขาอนุญาตให้ฉันไป นั่นไม่ใช่เพราะเขาไม่รักแต่เพราะเขาไว้ใจในตัวฉัน ไว้ใจในความรักที่ฉันมีต่อเขาเพราะเป็นอย่างนี้ไม่ว่าผู้ชายที่ฉันไปนั่งดริ๊งก์ด้วยนั้นจะหล่อดูดีขนาดไหนฉันก็ไม่เคยทำอะไรที่ผิดศีลธรรมเพราะยิ่งเขาไว้ใจฉันมากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งไม่อยากทำให้เขาเสียใจมากเท่านั้นและการนั่งดริ๊งก์ก็เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพูดคุยเรื่องหนทางชีวิตของแต่ละฝ่ายเท่านั้น มันทำให้ฉันเปิดโลกกว้าง ได้รู้จักและเรียนรู้ประสบการณ์จากคนอื่น ๆ ที่ฉันได้คุยด้วย ฉันดีใจมาก ๆ ที่เขาไม่ใช้ผู้ชายขี้หึงและสามารถมองเราออกทุกการกระทำ
นอกจากนั้นความคิดที่ว่าผู้ชายจะต้องซื้อของขวัญให้ผู้หญิง ซื้อเครื่องสำอางหรือสิ่งที่หลาย ๆ คนบอกว่าควรซื้อให้ ขอบอกไว้เลยว่าฉันไม่เคยได้ของแบบนั้นกับผู้ชายคนนี้สิ่งที่ได้คือหนังสือสองสามเล่มกับตุ๊กตาหนึ่งตัวที่เหลือคือความทรงจำที่เราไปเที่ยวที่ต่าง ๆ อาหารที่เคยกินด้วยกันและบทสนทนาที่เราได้หัวเราะร่วมกันแต่ฉันกลับรักเขามากกว่าทุกคนที่เคยได้คบกัน
ทำไมน่ะเหรอ?
เพราะเขาทำหน้าที่คนรักที่ดีโดยไม่เคยขาดตกบกพร่องเลย เขาคือเพื่อนที่คอยรับฟังเมื่อเวลาที่ฉันไม่รู้จะคุยกับใคร เขาคือคนที่สังเกตฉันได้ว่าฉันกำลังไม่สบายใจเเม้ฉันไม่ได้บอกเขา เขาคือคนรักที่กอดฉันในวันที่ฉันอ่อนแอ เขาคือคนที่ให้กำลังใจในวันที่ฉันไม่รู้จะทำยังต่อไป เราไม่มีการเลี้ยงฉลองวันสำคัญหรู ๆ ดูดีแบบคู่คนอื่นทุกวันสำคัญจะเป็นแค่การนั่งดื่มกันเงียบ ๆ ในห้องแต่เขาก็ไม่เคยลืมวันสำคัญและไม่ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเลย เขาพาฉันไปเที่ยวทุกครั้งที่มีโอกาสแล้วเราก็สามารถเปิดอกคุยกันได้ทุก ๆ เรื่องตั้งแต่สากเบือยันเรือรบและหัวเราะด้วยกันในเรื่องที่เราพูดคุย
บทสนทนาที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างหัวเราะมันตราตรึงมากกว่าสินค้าราคาแพงที่เขาอุตส่าห์เฟ้นหามาได้เสียอีก ภาพความทรงจำที่เราไปตะลุยด้วยกันมันทำให้นึกถึงเท่าไหร่ก็ต้องยิ้มออกมาทุกครั้ง ☺️
เขาไม่เคยมีอีโก้กับฉันเลยแม้จะโต้ตอบด้วยการตะคอกเสียงใส่ก็ไม่มี แล้วแบบนี้ฉันจะยังต้องการของขวัญที่เป็นเงินเป็นทองหรือเป็นสิ่งของจับต้องได้งั้นเหรอ
ฉันค้นพบว่าจริง ๆ แล้วความรักมันมีส่วนผสม 3 อย่าง นั่นคือ การเอาใจใส่ การมีเวลาให้กัน และการเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่สามารถขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้เลย
ความรักที่ขาดการเอาใจใส่ก็เหมือนการมีคนรักเป็นแค่ตุ๊กตาประดับห้อง ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยว่าคนรักของเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อยากไปไหน ทำอะไร อยากกินอะไร มีปัญหาหรือมีความสุขอะไรอยากเล่าหรือเปล่า
ความรักที่ไม่มีเวลาให้กันก็จืดชืดที่นับวันความทรงจำระหว่างกันก็ยิ่งเลือนลางลง เวลาอีกฝ่ายนึงมีปัญหาอยากให้ช่วยรับฟังและแก้ไขแต่อีกฝ่ายไม่มีเวลาให้ ทิ้งให้คนรักคอยแก้ไขปัญหาด้วยตัวคนเดียว
และความรักที่ไม่เข้าใจกัน ไม่เคารพพื้นที่กัน ไม่ไว้ใจกันและกันก็ต้องคอยหาคนที่อื่นที่เข้าใจกว่ามารับฟังปัญหาในคู่ของตัวเอง
ทั้ง 3 อย่างหากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปก็เป็นการเปิดประตูสู่การไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า ฉันค้นพบว่าบางครั้งการที่เรายังคอยมองหาคนอื่นมันไม่ใช่แค่เราไม่รู้จักพอแต่บางครั้งในตัวคนรักของเราเองที่ขาดคุณสมบัติบางสิ่งบางอย่างไปบางครั้งถึงแม้จะมีคนรักแต่ก็ยังรู้สึกหนาวเหน็บเหมือนโดนทิ้งให้อยู่ลำพังทั้ง ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ กัน
และตอนนี้ถึงแม้คนรักที่ฉันพูดถึงนี้เราเป็นแค่เพื่อนกันแต่เขาก็คือคนที่อยู่ในความทรงจำด้านที่ดีที่สุดของฉัน ฉันไม่เคยเสียใจที่ได้รักเขาหรือเลิกกันและถ้าหากย้อนเวลากลับไปที่เดิมฉันก็ยินดีให้เรื่องมันเป็นแบบเดิม เพราะเขาทำให้ฉันเข้าใจว่าความรักคืออะไร หน้าที่ของคนรักคืออะไร การไว้ใจก็คือสิ่งสำคัญที่สุด และการให้เวลาเขาได้ไปทำสิ่งที่อยากทำการมีช่องว่างให้กันก็คือสิ่งเดียวกันกับการเข้าใจกันและดูแลซึ่งกันและกัน
แล้วฉันจะทำอย่างไรหากฉันจะรักใครแต่ก็กลัวเรื่องการแทงข้างหลัง?
ฉันตกลงกับคนที่ฉันคบตั้งแต่วันแรกเสมอว่า ฉันจะไว้ใจในตัวคนรักของฉันทุกอย่าง ฉันอนุญาตให้ไปและทำในสิ่งที่อยากทำไม่จำเป็นต้องบอกว่าไปไหนทำอะไรกับใครแต่ถ้าอาสาจะบอกฉันก็ไม่ว่า ฉันไม่เช็คมือถือเพราะฉันเคารพพื้นที่กันและกัน และฉันจะพูดความจริงกับคนที่ฉันรักทุกประการ แต่ถ้าหากวันหนึ่งฉันรู้ว่าคนที่ฉันรักนอกใจเมื่อไหร่ โอกาสครั้งที่สองที่ฉันจะให้อภัยนั้นคือศูนย์และฉันก็เชื่อว่าผู้หญิงนั้นมีเซนส์
ยมทูตไม่ล้อเล่นเรื่องความตายฉันใดความรักของฉันก็เป็นแบบนั้น ฉันเกิดมาเป็นมนุษย์ไม่ใช่สัตว์ไว้ไถนา ฉันไม่มีเขาและไม่ต้องการการโดนสวมเขารอบที่สอง กระจกเมื่อแตกแล้วต่อให้ซ่อมดีแค่ไหนก็ยังเห็นรอยร้าวอยู่ดี ฉันไม่สามารถมีชีวิตด้วยความหวาดระแวงกับคนที่ฉันอยากใช้ชีวิตไปจนวันสุดท้าย หากครั้งหนึ่งเคยมีประวัติฉันก็ไม่สามารถเชื่อใจคนนั้นได้อีกเลยที่เป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะฉันมีแผลเรื่องการโดนหักหลังเยอะเลยต้องป้องกันตัวเอง
ถ้าหากตอนนี้คุณกำลังมีคู่แต่ทะเลาะกันบ่อย ๆ ไม่เข้าใจกันบ่อย ๆ ลองหันไปมองเขาแล้วตั้งคำถามว่าต้นเหตุที่ทำให้เราทะเลาะกันนั้นคืออะไร บางทีเราเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปหรือเปล่าหรือเขาเห็นแก่ตัวมากเกินไปไหม ลองจับเข่าคุยและพูดคุยถึงปัญหาเพื่อปรับความเข้าใจกันดูไหมเพราะการประชดประชันหรือทำอะไรที่ตรงกันข้ามกับความคิด การมีอีโก้ใส่กันไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นมา
แต่ถ้าหากคู่ของคุณไม่เข้าใจสิ่งที่คุณต้องการไม่สามารถปรับตัวกับคุณได้และต้องการจะเป็นฝ่ายที่เอาชนะอย่างเดียว เพราะความรักคือการเข้าใจและมีความเท่าเทียมกัน คนรักไม่ใช่ศัตรูที่จะต้องมาแข่งกันหรือเอาชนะกันถ้าเป็นแบบนั้นจริงเขาจะใช่คู่ของคุณจริง ๆ เหรอ? คุณต้องการเขาคนนี้ที่จะใช้ชีวิตในบั้นปลายทั้งชีวิตอย่างงั้นเหรอ? เพื่อนของคุณไม่มีใครสามารถรับฟังเรื่องคุณทะเลาะกับคู่ของคุณได้ทุกวันหรอก ลองมองกลับไปแล้วพิจารณาดูว่าสิ่งที่คุณและคู่ของคุณต้องการจะมีในความสัมพันธ์ ต้องการอยากให้ความสัมพันธ์เป็นไปในทิศทางไหนก็ลองเปิดใจคุยกัน แต่ถ้าหากตอนนี้คุณมีความสุขกับความรักของคุณเป็นอย่างมากฉันก็ยินดีด้วยเพราะบางครั้งคนเรามักมองไม่เห็นหรือมองข้ามคุณค่าของสิ่งที่อยู่ในมือจนกระทั่งเสียมันไป
-The Sailor
1ถูกใจ
48รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
