14 ส.ค. 2021 เวลา 11:01 • ท่องเที่ยว
ศาลเจ้าแม่ทับทิม เกาะพงัน
“เจ้าแม่ทับทิม”.. เป็นเทวดาจีนที่สำคัญองค์หนึ่งในไทย เป็นที่รู้จักแพร่หลายมาช้านาน จนกลมกลืนกลายเป็นเทพสำคัญองค์หนึ่งของไทย รู้จักกันในนาม “แม่ย่านาง” .. แต่ในภาคที่เป็นเทพนารีของจีนเรียกกันว่า “เจ้าแม่ทับทิม”เจ้าแม่ทับทิมเป็นเทวดาจีนที่สำคัญองค์หนึ่งในไทย เป็นที่รู้จักแพร่หลายมาช้านาน จนกลมกลืนกลายเป็นเทพสำคัญองค์หนึ่งของไทย นามแม่ย่านาง แต่ในภาคที่เป็นเทพนารีของจีนเรียกกันว่า เจ้าแม่ทับทิม
ผู้รู้บางคนเล่าว่า ... คนจีนก่อนออกเดินทางไปค้าขายในต่างประเทศต้องบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ มีเทพเจ้าอย่างน้อย 2 องค์ที่คนจีนนับถือสูงสุด คือ “เทพเจ้ากวนอู” ที่เฟื่องฟูมากในสมัยราชวงศ์ชิง .. อีกองค์ที่คนไทยเรียก “เจ้าแม่ทับทิม” แต่คนจีนเรียกว่า “หม่าโจ้ว” (แต้จิ๋ว) หรือ “จุ้ยบ้วยเนี้ย” (ไหหลำ) คนจีนถือว่าเป็นเทพเจ้าผู้คุ้มครองทางทะเล
“ศาลเจ้าแม่ทับทิม” เกาะพะงัน .. สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จะตั้งอยู่ บริเวณเนินเขา รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม สามารถมองเห็นอ่าวไทย และเกาะเต่าที่อยู่ห่างออกไปได้อย่างสวยงาม
ใครบางคนเล่าว่า ... จุดเริ่มต้นของการสร้างอาคารที่สวยงามที่เราเห็นอยู่นี้ เกิดจากสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ได้ ฝันว่า “องค์พระโพธิ์สัตว์กวนอิม” มีความประสงค์อยากให้ท่านสร้าง “ประภาคาร” ขึ้น เพื่อช่วยเป็นเครื่องนำทางให้ชาวประมงที่ออกไปจับปลาในทะเล ให้สามารถเดินทางกลับเขาฝั่ง โด เยใช้แสงส่องสว่างจากประภาคารแห่งนี้เป็นหมุดหมายในการเดินทางกลับมายังเกาะพะงันได้อย่างถูกต้อง
... เมื่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะพะงันทราบข่าว จึงมีจิตศรัทธาเข้ามาร่วมกันทำบุญอย่างล้นหลาม จนเงินที่ได้รับบริจาคมีมาก สามารถสร้างศาสนสถานอื่นๆได้ด้วย นอกเหนือจากการสร้างประภาคารเท่านั้น
การก่อสร้างได้เปลี่ยนรูปลักษณ์มาเป็นศาสนสถานในสถาปัตยกรรมแบบวัดจีน .. ประกอบด้วยวิหารขนาดใหญ่ จำนวน 3 หลัง ลดหลั่นระดับตามความสูงของเนินเขาอันเป็นที่ตั้ง
หมู่อาคารตรงกลาง .. ด้านล่าง มีศาลาในสถาปัตยกรรมแบบจีนตั้งเรียงกัน 3 หลัง มีระฆัง และกลองให้ผู้เลื่อมใสได้ตีด้วยไม้ที่ทำเป็นรูปปลา
ฝั่งตรงข้าม เป็นทางที่มีบันไดขึ้นไปยังอาคารด้านบน .. เมื่อเดาตามบันไดมาถึงลานพักแรก เมื่อมองกลับไปยังศาลาด้านล่าง จะเห็นทิวทัศน์หลังศาลาเป็นแนวต้นไม้ ภูเขา และทะเลที่อยู่ไกลออกไป สวยงามมาก
สิ้งสุดทางเดินบันได เป็นอาคารประดิษฐาน “องค์พระโพธิ์สัตว์กวนอิม” ... องค์เทพแห่งความรักและความเมตตา ตามความเชื่อคติมหายาน เป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา ผู้เป็นที่พึ่งของของสัตว์โลกผู้ทุกข์ยากทั้งหลาย เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร .. ผู้เลื่อมใสศรัทธา มากราบไหว้บูชาอยู่เป็นประจำ
ด้านขวามือ มีทางเดินบันไดขึ้นไปยังระดับที่สูงขึ้นไป .. เมื่อมองกลับมา จะเป็นทิวทัศน์ของอาคารที่เราเพิ่งจะเข้าไปสักการะ “องค์พระโพธิ์สัตว์กวนอิม” สวยงามด้วยบรรยากาศแวดล้อมที่ร่มรื่น
...ลานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลา ซึ่งอยู่ระหว่างกลางทางที่เราจะไปยังอีกอาคารที่เห็นอยู่ทางขวามือ
อาคารสถาปัตยกรรมจีนที่อยู่ด้านบน ประดับประดาด้วยรูปปูนปั้น มังกร ที่สวยงาม
ด้านในอาคารเป็นที่ประดิษฐาน “เทพเจ้ากวนอู” .. ซึ่ง เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่คนจีนนับถือสูงสุด เป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่จริงโดยมีเรื่องราวปรากฎในวรรณกรรมสามก๊กเมื่อ 1,800 ปีมาแล้ว
จักรพรรดิเฉียนหลง ในราชวงศ์ชิง ผู้สถาปนาให้กวนอูเป็น “จงอี้เสินอู่กวนเสิ้งต้าตี้" ซึ่งมีความหมายว่า “มหาเทพกวนผู้ยิ่งใหญ่ แห่งความจงรักภักดี คุณธรรม และความกล้าหาญ” เพื่อเป็นแบบอย่างในเรื่องความซื่อสัตย์ กตัญญู รู้คุณ
คนโบราณบูชาเทพเจ้ากวนอู ... เนื่องจากทำการค้าต้องมีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม และมีพวกพ้องที่ช่วยเหลือกัน
เราเดินลงมายังระดับพื้นถนนอีกครั้ง ..
อาคารหลังสุดท้าย .. รูปลักษณ์เหมือนศาลเจ้าที่เราเห็นในเมืองต่างๆ มีบันไดให้เดินขึ้นไป
ด้านหน้าของอาคารมีภาพวาดสไตล์จีน สีสันสดใสมากประดับบนผนัง
ด้านใน มีรูปเคารพของ “พระสังกัจจายน์” ประดิษฐานอยู่ ... พระสังกัจจายน์พระอสีติมหาสาวก "แห่งโชคลาภ" เป็นพระอรหันต์ 1 ใน 80 พระอสีติมหาสาวกในศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้า ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร
พระสังกัจจายน์จีน แบบมหายาน หินยาน โดยเฉพาะแบบจีน มีพุทธลักษณะอ้วน พุงพลุ้ย มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ ... ผู้คนที่เลื่อมใสศรัทธา มักไปกราบบูชากันเป็นเนืองนิตย์ ด้วยเชื่อกันว่า ท่านจะบันดาลโชคลาภ ความร่ำรวย ความรุ่งเรือง ความอุดมสมบูรณ์ สติปัญญา และเสน่ห์เมตตามหานิยม
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา