Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Love Has No Color
•
ติดตาม
14 ส.ค. 2021 เวลา 12:46 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น "พระโขนง"
โดย ภูมิ บุณยสมภพ (รูปแบบงานเขียน บทภาพยนตร์ Treatment)
- เรื่องราวเริ่มต้นในอพาร์ทเม้นย่านมหาลัยพระโขนง (ชื่อสมมุติ) เหล่าวัยรุ่น 4 คนทั้งชายและหญิง เริ่มเล่าเรื่องผี ตำนานของมหาลัย ซึ่งหนึ่งในตำนานที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ชื่อว่าผีอีนาค ดาวเด่นคณะศิลปะกรรม ที่แท้งตายในห้องพัก ขณะตั้งท้องกลม ข่าวดังไปทั่วไป เพราะทั้งสี่ทั้งชั้นไม่มีคนกล้าอยู่ เพราะผีอีนาค กลมลูกทั้งคืน จนผู้เช่าหนีหายกันหมด แต่เหล่าสาวๆไม่เชื่อว่าตำนานเป็นเรื่องจริง เพื่อนชายจึงเข้าเว็บมือถือ และให้อ่านข่าวสยอง ซึ่งในรูปเป็นอพาร์ทเม้นต์แห่งเดียวกัน ทุกวันนี้คนย่านยังคงเห็นนาคอุ้มลูกทารก เดินไปไหนมาไหนข้างของแสนแสบ
- สาวๆเริ่มสยองและถามว่าทำไมถึงยังกล้าอยู่ หนุ่มๆว่า ผีอีนาคไม่ได้ทำร้ายใคร ถ้าไม่มีใครไปทำร้ายเธอก่อน และล่าสุด พี่ฝ้าย รุ่นพี่ปีสี่ เมามาก และหมั่นไส้อีนาค แม้กระทั่งเป็นศพ ผ้ายันต์ติดทั่วประตูหน้าห้องอีนาค เธอไม่ยอมเข้าห้อง แต่ดันไปยืนด่าหน้าประตูห้องที่ดูสยอง เธอวาดรูป นาคยิ้ม และสวมมงกุฏ ฝ้ายกล่าวหาเธอว่า ไม่ดี หรือสวย เพอเฟ็คตรงไหน อีดอก มันแรดเงียบ ท้องไม่มีพ่อ ทันใด ประตูห้องอีนาคก็เปิด ฝ้ายล้มลงไปในห้อง และเธอค่อยๆลุกขึ้นมา มีด้ามเหล็กอุปกรณ์แกะสลัก ทะลุเสียบปากของฝ้าย ราวกับผีอีนาค จงใจทำให้เธอหุบปาก และนั่นคือครั้งสุดท่าย ที่มีคนกล้าลองดีกับผีอีนาค
- แต่สาวๆคิดว่าเรื่องเล่ามันไร้สาระ เลยเปิดเพลงเสียงดังสนั่นและปาร์ตี้ต่อ แต่หนุ่มขอร้องให้พวกเธอเบาเพลง เพราะอีนาคไม่ชอบให้ใครเสียงดัง เพราะกลัวลูกจะตื่น สาวๆคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่ทันใด ก็มีเสียงผู้หญิงคลอเพลงกล่อมเด็ก ทุกคนหน้าผวา เพราะเสียงดังมาจากห้องน้ำ แต่เมื่อไปดูมันเป็นเพียงเสียงของท่อน้ำ แม้ทุกคนจะโล่งแต่ แต่ใครกันที่อยู่ชั้นสี่ เพราะทั้งชั้นทุกคนหนีผีอีนาคกันหมด
1
- ทั้นใด ก็มีเสียงเคาะประตูดังถี่ยิบ สี่วัยรุ่นผวาเกี่ยงกันไปเปิด โดยคนที่อยู่นอกห้องไม่ใช่ผีอีนาค แต่เป็นผู้ชายรูปหล่อหน้าตาดี (พี่มาค) เค้าขอให้วัยรุ่นเบาเพลงลงหน่อย เพราะตอนนี้ เมียกับลูกเค้ากำลังนอนหลับ ซึ่งพี่สุดหล่อว่า เค้าอยู่ชั้นบน เหนือหัวห้องของสองหนุ่ม ทั้งหมดได้ยินดังนี้จึงผวา! หน้าซีด แต่ก็ตามน้ำพยักเออออ แต่หลังประตูปิดลง ทั้งสี่ก็แย้งกันแสดงความเห็น ซึ่งสรุปตรงกันว่า “ผีบดบัง” น้องผีนาค อยากเอาพี่สุดหล่อไปอยู่ในโลกหน้าด้วย พี่เค้าโดนของเข้าแล้ว! เหล่าสาวๆสงสารพี่รูปหล่ออยากให้สองหนุ่มแสดงความกล้าหาญ ช่วยเหลือผู้อื่น ยามมีปัญหา โดยการขึ้นไปบอกความจริง “ว่าอีนี่เป็นผีไม่ใช่ เมีย” แล้วสองหนุ่มก็ครุ่นคิดอยู่พัก
1
- ตัดมาอีกที ข้าวของแทบจะวางกองเต็มประตูลิฟต์ เหล่าสองหนุ่มนศ.ที่ไม่ได้หล่อเหล่าแต่ก็กลัวว่าจะเป็นรายต่อไปที่จะถูกผีน้องนาคจับทำผัว จึงหอบของย้ายด่วนในทันที แต่ระหว่างลงลิฟต์ สลิงดันเผือกฉุดดึงขึ้น (มุกผีในลิฟต์ก็ดันมาตรงจังหวะ) และเลขลิฟต์ก็มาจอดชั้นบนสุด ทั้งหมดไม่กล้าลืมเมื่อประตูลิฟต์เปิด แต่ปรากฏว่าคนกดคือ มาค อีกครั้ง โดยเค้ากำลังลงไปเทขยะ ขอให้น้องๆกดลิฟต์รอแปบ ยังมีชิ้นใหญ่อีก 1 ชิ้น เมียพี่มาคฝากมา ซึ่งระหว่างที่สนทนา สองสาวรู้สึกทนไม่ไหวอยากจะบอกไปว่า “เมียพี่เป็นผ…”
1
แต่ไม่ทันได้เปร่งเสียง ไฟไม่ได้ดับ แต่มันดันหลอดแตก กระจายไปทั้งชั้น เสียงภายในห้อง นาคกรีดร้องเหมือนทำของแตก มาครีบขอตัวรีบวิ่งไปดูเมีย ซึ่งระหว่างที่มาคบ่นพึมพำ มือยาวๆ ของนาคก็โผล่ออกยาวขึ้น ยาวขึ้นจนมาถึงหน้าลิฟต์ เธอยื่นถุงขยะ(ถุงผ้ากลัวโดนเซ็นเซอร์) ให้กับเหล่าวัยรุ่น สองหนุ่มอ้าปากช๊อค แต่ยอมรับของ เมื่อมีผู้ใหญ่ยื่นให้ แถมมือของนาคไม่ต้องแสดงความโหดสยองอะไร แค่ยกนิ้วโป้ง Like ทั้งหมดพยักหน้ายินดี นิ่งๆ แต่เมื่อลิฟต์ปิดลง หนุ่มสาวก็ร้องกรีดลั่นทุ่ง
- ทั้งสี่เอาเรื่องไปบอก เจ้าของหอพัก หนุ่มวัย 40ต้นๆ จิบกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาว ราวกับได้ยินเรื่องราวผู้เช่าเจอผีน้องนาคเล่นงานจนเคยชิน แถมพลางฟังไปเปิดตู้เย็นไปเปลี่ยนให้กับศาลเจ้าจีนที่พื้น เจ้าของหอ ส่ายหน้าบ่นพึมพำว่าเด็กกำลังโต และเปลี่ยนขวดน้ำแดงขวดใหม่ให้ โดยเหล่าวัยรุ่นทั้งสี่ ดูจะอึ้งๆที่เจ้าของหอตามเก็บของเล่นตามพื้น และบ่นให้เด็กดื้ออยู่นิ่งๆ ซึ่ง ไม่มีใครเห็นว่ามีเด็กที่ไหน แถมเจ้าของหอยินดีที่จะคืนมัดจำ และพูดเซ็งๆ แต่เมื่อรู้ว่าทั้งหมดพูดถึงพี่รูปหล่อ แต่งชุดทหารไทย เจ้าของหอก็ตาลุกวาว และพูดอย่างยินดีว่า มาค กลับมาแล้วเหรอ ดีจริง ในที่สุดครอบครัวก็ได้กลับมาเจอกัน
ซึ่งคำนี้ยิ่งทำให้วัยรุ่นไม่ปลื้ม เพราะน้องผีนาคจะบดบังเอาชีวิตพี่มาคไป เจ้าของหอหัวเราะและคิดว่าพวกวัยรุ่นเข้าใจผิดถนัด ไม่มีทางที่นาคจะทำร้ายผู้ชายคนนี้แน่ๆ เหล่าวัยรุ่นจึงสงสัย ถามเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำไมพี่เค้าถึงยังรักผี เจ้าของหอมองไปยังภายนอกที่ดูหดหู่ และบอกกับทุกคนว่า เมื่อก่อน มันไม่ใช่แบบนี ที่นี่เคยมีสีสัน และมาคกับนาค ก็ทำให้ที่นี่ดูมีชีวิตชีวิต
- ภาพแทนสายตาเจ้าของหอพักเริ่มเล่า ภาพอดีตก็แล่นเข้ามาให้เห็น แมนชั่นที่ดูสยองราวกับหลุดมาจากในเรื่องบุปผาราตรี ย้อนเมื่อ 3 ปีก่อน ภาพเฟดจากมืดเป็นรุ่งเช้าที่สดใสในเฟรมเดียวกัน จากเก้าอี้โต๊ะ ที่ว่างเปล่า เต็มไปด้วยวัยรุ่นนิสิตนศ. หนุ่มสาวนั่งติวหนังสือ บ้างจับกลุ่มเล่นกีต้าร์ กดมือถือ แต่เมื่อขาขาวๆ ลงจากแท็กซี่ เหล่าหนุ่มก็พากันสะกิด ให้ทุกสายตาเพ่งไปยัง “นาค” หญิงสาว อายุราวๆ 17-19 ปี เธอดูเป็นมิตรไหว้คุยทักทายกับแท็กซี่ ยังกับรู้จักกัน คนขับแท็กซี่ช่วยหิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ให้ แต่นาคขอเข็นไปเอง เธอตรงมายังห้องทำงานเจ้าของหอ เพื่อถามหาห้องเช่ารายเดือน จขห. ถามว่าจะอยู่นานแค่ไหน เธอว่าจนกว่าจะเรียน มหาลัยพระโขนงจบภายใน 4 ปี (ชื่อมหาลัยสมมุติ) เหล่าหนุ่มหูดีได้ยินก็พากันเช่นแก้วน้ำอัดลม ราวกับว่าวันนี้มีเครื่องบินเจ็ทมาจอดให้เหล่าหมาหนุ่มได้เฝ้ามองเป็นอาหารตาในทุกๆวัน
- เจ้าของหอ(จขห.) พานาคทัวร์ชมห้องสูท ถ้ามีเพื่อนแชร์ค่าห้องหรือแฟนยิ่งสบาย ห้องกว้างขวาง แต่นาคว่า ไม่มีทั้งแฟนและเพื่อน เพราะเธอเพิ่งย้ายมาจาก ตจว. ส่วน จขห. ก็เสริมว่าถ้ามีพ่อแม่มาเยี่ยมก็นอนในห้องรับแขกได้สบายๆ แต่นาคก็เสริมต่อว่า พ่อแม่หนูเสียชีวิต ตั้งแต่เรียน ม.4 เธอขายของในอินเตอร์เน็ตโดยไม่ได้ขอเงินแม้แต่ของญาติพี่น้อง ซึ่งสรุปแล้ว จขห.ก็ไม่แพ้หนุ่มๆวัยรุ่น เพราะ จขห.ก็ว่าเค้าทั้งโสด และพ่อแม่เสียชีวิตเหมือนกัน ถ้าหนูเหงา พี่ก็พร้อมจะอยู่เป็นเพื่อน คุยได้ทุกเรื่อง แต่นาคดูไม่สน แถมพยายามเชื้อเชิญให้ จขห.ออกไปจากพื้นที่ส่วนตัวหลังเธอได้รับกุญแจห้องเรียบร้อย
- เมื่อทุกอย่างเงียบสนิท นาคก็กระโดดลงไปยังโซฟานุ่มๆ เธอดิ้นดีใจเหมือนเด็กๆ ก่อนจะรีบหยิบ รูปถ่ายพ่อแม่มาวางยังชั้นวาง เธอเริ่มพูดคุยกับท่านราวเด็กหญิงวัย 6 ขวบ คุยกับเพื่อนในจินตนาการ เธอว่าเธออยู่ได้ และสัญญาว่าจะเรียนให้จบ จะไม่สนเรื่องผู้ชายอย่างที่พ่อแม่เตือนมาทั้งชีวิต เชื่อนาคเถอะแม่ นาคไม่ท้องแน่นอน จะท้องก็คงท้องป่องเพราะน้ำหนักซะมากกว่า ซึ่งรูปพ่อแม่ของนาค เปรียบดังที่พึ่งเดียวทางใจ เธอได้ทั้งระบายและตั้งคำถามกับท่านว่า วันพรุ่งนี้ ชีวิตมหาลัยวันแรกของเธอจะเป็นเช่นไรกัน
- เช้าวันใหม่ นาค ได้พบเพื่อนใหม่แก๊งสาว ด้วยความเป็นผู้หญิงง่ายๆ ท่าทางเป็นมิตร ทำให้ไม่แปลกที่จะไม่มีใครไม่อยากเข้าหา และในช่วงรับน้องปฐมนิเทศน์ เธอก็ถูกรุ่นพี่จับตา แก๊งสาวเชียร์รีดเดอร์เข้ามาขอเซ็นสัญญาจับเป็นตัวชูของคณะศิลปกรรม และทั้งคณาอาจารย์จนถึงรุ่นพี่ รุ่นน้อง ต่างลงความเห็นว่า เธอจะต้องเป็นดาวของคณะ และของมหาลัยพระโขนง แน่นอน แม้ปากนาคจะปฏิเสธ ไม่ซ้ำๆ
- ตัดมาอีกทีเธอก็มีมงกุฎติสๆแบบใบไม้โรมันสวมที่ศีรษะ แต่หน้าตาของนาคไม่ได้โบกมือยิ้มแบบนางสาวไทย เธอบึ้งตรึง และปากยังพูดว่า ไม่ ไม่ ไม่ แต่มงคาที่หัว
- ซึ่งแค่เป็นดาวมันก็ไม่หนักเท่าภารกิจต่อไปของชีวิตเด็กนศ.ปี 1 คือตามหาพี่รหัส โดยการจับฉลาก และบังเอิญ ที่พี่รหัสของ นาค ยังชื่อคล้าย นาค เพียงแค่เปลี่ยนอักษรตัวเดียว “นาค Nak” จับได้ “มาค Mak” ราวกับชื่อมันจงใจให้ทั้งสองคู่กันราวพหรมลิขิต เหล่าสาวๆรุ่นพี่พากันอุดปากตื่นกลัว ขณะที่หนุ่มรุ่นพี่ตั้งแต่แว่นหนา ยันนักเลงซ่าส์ พากันแย้งชิง อ้างตนว่า พี่นี่แหละ พี่มาคของน้องนาค เหล่าหนุ่มๆเริ่มคลั่งแทบจะตีกัน ตะโกนแหกปากใส่นาคว่า พี่คือมาค พี่คือมาคคคค!! จนนาคต้องทิ้งใบหน้าดำดิ่งลงไปในอ่างล้างหน้าภายในห้องน้ำหญิง
- เธอมึนงง ปวดหัวจนอยากจะหลุดมาตะโกนกรีดร้องในน้ำอ่างที่ท่วมเต็ม และเมื่อเงยหน้าขึ้นมา เธอก็ได้พบกับ อดีตดาวคณะ พี่ส้มโอ เธอแนะนำตัว และบอกว่าจริงๆ ชื่อส้ม แต่เข้ามามหาลัย พวกผู้ชายก็เรียกเธอ ว่าส้มโอจนเป็นฉายา ซึ่งนาคไม่แปลกใจเพราะหน้าอกของส้ม มีขนาดใหญ่ราวๆส้มโอ ส้มโอแนะนำการวางตัวดาวคณะนิดหน่อย ก่อนจะเตือนว่า เธอจะทำตัวแรดๆ ยังไงก็ได้ ไม่มีใครสนว่าเธอจะเป็นดาวรุ่งหรือดาวตก
แต่ขอเพียงข้อเดียว กฏคือห้ามยุ่งกับพี่มาคเด็ดขาด นาครับปากสัญญาขอเพียงได้แค่เบอร์และรูปคู่เพื่อยืนยันให้รุ่นพี่เห็น แล้วเธอจะห่างคนที่พี่ส้มโอเตือนอย่างไม่ลังเล ส้มโอดูจะเชื่อใจ เลยใบ้ว่า มีผู้ชายไม่กี่คนที่มีความสุขกับคลองแสนแสบ นาคฟังปริศนาจึงพาเพื่อนๆไปยังท่าเรือด่วนที่ผู้คนเร่งรีบ เบียดเสียดหน้าบึงกันถ้วนหน้า นาคแทบไม่เห็นวี่แววของคนยิ้มกับคลองแสนแสบ หรือจะเป็นลุงแก่ๆที่ยิ้มตกปลาดีใจ แต่ก็ถอดยิ้มเมื่อสิ่งที่ได้คือรองเท้าเก่า หรือจะเป็นเด็กๆ 7-8 ขวบ บ้านติดคลองที่พากันกระโดดยิ้มแย้ม ก็คงไม่ใช่ เว้นแต่เด็กพวกนี้จะอัจฉริยะเรียนเร็ว นาครู้สึกหมดหวัง อยากถอดใจ
แต่ไม่ทันไร เมื่อเธอเงยหน้าพระอาทิตย์ดวงกลมสีแดง ก็ย้อนแสงของชายหนุ่มที่กำลังขี่เจ็ทสกี ยิ้มหน้าหล่อ ดูราวกับพี่เค้าคิดว่ามันคือสมุย แสงอาทิตย์ส่องกระทบใบหน้า และสายน้ำกระเด็นเป็นประกาย เหล่าเพื่อน 2-3 คน อ้าปากค้างอยากย้อนเวลาไปชิ่งจับฉลากก่อนหน้านาค เพื่อจะได้มีโอกาสได้ พี่มาคเป็นพี่รหัส
- เหล่าแก๊งสาวมั่นใจว่าตานี่แน่ๆ ซึ่งนาคคงไม่รอให้ตาบ้า เพี้ยนเล่นสกีในน้ำคลองขึ้นฝั่ง เธอจะรีบโบกมือเรียกเค้าแบบรถเมล์ แต่ทันใด มาคก็เหมือนจะตั้งใจ หรือแกล้งไม่เห็นปาดสายน้ำราวคลื่นลูกใหญ่สาดเข้าใส่ใบหน้าและชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยมแบบไม่เป็นชิ้นดี
- ขณะที่นาคปวดหัวเข้ามาล้างหน้าในห้องน้ำหญิง ส้มโอ ดาวรุ่นก่อนเธอมาดูท่าทางจะเป็นห่วงเธอ และขอร้องว่า อยู่ให้ห่างผู้ชายที่ชื่อว่ามาคซะ แต่ไม่ว่ายังไงเธอต้องตามหามาคให้เจอตามกฏ โดยส้มโอ ใบ้ ให้ว่า คงไม่มีผู้ชายคนไหน มีความสุขกับคลองแสน เมื่อนาคได้ยินดังนี้ จึงออกไปยังคลองแสนแสบ เฝ้าดูผู้คน ที่ดูหดหูนั่งเรือด่วน คนแก่จับปลาได้กระป๋องขึ้น หรือคนที่มีความสุขกับคลองแสนแสบจะมีแต่ เด็กๆที่กระโดดเล่นน้ำ
- นาคคิดว่าคงตามหาคนๆนั้นไม่เจอ แต่ทันใด เจ็ทสกีคันงามก็แล่นมาด้วยความเร็วสูง มาคยิ้มแย้ม ดูมีความสุขในการท่องคลองมืดสนิท เพื่อนๆนาคเห็นมาคก็น้ำลายหก ไปตามๆกัน แต่นาคเฉยๆ เพราะไม่ได้ชอบผู้ชายที่เกเรทำตัวประหลาดแบบนี้ เธอต้องการแค่ได้เบอร์และรหัสไอดีไลน์ เพื่อเป็นการยืนยันว่าพบพี่รหัส แต่การจะเรียกมาคให้ขึ้นจากน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย นาคต้องออกไปยืนข้างคลอง เพื่อโบกมือขอให้นาคหยุดเรือเจ็ทสกี แต่ดูชายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย จะทำเป็นเหมือนไม่เห็น แถมปาดน้ำกระจาย เต็มร่างของนาค ที่เหม็นหึ่งไปด้วยน้ำคลองแสนแสบ แถมตามาคก็ไม่ขอโทษแล่นไปไกลริบโดยไม่มีวี่แววจะกลับมา
- นาคเดินเปียก กลับแมนชั่น โดยมีเพื่อนขับรถเก๋งช้าๆ เปิดกระจกขอโทษที่ไม่กล้าให้ติดรถจริงๆ เพราะกลิ่นคลองแสนแสบแรงมาก นาคหน้าหงิกเกลียดมาคตั้งแต่แรกพบ และไม่มีทางที่เธอจะญาติดี แถมลืมเรื่องพี่รหัสไปได้เลย เธอไม่จำเป็นต้องมี จะให้ทำโทษซ้อมหนักแค่ไหนก็ยอม
- ในเช้าวันใหม่ เพื่อนๆตามหานาคที่นั่งในห้องสมุดเป็นหนอนหนังสือ เพื่อนขอให้เธอเลิกอ่านหนังสือที่ไม่ได้ออกสอบซะที เพราะตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญกว่า เหล่าเพื่อนรีบเปิดคลิปยูทูป Chanal ชื่อ On Your Mak ซึ่งตามาค มีคนติดตามหลักล้าน ทำคลิปฮาๆ แกล้งคน หรือ แก้แค้น เช่น แท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร พี่เอารถพ่วงมาหิ้วแบกรถแท็กซี่ที่จอดไปที่อู่ส่งรถ จนแท็กซี่ต้องวิ่งตาม
เมื่อพบว่ารถตนเองมาจอดที่อู่จริงๆ หรือ เรือด่วนวิ่งเป็นจรวด จนสร้างคลื่นลูกโตใส่ประชาชนที่รออยู่จนล้มทั้งยืน On Your Mak ก็จัดให้ แกล้งขี่เจ็ทสกีไปปาดคลื่นใส่ คนขับเรือที่กำลังนั่งกินก๋วยเตียวอยู่ริมคลองแสนแสบ สั่งแห้งแต่ได้น้ำคลองมาเต็มๆ เพื่อนสาวขำกันเสียงดังจนถูกคนรอบตัวดุ เพราะนี่ห้องสมุด และนาคก็ยังทำเสียงดัง ดุใส่เพื่อนที่โม้เรื่องราวความรวย แถมมีพ่อเป็นถึงทหารยศสูงให้นาคฟังว่า นามสกุลนี้ ใครๆก็รู้จัก ซึ่งนาคก็ยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ ตะโกนคำว่า ไม่ ไม่ ไม่เจอเว้ย ไม่ว่ามันจะหล่อรวยแค่ไหน พวกสันดานเสีย ทำตัวไม่รู้จักโต
- ระหว่างคาบเรียน เพื่อนๆที่ปั้นหม้อแกล้งทำท่าทางแบบหนังคลาสสิค GHOT ไม่รู้จะเข็นเพื่อนให้เจอยังไงจึง แกล้งหลอกว่า ไม่ได้เบอร์ไลน์รูปคู่เซลฟี่ ก็โดนทำโทษ และสำหรับผู้หญิง ปีที่แล้วรุ่นพี่ผู้ชายเอากล้วยมาแขวนกางเกงแล้วให้รุ่นน้องผู้หญิงที่หาพี่ไม่เจอกิน นาคยิ่งฟัง เพื่อนๆพูดแถมออกท่าทาง ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอพูดดังว่า “มันอยู่ไหน พากูไปหามันเดี๋ยวนี้เลย”
- หน้าร้านกาแฟมุมโปรดของมาค นาคจำใจ มายืนท้องสคริปโพยแนะนำตัว ซึ่งจริงๆปากจะบอกไม่ชอบ แต่ท่าทางเธอจะตื่นเต้นจนพูดผิดๆถูกๆ เมื่อจ้องมองผู้ชายคนนี้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จิบกาแฟนั่งไขว้ห้างเท่ๆกับหน้าจอไอแพท นาคตัดสินใจ เข้าไปหา เธอทำตัวไม่ถูกยื่นแผ่นกระดาษให้ มาครับไว้แล้วเซ็นลายเซ็นก่อนจะคืนให้เธอ นาคว่านาคไม่ใข่แฟนคลับ มาคหัวเราะขอโทษ แต่ถ้าจะเป็นเบอร์โทรคงไม่ได้ นาคกะจะรีบพูด ว่าไม่ใช่ แต่มาคก็พูดยาวไม่หยุดปาก เช่น พี่อาจจะยังไม่มีแฟน แต่เค้าคิดว่า น้องของไม่เข้ากับพี่ เพราะนาคดูจะหน้าตาออก HOUSE House , Home HOME ไปหน่อย นาคมึนงง ไม่เข้าใจ เพราะสองคำนี้ก็แปลว่าบ้านเหมือนกัน สักพักเธอถึงบางอ้อ ทำหน้าโกรธจัด เมื่อรู้ว่าโดนหลอกด่าว่า “หน้าบ้านๆ” ก็ถึงคราวที่เธอจะแสดงความอัดอั้น เทศนายาว ว่าเธอก็ไม่ได้สนใจผู้ชายแบบนี้หรอก เพราะรูปหล่อพ่อรวย
เดี๋ยววันนึงถ้าสมมุติ แถมไหว้ขอโทษล่วงหน้า ถ้าสมมุติ พ่องพี่เกิดตายขึ้นมา พี่จะอยู่ยังไง วันๆเที่ยวใช้เงินใช้ทอง เดี๋ยวก็หมด ขณะที่เพื่อนอยู่ภายนอก เฝ้ามองสถานการณ์ อยู่ไกลๆ ก็ดูจะโอเค เพราะนาคพูดไหลกว่าที่ทุกคนคิด เว้นเพียงแต่ สีหน้าตอนพูดเธอควรลดๆความจริงจังลงหน่อย เพื่อนๆช่วยกันจดโน๊ต จุดบอดของนาคราวกับไลฟ์โค๊ดชีวิตรักในวัยเรียน
- นาคหน้าบูดเดินออกจากร้านโดยมีเพื่อนวิ่งถามติดตามผล นาคไม่พูดอะไรแค่บอกว่าต่อให้แดกกล้วยคนทั้งรุ่นกูก็จะยอม ยกเว้นอย่าให้ได้เจอ ได้พูดกับไอ้พี่มาคอีกเป็นพอ “กูเกลียดมัน” โดยตัดมาทางมาค เค้าได้แต่อึ้งนั่งซึมไปพักก่อนจะเดินไปให้ตังค์เจ้าของร้านแบบมึนๆ เจ้าของร้านทอนเงินให้ แต่เค้าพูดจนชินว่าไม่ต้องทอน เจ้าของร้านกาแฟ ยืนยันให้เค้าเก็บเงินไว้ แถมย้ำว่า เผื่อพ่องมึงตาย และหัวเราะไม่หยุด มาคแอบกระซิบบอกย้ำว่าห้ามให้พวกเพื่อนๆรู้เด็ดขาด เจ้าของร้านยกนิ้วโอเค และย้ำว่า อย่าปล่อยให้เธอหลุดมือ ไปซิวะ รีบไปซะ
- นาคหน้าเหวี่ยงรีบกลับไปยังรถเพื่อน เธอไม่ตอบเพื่อนสักคำ ขอเพียงรีบเปิดประตูเปิดแอร์เย็นๆแล้วไปส่งเธอที่หอซะ เพราะเธอมาเรียนที่นี่เพื่อเอาปริญญา ไม่ได้มาหาผัว เพื่อนเจ้าของรถรีบยกมือไหว้กดรีโมทเปิดแอร์เย็นๆให้เพื่อนแทบไม่ทัน ขณะที่ถอยหลังออก มอเตอร์ไซค์ฮาเร่คลาสสิค ราคาแพงสุดๆ ก็มาบังขวางทาง นาคบอกช่างแม่งชนแม่งไป พ่อพี่แม่งรวย เดี๋ยวก็งอแงให้พ่อซื้อใหม่ แต่เพื่อนเจ้าของรถหน้าเจื่อน บอกเพียง พ่อพี่อาจจะรวย แต่พ่อกูไม่รวยนะนาค มึงลงไปเคลียร์กับพี่เค้าเถอะ
- นาคลงไปเจรจา มาคถึงเข้าเรื่องขอโทษและยอมรับว่าแซวเล่น ที่แกล้งทำเป็นพูดไม่สน บางครั้ง ก็เพราะอยากทำให้ตัวเองแตกต่าง เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนในมหาลัยที่จะไม่ชอบคุณ นาคยังไม่เชื่อคารมเพราะ มั่นใจมาควันๆเที่ยวแข่งรถแข่งเรือ ไม่มีทางจะเข้ากิจกรรมรับน้อง แต่มาคแม้จะไม่พูดอะไร แต่ในความคิด ย้อนอดีต ตอนนาคประกวดดาวคณะ มีคำถามที่สุ่มจับฉลาก ถึงเรื่องความรักในวัยเรียน นาคตอบดีมาค และเค้ายังจำทุกประโยคได้ดี สำหรับนาค เธอคงจะรักษารักในวัยเรียนไว้ เพราะหลังจากจบมหาลัย โอกาสในการหาคู่แท้จะน้อยขึ้น ส่วนใหญ่ 60-70% ของคู่รักที่มีครอบครัวและลูกๆ เกินขึ้นจากความรักความสัมพันธ์ในวัยเรียน และถ้านาคเจอ ผู้ชายที่ทำได้อย่างที่พ่อนาคทำให้แม่ นาคก็ไม่มีวันปล่อยให้ ผู้ชารยคนนนั้นหลุดมือ
- ย้อนไปอดีต ขณะที่นาคอยู่บนเวที รุ่นพี่ที่นั่งๆอยู่ฟังจบก็ลุกขึ้นปรบมือ โดยที่มาคนั่งนิ่ง จ้องมองนาคราวกับเธอสะกดเค้าไว้ด้วยรอยยิ้ม ย้อนไปช่วงที่นาคจับฉลาก เมื่อเธอได้จับคำว่ามาค เขารีบถอยห่างหนีออกไปในทันที โดยฉากหลัง มาคดูประหม่ามากๆ แถมพูดคุยแนะนำตัวกับกระจกห้องน้ำเพียงลำพัง
- เมื่อนาคได้ยินคำที่คนละขั้วกับภายนอก เธอจึงเริ่มเย็นลง เพราะมาคขออาสาไถ่โทษขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่หอ แต่นาคอ้างว่ามารถเพื่อน ซึ่งไม่ทันพูดขาดคำ เพื่อนก็รีบออกรถ ทำท่าทางรำคาญชักช้า หิวข้าวกูทิ้งมึงแระ ปล่อยให้นาค หาเหตุผลไม่ซ้อนท้ายไม่ได้ เมื่อนาคซ้อนมอไซค์มาค เค้าก็ค่อยๆขับช้าๆ แบบแทบจะช้าที่สุด นาคสงสัยว่านี่พี่แห่นางแมวอยู่หรือ จะช้าไปไหน มาคว่าเขตรั้วมหาลัยมีมารยาทหน่อย นาคแบะปากพยัคหน้า แต่เมื่อกวาดสายตา มองไปรอบกาย เหล่าสาวๆพากันทำหน้าเปลี่ยนสีเป็นอิจฉาตาร้อน มองนาคเป็นตาเดียวกัน ขณะที่มาคก็ไม่แพ้กัน เพื่อนๆที่กำลังพ่นสีสเปรย์ทำงานศิลปะ ก็พากันสะกิดให้ดูไอ้เห..มาค ทั้งคู่พูดพร้อมกัน กูจะโดนกระทืบ/ตบ มั้ยวะ! นาคเริ่มหมั่นใส่ ไหนๆก็จ้องดีนัก เธอจึงแกล้งโอบกอดมาคในทันที ซึ่งครั้งนี้คำว่า อีดอกนาคดังจากปากทุกคนแบบไม่ต้องเปร่งเสียง
- บนท้องถนน นาครู้สึกดีมากๆก่อนจะลืมตัว ว่าพ้นเขตมหาลัยก็ปล่อยแขนที่โอบ และย้ำว่าที่ทำเพราะหมั่นไส้ผู้หญิงพวกนั้น มาครู้สึกเสียใจ แต่พนันว่า ยังไงเดี๋ยวนาคก็ต้องโอบ นาครีบบ่นหาว่าผู้ชายบ้าอะไรหลงตัวเองฉิบหาย เธอไม่มีทางจะโอบแน่.. .ไม่ทันไรมาคก็เร่งบิดแรงจนนาคโอบเอวกรีดร้องเสียงหลง
- รถมอเตอร์ไซค์วินเทจจอดหน้าแมนชั่นพระโขนงเพลส นาคหัวฟูลงจากมอไซค์ เธอหน้านิ่งขอบคุณ แบบห้วนๆ ก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตาเดินเข้าแมนชั่นพระโขนง แต่มาคก็ตะโกนเรียก ถามว่าตกลงไม่เอา ไลน์แล้วก็เซลฟี่รูปคู่ไปยืนยันรุ่นพี่แล้วเหรอ นาคนึกขึ้นได้รีบเดินกลับไปขอถ่ายรูปด้วย นาคโชว์เปิดกล้องมือถือตั้งมุมเซลฟี่แบบเขิลๆรีบๆ แต่มาคยังไม่ทันตั้งตัว แถมกล้องก็ไม่ค่อยจะชัดมือถือก็เก่า มาคเลยเอามือถือตัวเองถ่ายเซลฟี่ แต่เมื่อนาคขอเช็ครูปเธอก็บ่นไม่หยุด แถมไม่เชื่อว่านี่รุ่นพี่ศิลปกรรมแท้ เพราะถ่ายรูปได้ห่วยมาก นาคขอถ่ายเอง เธอตั้งมุมกดภาพ สอนวิธีการเซลฟี่สวยๆ แถมยิงไปหลายรูป จนสักพักนาคเริ่มได้สติ รีบคืนมือถือ และสแกนคิวอาร์โค้ด ก่อนเพ่งเข้าแมนชั่นพร้อมโค้งขอบคุณ มาคส่ายหน้าหัวเราะสตาร์ทเครื่องบิดออกไปไกล
- นาคจากที่เดินนิ่งๆ พอพ้นประตูกระจกภายในแมนชั่น เธอก็กรีดลั่น จนเจ้าของหอตกใจสะดุ้งตื่นรีบเอาไม้หน้าสามออกมาช่วย นึกว่ามีใครถูกข่มขืน แต่นาคอ้างว่านึกว่าเจอแมงสาบ เห็นบินได้ แต่พอหนูดูดีๆ มันกลับเป็นผีเสื้อ เลยตกใจกรีดแตก จขห. ขมวดคิ้วพยักหน้ามึนงง ดูท่าทางร่าเริงอารมณ์เด็กสาวในทุ่งราเวนเดอร์
- นาคอาบน้ำฮัมเพลงรัก เธอสวดมนต์ไหว้รูปพ่อแม่เสร็จ ทำท่าทางเหมือนเตรียมจะหลับ แต่ก็นอนไม่หลับมาเปิดดูรูปที่มาคส่งมาเป็นชุดๆ ซึ่งเธอถ่ายเป็นสิบๆเก็บทุก 2วิ. เป็นสิบแอ็คชั่น นาคยิ้มหวานแทบจะมุดหายเข้าไปในจอมือถือ เธอทนไม่ไหวออกมานั่งสูดอากาศริมระเบียง พลางพูดคุยกับรูปถ่ายไม่ต่างจากคุยกับพ่อแม่ที่จากไป ต่างเพียงตอนนี้ คนในรูปคือมาคที่ยิ้มมองกล้อง เธอถามรุ่นพี่ว่า จริงๆ เธอก็อยากจะสารภาพว่าจริงๆที่ทำเป็นเกลียด เพราะลึกๆแล้ว เธอกลัวว่าจะไม่ดีพอทำให้คนอย่างพี่มาคชอบ นาคส่องรูปและกระจก และบอกกับมาคในรูปถ่ายว่า หน้านาคอาจบ้านๆเกินไปก็ได้จริงมั้ย
- ทันใดมาคก็ตะโกนว่า ไม่จริงเลย คุณโคตรน่ารัก นาคตกใจมองลงไปยังระเบียงที่ติดคลองแสนแสบปราฏว่ามาคจอดเจ็ทสกีฟังคำเพ้อเจ้อของนาคทั้งหมด นาคโมโหกรีดแตกรีบปาข้าวของจนเกือบโดนเจ็ทสกีราคาแพง เจ้าของหอ ตกใจรีบหยิบก้อนอิฐมายืนส่องคิดว่าเจอพวกถ้ำมอง นาคบอกให้จับไอ้ผู้ชายโรคจิตคนนี้ซะ มาคโมโหเพราะนมไข่ดาวแบบนี้ ไม่ต้องมาถ้ำมองให้เสียเวลา ซึ่งมันยิ่งทำให้นาคปรี๊ดแตกเพราะใส่เสื้อบางๆที่แทบไม่เห็นหน้าอก นาครีบปิดไข่ดาวน้อยๆ อย่างโมโหแถมด่ากลับว่ามาคมันโรคจิต
แต่กลายเป็นมาคและเจ้าของหอรู้จักกัน แมนชั่นพระโขนง มาคก็มีห้องอยู่ เช่าไว้เพื่อจอดเจ็ทสกี และเผื่อไปเรียนไม่ทัน จขห. ยืนยันว่ามาคเป็นผู้เช่า แถมโบกมือทักทาย ถามว่ามาคกำลังออกไปหาแม่แล้วเหรอ มาคพยักหน้า แถมชวนนาคให้ไปซ้อนเจ็ทสกีด้วย เพราะวันนี้เค้าจะพาเธอไปหาคุณแม่ นาคไม่ตกลง คลองแสนแสบเป็นแม่เธอเหรอ รวยขนาดนี้บ้านอยู่ติดคลองเหรอ ซึ่งมาคว่าถ้าอยากรู้ให้เธอกระโดดขึ้นมาซ้อนท้ายเค้าซะ ออกจากห้องที่อุดอู้มาทำอะไรบ้าๆสักครั้ง ลืมเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องซะ แค่ไปเที่ยวกับเพื่อนใหม่ดู นาคครุ่นคิด ขณะที่เจ้าของหอพยักหน้ายืนยันว่ามาคไว้ใจได้
- นาคเกาะเจ็ทสกี ที่แล่นช้าไปตามคลองแสนแสบ ซึ่งมันมีเส้นทางลัดออกไปยังเจ้าพระยา สายน้ำเส้นหลักที่กว้างขวาง ทำให้นาคอ้าปากค้างกับความงามของวัดวาและแสงสีของกรุงเทพยามค่ำคืน บรรยากาศชวนโรแมนติค เจ็สกีจอดดับนิ่งอยู่ริมแม่น้ำ ทั้งสองมองสะพานเบื้องหน้า มาคว่าเค้าแค่อยากให้ทุกคนเห็นสถานที่ที่สวยงามในอีกมุมนึง ที่ตรงนี้พ่อและเค้าลอยอังคารแม่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนนั้น มาคนึกย้อนอดีต ในช่วงวัยที่ไร้เดียงสา 4-5 ขวบ พ่อเศร้าโศกพาเค้าไปแล่นเรือ พอมาถึงจุดนี้ ใต้สะพานแขวน พ่อก็สั่งให้เค้าโปรยบางสิ่งออกจากถ้วยทอง (ปล่อยอัฐิแม่ไปกับสายน้ำ)
มาคว่าตอนนั้นเค้าไม่เข้าใจ ว่าสิ่งที่ถืออยู่คือ แม่ของตน แต่เค้ารู้สึกมีความสุข หันมาคุยกับพ่อที่พยายามจะยิ้มไม่อยากบอกความจริงให้เด็กชาย รู้ว่าแม่ของตนจะไม่กลับมาอีกต่อไป
- นาคเริ่มรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีอะไรน่าค้นหา เธอเข้าใจความรู้สึกสูญเสียคนรักอย่างพ่อและแม่ได้อย่างดี ทั้งสองให้กำลังใจกัน ก่อนที่บรรยากาศจะชวนให้ทั้งคู่จูบกันใต้เงาพระจันทร์เต็มดวง แต่ทันใด แสงไซเรนตำรวจก็มาขัดจังหวะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ มากับเรือชายฝั่ง จับกุมทั้งสอง สารวัตรเค เบื่อกับวีรกรรมห่ามๆของนาค
- ภายในสถานีตำรวจ ผู้หมวดจ้องหน้ามาคตาเขม็ง เค้าทำหน้าโหด ถามชื่อชายหนุ่ม เขาตอบว่า มาค ระหว่างที่ผู้หมวดสอบสวนมาคแบบโหดๆ ขู่จะเอาเข้าคุก แต่เมื่อตัดไปภาพสอบสวนนาค สารวัตรก็พูดต่างกับมาค ราวฟ้ากับเหว เพราะสารวัตรดูจะถามชื่อนาคแบบจีบๆ แถมแซวว่าชื่อ นาค ฟังดูรื่นหู น่ารักมากๆ สารวัตรขอจับมือตรวจเช็คว่านาคเป็นมนุษย์รึเปล่า เพราะเคยเจอผู้หญิงสวยๆแบบนี้มาก่อน สมัยหนุ่ม ก่อนขอทำเรื่องย้ายมาอยู่ย่านพระโขนง นาคสงสัย ย้ายทำไม ไปทำเรื่องไม่ดีอะไรไว้ สารวัตรพูดแบบกลัวๆว่า ย้ายหนีผี ชื่อน่ากลัวมาก จนเค้าไม่กล้าเอ่ยถึง (บุษผาราตรี)แต่สำหรับนาคฟังดูน่ารัก ไม่น่ากลัวเลย หวานๆ สารวัตรแซวจีบเล่นสักพัก ก่อนจะหันมาชักสีหน้าสั่งมาคว่าสำหรับเค้า ต่อให้พ่อใหญ่ๆของแก เดินทางมาถึงสถานี ให้ตายยังไง ด้วยศักดิ์ สารวัตรจะไม่มีวันฟัง และจะเทศให้พ่อแกฟังจนน้ำตาคลอ ว่าท่านดูแลลูกยังไง ถึงได้..
- สารวัตรบ่นถึงพ่อทหารยศสูงของมาคอยู่พัก ก่อนลูกน้องจะพุ่งเข้ามาบอกว่า พ่อของมาคเดินทางมาถึงแล้วครับ และพ่อของมาค ที่แต่งมาเต็มยศ ตราดาวเต็มเสื้อ สารวัตรเครีบลุกขึ้นไปโค้งคำนับแบบแทบจะหัวถึงพื้น และบอกว่ากำลังจะปล่อยลูกท่านพอดี แต่พ่อของมาค ไม่สนใจเดินเข้าไปถึงตัวลูกชายก็ตบหน้าจนมาคหน้าหัน ทั้งสารวัตรและนาค สะดุ้งอึ้งไปตามกัน พ่อขอคุยกับลูกเป็นการส่วนตัว พ่อของมาคโมโหเขามาก ที่ทำให้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเสียชื่อนับครั้งไม่ถ้วน ถ้าแม่อยู่แม่คงเสียใจมากที่มีลูกชายไม่เอาไหนแบบนี้ นาคโมโหพ่อ เค้าก็ว่า คนที่น่าจะจากไปจริงๆควรเป็นพ่อมากกว่าแม่ เพราะมีพ่อ เค้าก็รู้สึกเหมือนไม่มีเลย
- พ่อว่าเอ็งมีพร้อมทุกอย่าง แต่พ่อจำเป็นต้องดูแลคนพวกนั้น มันคือหน้าที่ พ่อจำเป็นต้องไปประจำการที่สามจังหวัดภาคใต้ เพี่อเป็นขวัญกำลังใจให้ประชาชน และเหล่าทหาร ส่วนแกอยู่ในเมืองทำอะไรใครบ้างนอกจาก รับ และรับอย่างไม่เคยสิ้นสุด ทั้งสองทะเลาะกันได้ไม่รู้เลยว่า อีกห้องนึงหลังกระจก นาคและเหล่าตำรวจได้ยินปัญหาทุกอย่างของพวกเค้า สารวัตรปลดกุญแจมือมาค พ่อพามาคขึ้นรถหรู เค้าไม่ทันได้จากลา หรือทักทายนาคด้วยซ้ำ เพราะพ่อเค้ามองว่า
- เธอก็ไม่ต่างจากผู้หญิงมากมายที่เค้าเล่นด้วย และมาคก็รู้สึกเศร้าเกินกว่าจะเล่นบทรักในตอนนี้ หลังจากที่นาคแยกกับมาค เธอกลับมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในห้องเช่าเล็กๆ นาคยืนริมระเบียง เธอมองพระจันทร์เต็มดวงและพูดกับมันราวกับว่ากำลังพูดกับพ่อแม่ที่เสียไปว่า พ่อแม่ ถ้าพวกท่านฟังอยู่ นาคว่า นาคมองผู้ชายคนนึงผิดไป
Sub Plot
1. การสูญเสียของมาค ที่เหลือแต่พ่อ เขารู้สึกโดดเดี่ยว และกลัวว่าสักวันพ่อจะจากไปเพราะสงครามในพื้นที่สีแดง (3 จังหวัดภาคใต้)
2. การสูญเสียทั้งบิดาและมารดาของนาค แต่เธอเชื่อว่าทั้งคู่ไม่ได้จากไปไหน เพียงแต่มีเส้นกั้นระหว่างโลกของคนเป็นและคนตาย แต่สำหรับนาค เธอเชื่อว่าพ่อแม่ยังคงอยู่เคียงข้างนาคเสมอ แม้จะไม่ได้พบเจอ
- กลางดึกในคืนนั้น นาคกำลังเฝ้าคุยกับรูปพ่อแม่ ว่าน่าสงสารพี่มาคเค้า บางทีสิ่งที่นาคเห็นภายนอก เค้าอาจไม่ได้เพียบพร้อมอย่างที่นาคตัดสิน ไม่ทันไรพ่อทหารใหญ่ของมาคก็มาเคาะประตูห้องนาค ท่านว่ามาคอยู่มั้ย แต่นาคว่าทำไมต้องมาถามเธอ เธอกับมาคไม่ใช่แฟนกัน ขณะที่พ่อของมาคไม่เชื่อเช่นนั้น เค้าว่าการโกหกเจ้าหน้าที่มีความผิดทางกฏหมาย ซึ่งตอนนี้ท่านขอบุกรุกเข้าไปตรวจค้นหาลูกชาย ซึ่งเชื่อว่าคืนนี้คงหนีมาหลบอยู่กับสาว นาคแม้จะไม่พอใจแต่เธอก็บริสุทธิ์ใจให้พ่อของมาค ตรวจให้เต็มที่ พ่อของมาคเริ่มสอนว่าเป็นเด็กยังเรียนกันอยู่ ไม่ควรทำอะไรที่นอกเหนือจากเรื่องเรียนๆ ซึ่งถ้าพ่อแม่หนูยังอยู่และรู้ว่า มีลูกสาว จ้องจับผู้ชายรวย ท่านคงเสียใจและนอนตายตาไม่หลับเป็นแน่ คำนี้ยิ่งทำให้นาคโมโห
เพราะไม่คิดว่าพ่อของมาคจะสืบชีวประวัติตน และเค้าว่าเค้าสามารถทำได้ แถมชมว่านาคเก่งที่ดูแลตัวเองได้ ด้วยการขายของในอินเตอร์เน็ต แต่ถ้าจะรวยทางลัด ท่านว่าอย่ามาทางนี้ เพราะไอ้มาค มันไม่ค่อยจะจริงจังกับใคร ท่านพูดจบก็เปิดผ้าปูที่นอนที่บวมคล้ายมีคนนอน ปรากกฏว่ามันคือหมอนข้าง พ่อของมาคมืดแปดด้าน ก่อนจะค่อยๆนั่งลงแล้วน้ำตาคลอ แบบหมดรูป แถมขอร้องให้แม่หนู บอกเค้าทีว่าลูกชายคนเดียวของตนหายไปไหน
- ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใต้สะพานแขวน ยามค่ำคืน รถหรูคันใหญ่จอดที่ลาน พ่อเดินตรงไปยังริมแม่น้ำ เห็นเจ็ทสกีมาคจอดนิ่งลอยอยู่ไม่ไกล พ่อตะโกนเรียกมาค แถมเตรียมจะด่าว่าเพิ่งโดนตำรวจจับโดนยึดใบอนุญาติขับเรือ แต่นาคดึงแขนเสื้อพ่อของมาคเบาๆเพื่อเตือนว่าเย็นลง พ่อลดเสียงและขอร้องให้ลูกชายขึ้นมาคุยดีๆและกลับบ้านไปอยู่กับพ่อสักคืน เพราะพรุ่งนี้ พ่อต้องกลับไปยังพื้นที่เสี่ยงภัย มาคเมื่อฟังถึงคำนี้ เค้าก็ดูหงุดหงิด อ้างว่าชินแล้ว จะอยู่ด้วยกันไปทำไมแค่คืนสองคืน มันไม่แตกต่างกันหรอก พ่อขอร้องมาคอีกครั้ง ท่านอ้างว่าพ่อแก่มากแล้ว ไม่อยากตะโกนคุยให้เหนื่อย
- มันยิ่งทำให้มาคอยากแกล้ง ประชดประชัน สตาร์ทเครื่องขี่แล่นทิ้งห่างออกไปให้ท่านต้องตะโกน เพราะเค้าว่าตลอดเวลาช่วงชีวิตวัยเด็ก เค้าตะโกนเรียกหาพ่อ แต่พ่อไม่เคยอยู่ฟังปัญหาของลูกชาย พ่อห่วงแต่ประชาชน ลูกน้อง และคนอื่นๆ พ่ออ้างว่าทุกคนพึ่งพ่อ แต่ตัวมาคกลับไม่มีที่ให้พึ่ง สงคราม 15ปีที่ผ่านมา มันขโมยชีวิตวัยเด็กของผมจนหมด ถ้ามี อะไรจะพูดตะโกนออกมาให้ลูกได้ยินซะตอนนี้ แล้วพ่อจะไปไหนก็ช่าง
- พ่อฟังจบก็น้ำตาคลอ เพราะเสียงลูกพูดดังชัดเจน แต่พ่อพูดอย่างนิ่มนวล มองไปยังมาคที่อยู่ลิบตา พ่อว่าพวกมันขู่จะฆ่าพ่อ ถึงเวลาของพ่อแล้ว มันส่งจดหมายมาขู่ว่าพ่อเป็นรายต่อไปถ้าขืนยังอยู่ในพื้นที่ พ่อไม่รู้ว่าพ่อจะได้เจอแกอีกมั้ย แต่พ่อขอโทษ ที่ไม่ได้เป็นพ่อที่ดีพอ ตัดสลับมายังฝั่งของมาค
- มาคที่ลอยคออยู่กลางแม่น้ำ ซึ่งเปรียบบกและน้ำ คือเส้นแบ่งของความใกล้ชิดที่ไม่สามารถเชื่อมถึงกัน มาคก็พูดเบาๆมองพ่อที่ไม่ได้ยินว่า พ่อไม่รู้เลยเหรอว่าผมทำแบบนี้ทำไม ทุกๆครั้งที่พวกมันครบรับวันสำคัญเชิงสัญลักษณ์ ผมมักจะสร้างปัญหาทะเลาะวิวาท หาเรื่องให้พ่อต้องบินกลับมายังบ้าน ทั้งหมดผมแค่กลัว กลัวว่าสักวันจะเห็นนักข่าวภาคค่ำบอกชื่อพ่อเป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิต ผมภารวาขอให้รายชื่อยาวเหยียดของผู้ตายไม่มีชื่อ-นามสกุลพ่อ จนวันนี้ ผมแอบคิดว่าถ้ามันมีชื่อพ่อไปสักทีก็คงจะดี เพราะอย่างน้อย ผมจะได้เลิกเป็นห่วงพ่อสักที ทั้งสองพ่อลูกต่างบอกรัก พ่อบอกเบาๆว่ารักลูกชาย ส่วนลูกชายก็บอกว่าเค้ารักพ่อ
- พ่อพูดจบก็ปาดน้ำตาเหมือนได้สารภาพสิ่งที่อัดอั้นไปเรียบร้อย ท่านเตรียมตัวขับรถกลับและบอกกับนาคที่ยืนอยู่ไม่ไกลว่า ฝากดูแลลูกชายท่านด้วย แถมเสริมว่าเค้ารู้แล้วว่าทำไม มาคถึงหลงผู้หญิงอย่างเธอนัก คนใช้บอกว่านาคหน้าเหมือนแม่เค้ามาก ก็วันนี้ วันที่ผมได้เห็นคุณแบบใกล้ชิด คุณไม่ได้หน้าเหมือนอย่างเดียว นิสัยคุณเหมือนเธอมาก นาคซึ่งเป็นตัวกลาง พูดอะไรไม่ถูกได้แต่กวาดสายตามองรถหรูพ่อที่แล่นไปอีกทิศทาง ส่วนมาคก็สตาร์ทเครื่องบิดเจ็ทสกี แล่นอย่างไร้จุดหมาย โดยไม่รู้เลยว่านี่อาจเป็นวันสุดท้ายที่เค้าจะได้เห็นพ่อมีลมหายใจ
Act 2
- ไม่กี่สัปดาห์ให้หลัง ความสัมพันธ์ของมาคและนาคก็กลายมาเป็นข้าวใหม่ปลามัน เมื่อทั้งคู่คุยกันผ่านมือถือ ตลอดเวลา แม้กระทั่งทานอาหารเที่ยง แก๊งเพื่อนสาว คุยกับนาคไม่รู้เรื่องเพราะเธอเหมือนเมียไอฟัคที่วันๆยิ้มเหมือนหญิงบ้า แต่หารู้มั้ยว่า เธอเป็นเช่นนี้เพราะข้อความหวานที่เพิ่งได้อ่านในไลน์ เพื่อแอบชะโงกหน้าส่องจอ ก็ทำท่าทงเหมือนกูจะอ้วกแตกให้ได้ มึงอย่ารู้เลย เพราะพวกแก๊งสาวรู้เพียงว่าตอนนี้ พวกเธอได้เสียสมาชิกสาวไปหนึ่งคน เมื่อนาคไม่ยอมเลือก ระหว่างเลิกเรียนไปดูหนัง หรือร้องคาราโอเกะ โยน Bowing นาคอ้างว่าใกล้สอบแล้วจะรีบกลับไปอ่านหนังสือ แถมโบกมือลาไม่ง้อเบาะรถเพื่อนติดกลับหอพัก
- เพราะวันนี้ มีเทพบุตรรูปหล่อจอดรถมอเตอร์ไซค์พร้อม หมวกกันน็อคแบบหูแมว น่ารักๆ ไว้ใส่ ส่วนหมวกกันน็อคของนาคเป็นหูกระต่าย มาคว่า นาคชอบหาว่าพวกไบเกอร์เถื่อน ดูอัทธิพาล แก๊งซิ่ง เลยใส่หมวกใสๆ ให้มันพาสเทล ซอฟท์ลง นาคยอมใส่ ทั้งคู่ดูใสๆ ใส่หมวกหูสัตว์กันสองคน โดยไม่แคร์สายตาใคร อีกต่อไป เพราะทุกคนคงเห็นภาพนี้ซ้ำๆ จนเริ่มชินว่าทั้งสองเป็นแฟนกันเรียบร้อย นาคขอมาคแวะทำธุระแถวๆหอพัก มาคสงสัยว่านาคอยากให้เค้าพาไปที่ใด
- ณ วัดมหาบุศย์ มาคเดินตามนาคมาถึงวัดแห่งหนึ่งที่อยู่ติดคลองแสนแสบ ในเขตพระโขนง นาคว่าวันนี้เป็นวันครบรอบพ่อแม่ที่จากไปเพราะอุบัติเหตุ เธอต้องมาทำบุญให้แม่และพ่อ มาครู้สึกและเข้าใจความรู้สึกของนาคเป็นอย่างดี เพราะเค้าก็เพิ่งเสียแม่ไปเหมือนกัน ทั้งสองร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้ผู้ที่จากไป ทั้งสองคนปล่อยปลาในคลองแสนแสบที่วันนี้สะอาดจนเห็นปลานับร้อย
- ย้อนอดีต หลังเลิกเรียน นาควัย ม.ปลาย เปิดประตูเข้ามาในบ้าน โดยมีญาติๆนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะอาหาร ทุกคนมองนาคแบบสงสาร และน้าสาวก็เดินมาบอกข่าวไม่คาดฝัน นาคช๊อคฟังเธอพูดได้ไม่กี่คำ ก็มือถือร่วง หน้าจอมือถือแตกร้าว ซึ่งภาพ วอเปเปอร์คือรูปที่ถ่ายกัน สามคนพ่อแมลูก นาครับความจริงที่ไม่เคยคิดฝันว่ามันจะเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น เธอทำได้เพียงวิ่งหนีขึ้นห้องนอน และญาติๆก็ห้ามไม่ให้น้าสาวขึ้นไป เพราะทุกคนอยากให้เธอได้ทำใจเพียงลำพัง
- ซึ่งนอกจากเธอจะเล่าอดีต ที่เคยมีบาดแผลไม่ต่างจากมาค แต่สถานที่แห่งนี้ก็เป็นตัวอย่างของ ครอบครัวที่แตกแยกกัน จนกลายเป็นชื่อวัด ซึ่งตามตำนาน วัดมหาบุศต์ คือชื่อกลางของ บุตรชายสามคน ของคนมีฐานะมั่งมี และเป็นเจ้าเป็นนาย พ่อของทั้งสาม สั่งให้ลูกๆแยกย้ายไปตามเส้นทางเพื่อรวบรวม สายน้ำ 3 สายที่ไปคนละทิศละทาง สายนึงไปยังภาคเหนือ สายนึงไปภาคใต้ และอีสาน (ราวแผนที่ประเทศไทย ที่ดูเป็นรูปช้างหรือขวาน)ซึ่งจากที่พ่อสั่งให้ไปรวมแผ่นดิน ทั้งสามกลับชิงดินแดนกันและกันเพื่อที่จะเป็นใหญ่ในตระกูล แม้กระทั่งตายจากกัน ทั้งสามยังยึดติดกับอำนาจ จนลืมไปแล้วว่า ทั้งสามคือพี่น้องกัน ไม่ใช่คู่แข่ง จนกระทั่งเหลือบุตรคนสุดท้ายที่มีชีวิต
- เมื่อเค้าได้ครอบครองทุกอย่าง มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะไม่เหลือคนรัก คนในครอบครัวให้ได้ชื่นชมและเคียงข้าง บุตรคนสุดท้ายจึงบริจาคที่ดินวัดแห่งนี้ให้เป็นของสาธารณะ และมันก็อยู่เช่นนั้นจนมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งนาคแค่อยากจะบอกมาคว่า ไปคุยดีๆกับพ่อซะ เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่เรารักจะอยู่กับเราได้นานแค่ไหน มาคเงียบรับฟังแต่ไม่ขอตกลง
- ทั้งสองออกเดทกัน ราวคู่รักหนุ่มสาว วันเวลาผ่านไป ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็เป็นที่ทานอาหารของพวกเค้า ที่ใช้ในการติวหนังสือ และจีบกัน ชมวิว จนถึงสอนพายเรือแคนนู ตัดไปยังเรือยอร์ชเจ้าพระยา มาคเซอร์ไพรส์นาค พามาดินเนอร์หรู มาคแกล้งเอาฝาขวดมาทำเป็นแหวนสู่ขอนาคแต่งงาน แต่นาคหัวเราะเยาะเค้า เพราะยังไม่รู้เลยว่าพ่อนาคจะเอาเธอเป็นลูกสะใภ้มั้ย
- มาคว่าตอนนี้พ่อเริ่มชอบนาคแล้ว เพราะนาคทำให้ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ เค้าเลิกสร้างปัญหา ซึ่งภาพข่าวรายงานสดก็ขัดจังหวะหวาน เมื่อข่าวเศร้า รายงานว่าพ่อของนาค นายทหารยศสูงที่ประจำการในพื้นที่ภาคใต้ ได้รับบาดเจ็บจากวางระเบิดของผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัด มาครู้สึกถึงเสียงระเบิดดังก้องในสมองของเค้า มันดังวี๊ดในหูเค้าราวกับเค้ากำลังจะจมน้ำ
- มาคนั่งเครื่องบินตรงมายังโรงพยาบาลในตัวเมืองนราธิวาส เพื่อดูอาการพ่อของตน พ่อดีใจที่นาคมาหา พ่อบอกรักลูกและอยากมีเวลาอยู่กับเค้ามากกว่านี้ มาคขอให้พ่อสู้ เพราะหลังจากนี้ทั้งสองจะกลับไปทำกิจกรรมด้วยกัน ขี่เจ็สกีริมชายทะเลด้วยกันแบบที่เค้าเคยทำในวัยเด็ก
- พ่อคิดถึงความหลังที่ดีที่เคยโอบกอดลูกชายและท่านก็สิ้นใจ นาคร้องไห้ตะโกนขอให้พ่อกลับมา เค้ารับไม่ได้กับบาดแผลอันโหดร้ายหลังพ่อถูกระเบิดเกือบครึ่งร่าง นาคคว้าปืนจากนายทหารและวิ่งออกจากโรงพยาบาล
- นาควิ่งไปยังกลางท้องถนน เค้าหันมองเหล่าคนไทยมุสลิมที่อยู่ร่วมกัน เค้าตะโกนท้าทาย พวกมึงออกมา มาสู้กันแบบลูกผู้ชาย นาคร้องไห้ มองไปยังผู้คนที่ตื่นตกใจ ทหารพากันจับกุมตัวนาค ผู้คนต่างจ้องมองนาค ชายไทยมุสลิมเดินออกมาด้วยขาเพียงข้างเดียว คนไทยพุทธออกมาบอกว่าเค้าก็เสียลูกชาย หลายต่อหลายคนก็เสียเพื่อน มาคไม่ใช่คนเดียวที่สูญเสีย กลับไปกรุงเทพซะ เพราะพวกเค้ารู้ว่านาคเป็นใคร ที่นี่ไม่เหมาะกับเขา
Mid Point
Min 50-55
- หลังจากมาคเสียพ่อไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง ชายหนุ่มที่เคยยิ้มง่าย ก็กลับดแทบไม่มีรอยยิ้มให้ได้เห็น เขาเปลี่ยนจากการขับขี่ เป็นเดินสันโดษราวคนทั่วๆไป ไม่มีรถหรูขับแล่นออกจากมหาลัยเช่นที่ผ่านมา ภาพที่เห็นต่างจากเช่นเคย ไม่มีหนุ่มบิ๊กไบค์เท่ๆอีกต่อไป แต่กลายเป็นมาคที่ใส่ชุดทหารไทย ยืนรอเธออยู่ภายนอก นาคเศร้าที่เห็นแววตาของมาคเต็มไปด้วยความเครียดแค้นในดวงตา นาคน้ำตาคลอขอให้มาคทิ้งทิฐิที่มีในใจ
- แต่สำหรับมาค พ่อเปรียบเสมือนคนสุดท้ายที่เค้าเหลืออยู่ นาคถามว่าแล้วเธออยู่ตรงไหน มาค ตอบคำถามไม่ถูก เค้ายืนกรานจะทำตามอุดมการณ์ที่มี เหมือนกับบิดาที่ต้องการประจำการในพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อประชาชน แต่ในสายตานาค เค้าดูต้องการจะแก้แค้น และเอาชนะพ่อของตน มันจะไม่สิ้นสุดเพราะเธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เค้าถึงจะพอ
- ณ ริมระเบียงแมนชั่นคู่รักหนุ่มสาว ทั้งสองมองพระจันทร์เต็มดวง ขณะที่มาคให้อาหารเจ้านกพิราบในกรง มาคสอนนาคใช้พิราบเพื่อการติดต่อ แทนมือถือ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่จะตัดสัญญาณโทรศัพท์ และเค้าไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้มันในขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย พวกผู้ก่อการร้ายอาจใช้ช่องโหว่เล่นงาน
- นกพิราบถูกใช้ในสงครามมานับพันปี มันเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ไม่ต้องพึ่งพลังงานใดๆ นกพิราบเป็นสัตว์เรียกเดียวใจเดียว ไม่ว่าเราปล่อยมันจุดใดของโลก มันจะหาทางบินกลับมาหาคู่ของมันเสมอ ทั้งสองโอบกันใต้เงาแสงจันทร์ชวนโรแมนติก เฝ้ามองเจ้าสองนกพิราบคู่ในกรง
- นี่คงเป็นคืนสุดท้ายที่มาคจะได้เห็นหน้าคนรัก เพราะหลังจากนี้ เค้าคงไปตามเส้นทางของพ่อ ซึ่งมันไม่ได้มีความสุขเอาเสียเลย เมื่อมาคในชุดทหารไทยนั่งมองมาคหลับบนที่นอน เค้าหอมแก้มเธอก่อนจะเปิดประตูออกไป โดยมาคไม่รู้เลยว่าเธอลืมตาเศร้า แต่แกล้งทำเป็นไม่อยากเห็นภาพการจากลา มาคจากไปโดยไม่ทิ้งคำร่ำลา เขามารายงานตัว เตรียมขึ้นรถพร้อมทหารเกณฑ์ เส้นทางคือสามจังหวัดไฟใต้ ขณะที่เค้าต่อแถวเตรียมจะขึ้นรถ มาคก็เหลือบไปเห็นนาค เธอยืนมองเค้าอยู่ไม่ไกล มาครีบวิ่งไปสวมกอดเธอ มาคสัญญาว่าเค้าจะรีบกลับมา นาคไม่รู้ว่าต้องรอเค้านานแค่ไหน แต่นาคจะรอคอยเค้าตลอดไป
- บรรยากาศด่านตรวจมากมายในจังหวัดปัตตานี มาคมองผู้คนไทยพุทธที่จับจ่ายซื้อของโดยมีทหารเดินคุมป้องกันภัย ซึ่งเพื่อนทหารว่านี่เป็นย่านที่เกิดระเบิดบ่อยครั้ง และหลายครั้งพวกคนร้ายจ้องเล่นงานเราทีเผลอ ทหารอาวุโสว่า ที่นี่เค้าไม่สามารถไว้ใจใครได้ เพราะบางที คนที่ดูเหมือนเป็นประชาชน กลับหิ้วระเบิดมาวางโดยไม่มีใครรู้ตัว
- ณ ค่ายทหาร ปัตตานี/ มาคถูกส่งประจำการยังพื้นที่เสี่ยงภัย RED ZONE พวกเค้าตรวจ เช็คคนไทยมุสลิม และใช้เวลาว่างในการส่งข้อความหานาคด้วยนกพิราบ มีเหตุปะทะหลายครั้ง และมาคก็กล้าพอจะออกไปยิงต่อสู้อย่างห้าวหาญ
- ขณะเดียวกัน ณ พระโขนงเพลส นาคก็ดีใจรับจดหมายจากนกพิราบ เธอแกะออกและเริ่มอ่านเรื่องราวการเดินทางในพื้นที่สามจังหวัด มาคพูดราวกับว่าไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ เพื่อไม่ให้นาคเป็นห่วง โดยเข้าไม่พูดถึงเหตุการณ์ปะทะนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อไม่ให้เธอกังวล
- นาคอ่านจดหมายหลายฉบับและส่งจดหมายของตนผ่านคู่รักนกพิราบ ที่หมุนเวียนกันออกเดินทางส่งจดหมายสลับไป นาคเริ่มรู้สึกแพ้ท้องเธออาเจียนออกมาไม่หยุด และเริ่มมีแววตาวิตกกังวัลในดวงตาของนาค
- บรรยากาศสามจังหวัดภาคใต้ ผู้คนอัดแน่นในสถานีรถไฟฟ้า ขณะที่นาคยืนรอรถไฟฟ้า เธอก็เห็นมากอยู่ตรงฝั่งตรงข้าม มาคในชุดทหารไทยโบกมือทักทายเธอ นาคน้ำตาคลอรีบวิ่งลงจากสถานี ทั้งสองต่างลงมาเจอกัน ณ จุดกึ่งกลาง นาคร้องไห้ เธอดีใจที่เค้ารักษาสัญญา รอดชีวิตกลับมาหาเธอ
The Promise of Love
Min 55-60
- ทั้งสองคนพากันมายังโซนเฟอนิเจอร์ นาคเริ่มเล่นบทภรรยา ลงไปนั่งที่โต๊ะอาหารหรู ที่ติดป้ายราคาแพงจนพวกเค้าคงจ่ายไม่ไหว แต่มาคก็เล่นตามน้ำ เสริฟกุ้งล็อบสเตอร์ และไวน์หรู ในจินตนาการให้ภรรยานาค
- บนที่นอนหรู มาคจินตนาการว่ามันเป็นห้องนอนของเราในอนาคต แต่นาคว่าไม่ใช่ มันเป็นห้องของเราสามคน เพราะตอนนี้มาคจะได้เป็นพ่อคนแล้ว นาคเอาเครื่องตรวจครรภ์ให้มาคดู หมอบอกนาคท้องได้สามเดือนแล้ว และเธอก็ใกล้เรียนจบ เธอว่าถึงเวลาที่มาคต้องกลับมาดูแลครอบครัว มาคดีใจมากที่กำลังได้เป็นพ่อคน เขาสัญญาว่าจะกลับมาให้ทันเห็นลูกลืมตา แต่นาคว่ามาคควรหยุดเดี๋ยวนี้
- ซึ่งมาคยังไม่พร้อมที่จะออกจากราชการ เพราะมันเป็นความฝันที่พ่อเค้าอยากให้เค้าเป็น อย่างน้อย ถ้าได้ยศนำหน้าชื่อ ก็ถือเป็นเกียรติให้วงศ์ตระกูล ซึ่งคงเป็นสิ่งเดียวที่ลูกผู้ชายอย่างนาคจะทำให้เค้าได้ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา นาคมักหาเรื่องเสียหายให้วงศ์ตระกูลมาตลอด
- มาคเตรียมพามาดูร้านสำหรับเด็ก เขาเตรียมตัวเล็งรถเข็นสีดำเท่ๆไว้รอลูกชาย นาคหัวเราะ หาว่าเค้าเพี้ยนไปแล้ว สามเดือนยังไม่รู้หรอกว่าเป็นหญิงหรือชาย แต่มาคมั่นใจว่าเป็นผู้ชายแน่ๆ ทั้งสองดูมีความสุข เว้นเพียงเมื่อมาคเผลอ นาคกลับไม่รู้สึกมีความสุขอย่างที่เขาคิด
Way Back Into Love
Min 60-65
- เสียงระเบิดดังสนั่น มาคสะดุ้งตื่นจากภวังค์ 4เดือนต่อมา ราวทุกอย่างเป็นความฝัน เมื่อผู้ก่อความไม่สงบ โจมตีป้อมทีเผลอ เพื่อนทหารล้มตาย เป็นความจริงที่ปวดร้าว เพื่อนทหารขาดใจคามือนาค เขาเขียนจดหมายขณะที่มือเปื้อนเลือด
- อีกสองเดือนที่รัก ผมจะกลับไปหาคุณ นาคดักสุ่มในป่าลึก และมีเพียงนกพิราบสื่อสารเป็นเครื่องมือติดต่อโลกภายนอก ทั้งด้านการทหารและส่งจดหมายให้คนรัก มาคออกลาดตะเวนหาแหล่งกลบดานผู้ก่อการร้าย ทันใดเพื่อนทหารก็เหยียบกับระเบิด ทหารไทยถูกจู่โจม
- ภาพตัดสลับมายังแมนชั่นพระโขนงกลางคืน นาคที่กำลังท้องแก่ ถักเสื้อสีดำของลูกชายตามที่มาคเคยขอ ก็รู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนมีรางสังหรณ์ ท้องฟ้าคำราม ราวกับเสียงระเบิด เธอเริ่มรู้สึกปวดท้องคลอดก่อนกำหนด มีน้ำไหลออกจากมดลูก นองไปตามขา นาคตกใจรีบคว้ามือถือ
- เมื่อสิ่งที่ตามมาคือเลือด แต่อยู่ๆไฟก็ดับ สัญญาณมือถือไม่มี เธอพยายามกดโทรฉุกเฉินแต่ก็ไม่มีสายตอบกลับ นาคปวดท้องและหกล้ม เพราะลื่นน้ำคล้ำตนเองจนไปกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ภาพตัดสลับกับสถานการณ์ของมาค
- ภาพเล่าตัดสลับ ระหว่างนาคที่กำลังคลอดก่อนกำหนด แถมเสียงพลุไฟก็ดังระเบิดสว่างไสว พร้อมเสียงผู้คนโห่ร้องเปิดเพลงดังสนั่นจากภายนอก โดยไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอ และเปลวไฟบนฟ้า ที่ส่งเสียงดังสนั่นก็เชื่อมไปยังกระสุนปืนและระเบิดที่โหมกระพือ ระหว่างทหารไทยและผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งในจังหวะที่นาค เหยียบคราบน้ำคล้ำตัวเอง จนเกือบล้ม แต่ยังทรงตัวไว้ได้ ไม่ต่างจากมาคที่ถูกยิงเข้าช่องท้องขณะปะทะคนร้ายอย่างสมศักดิ์ศรี แต่สุดท้าย ทั้งมาคและนาค ก็ค่อยๆ ทรุดลงพร้อมๆกัน ราวกับจิตวิญญาณที่เชื่อมโยง
- เสียงระเบิดทำให้หูนาคดังราวกับมีจิ้งหรีดมาดิ้นอยู่ในแก้วหู เค้ามองไปยังเพื่อนทหาร ที่ต่างพากันบาดเจ็บล้มตาย และบางคนสั่งให้มาคแข็งใจไว้ มาค ก้มจับช่องท้องเลือดไหลไม่หยุด ขณะที่นาคก็มีเลือดไหลจากหว่างขา นาค พยายามลุกขึ้นคลานไปคว้าปืนเอ็มสิบหก ไม่ต่างจากนาคที่พยายามจะตะเกียดตะกายไปเอื้อมจับมือถือที่ดันหล่นกระเด็นเข้าไปใต้ตู้เย็น
- นาคแม้จะคว้ามือถือได้ แต่มันดันไร้ซึ่งสัญญาณเครือข่ายเกิดหาย ในช่วงคืนวันปีใหม่ หรือกระทบกระเทือนตกแรงเกินจนซิมเคลื่อนที่ แต่ไม่ว่าจะยังไง เธไม่มีเวลามานั่งเช็คระบบ เพราะมีอีกชีวิตกำลังจะดิ้นออกมาดูโลกกว้าง
- นาคอุ้มท้องแก่ๆที่มีเลือดและน้ำคล้ำไหลไปตามทางหน้าห้อง เธอตรงไปกดลิฟต์แต่ไฟดับจนลิฟต์ไม่ทำงาน เธอตะโกนเรียกเจ้าของหอพัก แต่ทุกอย่างมืดสนิท เพราะเป็นช่วงวันเทศกาล เสียงพลุไฟปีใหม่เฉลิมฉลอง ตัดกับภาพระเบิดในสงครามที่มาคเจอ นาคปวดท้องจนต้องลงบันไดหนีไฟ แล้วอยู่ๆ เธอก็ปวดร้าวจนไม่สามารถทนไหว และเผลอปล่อยมือจากที่จับข้างผนัง จนลื่นน้ำคล้ำ ของตนเองสะดุดล้ม กลิ้งลงบันไดหนีไฟราวกับตุ๊กตาล้มลุก
- ซึ่งในเวลาเดียวกัน มาคก็พยายามจะคว้าจับกิ่งไม้ ด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผล เขาก็ลื่นคราบโคลน เนื่องจากฝนก็โหมกระหน่ำ จนมาคกลิ้งไปกองกับเนินต่ำๆ เบื้องล่างหุบเขา ทั้งสองลงกองกับพื้น และต่างพยายามหายใจให้ได้มากที่สุด เพราะทั้งเค้าและเธอ ต่างเหลือกันและกันเท่านั้น
- ซึ่งราวกับฟ้ายอมเปิดเส้นแบ่งให้สองคู่รัก หรือมันอาจเป็นภาพหลอนหลังทั้งคู่เสียเลือดมากเกินไป นาคเห็นมาคที่นอนอยู่บนเตียง เธอพยายามลูบจับหน้าเค้า และเค้าก็หอมเธอจนถึงพยายามคว้าตัวเธอ แต่เหมือนกับเลนซ์ขยายกว้างให้ทั้งคู่ ห่างกันออกไปเรื่อยๆ มาคพยายามเอื้อมถึงเธอ แต่มือเค้ากลับไปไม่ถึง
- ทั้งสองรู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องกล่าวคำจากลา ทั้งคู่ตะโกนเรียกหาชื่อกันและกัน … ซึ่งนาคเริ่มจะหายใจอิดโรย เอื้อมมือสั้นๆของเธออกไป หามาคให้ได้ ซึ่งดูเหมือนกับว่า ตาเธอเริ่มพล่ามัวร์ จนดูราวกับมือของนาค ยาวขึ้น ยาวขึ้น แต่ไม่ว่าจะยาวแค่ไหน ก็ไม่อาจเอื้อมถึงร่างสามี จนนาคสิ้นใจลง… Fade OuT (ภาพตัดมืดสนิท)
- ร.พ เล็กๆในชนบท มาคถูกหามขึ้นเตียงเข็น เขาถูกปั้มหัวใจในห้อง ICU เหล่าแพทย์และพยาบาลทำทุกวิถีทางที่จะยื้อชีวิตมาค แต่เส้นชีพจรที่ดูเหมือนกราฟหุ้นที่ขึ้นลงไม่ตายตัวในจอมอนิเตอร์เริ่มริบหรี่ หมอปั้มหัวใจซ้ำๆ อย่างขมักเขม็น แต่แล้วเส้นกราฟก็หยุดแน่นิ่ง ไม่ต่างจากมาคที่บาดเจ็บสาหัส เสียเลือดจนช๊อค ตาแข็งทื่อ
- หยุดน้ำตาของมาคนองที่ปลายหางตา แม้ร่างกายจะขยับไม่ได้ แต่สมองและดวงตาของมาคก็ยังทำหน้าที่อย่างชัดเจน ซึ่งภาพแทนสายตามาค เบื้องหน้าของเขา คือนาคที่ยืนรออยู่ ณ แสงปลายอุโมงค์สีขาวสว่าง ดูราวกับเบื้องหลังเธอคือ สวรรค์ที่เค้าคงกำลังจะก้าวข้ามไปหา
- นาคในร่างจิตวิญญาณที่ล่องลอย เริ่มน้ำตาคลอ และเด็กน้อยในเป้อุ้มก็เริ่มร้องไห้ จนมาคเริ่มรู้สึกเหมือนมีแรงกระตุ้น มาคกระพริบตา และชีพจรก็เริ่มกลับมาเต้นอีกครั้ง แม้จะเส้นกราฟที่เต้นไม่ถี่ยิบแบบคนปกติ แต่มันคือความหวังสำหรับหมอและพยาบาล ที่ยังไม่ล้มเลิกการช่วยเหลือ มาคตาค้างจ้องมองลูกในกระเป๋าสะพายอุ้มที่โชว์เด็กทารกให้เห็นทางเบื้องหน้าไม่ต่างจากแม่เด็ก (แทนที่ผ้าเก่าๆที่ใช้เป็นเปย์สะพายเด็กแบบแม่นาคคลาสสิค ซึ่งมาคเหลือบเห็นนาคยิ้มดีใจ พยายยามชี้ชวนให้ลูกชายคนแรกมองไปยังมาค แลมาคก็อัดอั้นอยากจะวิ่งไปกอดลูก ถ้าตอนนี้เค้ามีดโอกาสอีกครั้ง เสียงงอแงซ้ำๆของนาคทำให้มาคฮึดสู้กับโชคชะตา
- เพื่อที่เค้าจะได้มีลมหายใจเดินไปโอบกอดลูกชาย และโยนเด็กน้อยหมุนเหวี่ยงในสนามเด็กเล่นแบบคุณพ่อมือใหม่ ดั่งเช่นที่พ่อทำกับมาคในวัยเยาว์
- ณ ริมระเบียงแมนชั่นพระโขนง นาคอ่านหนังสือและหันไปป้อนข้าวให้ลูกวัย 1 ขวบ
Turing Point 2
Min 70-75
- เจ้าของแมนชั่น เปิดประตูต้อนรับแขกที่จะมาเช่าพัก ห้องของนาคยังดูเป็นระเบียบแต่ไร้ข้าวของ จขห.โกหกว่า คนเช่าเก่าจากไปเพราะเรียนจบมหาลัย ไปมีผัวมีคนรัก ที่นี่เหมาะสมมากถ้าไม่ได้อยู่คนเดียว ยิ่งเป็นคู่รัก ยิ่งเหมาะ ห้องกว้างมาก มีพื้นที่ใช้สอยเหมือนบ้าน ยิ่งมีลูกเมีย ยิ่งเหมาะ ผมเชื่อว่าคุณจะไม่อยากจากที่นี่ไปอยู่ที่ไหนอีก แต่แขกที่ขอชมห้อง บอกว่าตนเองโสด เจ้าของหอพักหน้าเจื่อน คิดว่าคนที่มาด้วยเป็นเมียที่อุ้มลูกอยู่ แต่ชายคนนั้นว่าเค้ามาคนเดียว เจ้าของหอยิ่งหน้าเสีย เพราะเค้าเห็นผู้หญิงผมยาวยังนั่งถักเสื้ออยู่ที่โซฟา พร้อมลูก แต่อยู่ๆไฟก็ดับ แม้จะเป็นกลางวัน แต่ด้วยห้องที่ปิดทึบ ไม่ได้เปิดม่าน ทำให้มันชวนสยอง เจ้าของแมนชั่นคิดว่านี่เป็นเรื่องตลก เพราะอยู่ๆผู้หญิงที่เค้าเห็นกลับหายไป ส่วนแขกก็คิดว่าเค้าตาลายคิดไปเอง
- หลังตกลงเซ็นสัญญาเช่าพัก เจ้าของหอกดลิฟต์แต่มันเสีย แขกชวนเจ้าของหอเดินลงทางหนีไฟ แต่เค้าแค่มองทางเดินก็แทบไม่คิดอยากจะลง เพราะภาพในอดีตสยองยิ่งนัก เมื่อได้เห็นนาค หญิงท้องแก่ตกบันไดคอหัก แบบคอม้วนสามร้อยหกสิบองศา พร้อมเลือดจากการแท้งนองเต็มทางเดิน เจ้าของหอว่า เค้ายืนรอให้ไฟมาดีกว่า
- แต่แขกก็ว่างั้นเข้าไปรอในห้องว่างที่เพิ่งเข้าชมก่อนดีมั้ย ทันใด ประตูห้องนาคก็เปิดออก และในชั่วพริบตา รถเข็นเด็กสีดำก็พุ่งออกจากห้องใส่ทั้งแขกและเจ้าของแมนชั่น แขกวิ่งหน้าตั้งลงทางหนีไฟ ทิ้งให้เจ้าของแมนชั่น ยืนขาแข็งอยู่ข้างรถเข็นสีดำ ที่ไม่รู้ว่ามีตัวอะไรอยู่ข้างใน
- เจ้าของห้องเลือกที่จะลงทางหนีไฟ แต่ก็ดันเห็นแม่นาค ยืนเอาหน้าชนฝาผนังกั้นทางลงไว้ ก่อนจะค่อยๆหันคอแบบ360องศา และทันไฟก็เปิด ทุกอย่างหายไป เจ้าของหอดีใจ แต่ผีแม่นาคก็พุ่งตะโกนกรีดร้องใส่หูเจ้าของห้องจนเค้าร้องเสียงหลงว่า “ห้องนี้มีเจ้าของแล้ว!”
- รถตำรวจจอดหน้าแมนชั่น สารวัตรเค ตรงไปหาเจ้าของหอ ที่ยืนตัวสั่นอยู่ในผ้าห่ม เขาถามสารวัตรว่า คุณเชื่อเรื่องผีมั้ย สารวัตรเคว่า เค้าเชื่อและก็เคยเห็นมาก่อน เลยต้องย้ายหนีมาอยู่ย่านพระโขนง แต่สารวัตรโม้ว่าเค้านี่แหละที่เป็นคนจัดการผี ที่เราไม่ควรพูดชื่อถึงเธอ
- งั้นถือเป็นการดี เพราะตอนนี้เจ้าของแมนชั่นอยากให้สารวัตรเคกล่อมผีตัวใหม่ที่ชื่อว่านาค สารวัตรจำเธอได้ ผู้หญิงสวยชื่อน่ารักคนนั้น เธอต้องรู้จักปล่อยวาง ไม่ต่างจากผีตัวก่อน และสารวัตรรู้วิธีเจรจาเป็นอย่างดี ซึ่งเค้าจะโชว์ให้หมวดฝึกหัดดูวิธีตำรวจปราบผีชั้นครู
- หนึ่งคืนผ่านไป พระอาทติย์ขึ้นที่ขอบฟ้า เจ้าของหอ นอนหลับนอกแมนชั่นตัวเอง สารวัตรเคปลุกเค้าให้ตื่น เจ้าของหอถามเรียบร้อยมั้ย สารวัตรพูดเสียงสั่นว่าเรียบร้อย การเจรจาเสร็จสิ้น แต่อาจใช้เวลาเยอะหน่อย แต่มันคงสำเร็จ เพราะเคลียร์เจรจากันทั้งคืน เจ้าของหอคิดเช่นนั้น แต่สารวัตรก็มาสารภาพว่า เปล่าเลย ไม่ได้คุย ไม่ได้เจรจาไรเลย แม่งยื่นมือยาวเหยียดไปทั่วห้อง กูก็แค่สลบไป ไงสารวัตรก็ขอเรียกเก็บเงินสองพัน เจ้าของหอบ่นว่าไหนบอกตำรวจของประชาชน
- สารวัตรว่าเปล่า สงสัยเด็กมันหิวนม เค้าจะไปซื้อนมผงดูเมคโกลให้ ยืมก่อนเดี๋ยวโอนคืน เจ้าของหอก้มมองที่ขาสารวัตร เห็นเด็กผีทารก ลูกแม่นาคเกาะขาสารวัตรราวกับลูกลิง สารวัตรเดินขาแข็งๆไปยังรถตำรวจ และเหล่าตำรวจทั้งโรงพักก็เพ่นหายไปในพริบตา ทิ้งให้เจ้าของหอ อยู่กับผีแม่นาคยุค 2020
Act 3
- ณ ย่านพระโขนงที่เจริญรุ่งเรื่อง มีรถไฟฟ้า และรถติดขัดตลอดทางในตอนกลางวัน ผิดกับพระโขนงยามตรี เมื่อเรื่องราวความเฮี้ยนของผีแม่นาค ในโลกที่ไม่ต้องพูดกันปากต่อปาก จนถึงเล่าแชร์เรื่องเฮี้ยนของผีแม่นาคในเว็บไซน์ ย่านพระโขนง บางคนเจอเธอนั่งอุ้มลูกในรถไฟฟ้า หรือยืนถือรถเข็นเด็กสีดำที่ป้ายรถเมล์ เป็นเรื่องราวสยองเฮี้ยนที่คนกรุงย่านพระโขนงเคยชิน ในกระทู้ Pantip หญิงสาวชุดขาวท้องโต เข็นรถเข็นสีดำ ตามทางเดิน เมื่อรถตู้จอดรับ ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ในรถเข็น และผู้โดยสารหนีกันหมด
บางคนคอมเม้นต์สนับสนุน ว่าเคยเห็นผีแม่นาค สามีแม่นาคตายในสงคราม วิญญาณเธอเลยไม่ไปไหน เวียนว่ายตายเกิดที่แมนชั่นสยอง และรอคอยสามีที่สถานีรถไฟฟ้า และริมคลองแสนแสบนักเลงคีบอร์ดอ้างว่าอยู่แมนชั่นเดียวกัน เค้าว่ารู้ความจริง จริงๆแล้วมาคหนีไปหาผู้หญิงอื่น ทิ้งให้เธอแท้งตายในห้องพัก ซึ่งขณะที่เค้าพิมพ์อยู่นี้ แม่นาคก็บอกว่า … เธอถามว่าเมื่อไหร่มึงจะหยุดพิมพ์ เพลงเบาบ้างลูกกูหลับแล้ว นักเลงคีบอร์ดผวา หยุดพิมพ์ยกมือไหว้แม่นาค ก่อนจะรีบเก็บของแบบ hi speed ไม่ต่างจากผู้เช่ารายอื่นๆ
- เพราะเธอได้ทิ้งอักษรด้วยเลือดที่ตามทางเดินว่า “อย่ามายุ่งกับกู” ซึ่งแม้แต่พระพุทธ คริสต์ ฮินดู ก็ต่างพากันส่ายหน้า ไม่รับเงินใดๆจากเจ้าของหอ เพราะไม่มีใครปราบเธอได้อยู่หมัด
- เจ้าของหอพักดูผู้เช่าย้ายออกจนหมด จึงต้องติดป้ายลดราคาด่วนๆ และโชคดีมีกลุ่มวัยรุ่นฮิพๆสนใจ จะเช่าแบบเหมาชั้นเพื่อเปิดห้องปาร์ตี้ เจ้าของหอถามว่าพวกเค้าจะลองอยู่ฟรีก่อนมั้ย
- นาคยืนรอที่สถานีรถไฟฟ้า โดยมีลูกอยู่ในรถเข็นสีขาวสะอาด เธอยิ้มมองดูลูกที่น่ารักในรถเข็น เธอว่าอีกไม่นานพ่อจะกลับมาแล้ว พ่อจะได้เห็นหน้าลูกแล้วนะ นาคเล่นหูเล่นตากับลูกในรถเข็น โดยไม่รู้เลยว่า มาคยืนอยู่ข้างหลังสองแม่ลูก
Pre Climax
- เธอตกใจเมื่อเห็นสามียังหล่อในชุดทหาร ส่วนเธอก็เป็นคุณแม่คนสวยในชุดขาว ทั้งสองคนน้ำตาคลอมองหน้ากันและกัน มาคตรงไปยังภรรยา เค้าบอกคิดถึงเธอและไม่ลืมสัญญาว่าจะกลับมา เค้าขอโทษที่ไม่ได้เป็นคนอยู่ข้างเธอตอนคลอดลูก แต่ดีใจที่กำลังจะได้เห็นหน้าลูกชาย มาคมองเด็กชายทารกในรถเข็น เค้าร้องไห้สาบานว่าจะไม่กลับไปสนามรบอีกแล้ว
- แสงยามเย็นอ่อนๆ นาคและมาค กำลังพาลูกมาเดินเล่นในสนามเด็กเล่น นาคและมาคนอนปิกนิคในสนามหญ้า มาคโชว์เหรียญเกียรติยศให้นาคดู แสงอาทิตย์ส่องกระทบเหรียญดูเป็นประกาย เธอภูมิใจในตัวสามีมากๆ และหวังว่าลูกจะโตมาห้าวหาญแบบผู้เป็นพ่อ แต่สำหรับมาคกลับมองต่าง เค้าไม่อยากให้ลูกต้องโตมาในทางที่เค้าผ่านพ้น ขอเพียงได้สร้างสันติ ให้ลูกไม่ต้องไปโตมาในโลกที่สงครามก็เพียงพอ นาคและมาคชวนลูกดูอาหารที่เตรียมมาเต็มเสื่อสีขาว แต่ในขณะที่ทั้งสองกำลังหยอกล้อลูกๆ
- เจ้าของอพาร์ทเม้นเล่าเรื่องย้อนอดีต ให้เหล่าวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มสุดท้าย ซึ่งจะขอย้ายออก ทั้งหมดมองไปยัง พี่มาคเล่นคนเดียวกับลมกับอากาศ แต่เจ้าของหอพักไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่รีบก้มหน้าก้มตาเดินเข้าสำนักงาน เพราะนาคร่างผี หันมาจ้องตาเจ้าของหอพักตาเขม็ง เหล่าวัยรุ่น ทั้งสี่(จากต้นเรื่องพากันเพ่งหนี)
- เจ้าของหอ มาเคาะประตูหน้าห้องเด็กฮิพที่กำลังแต่งเพลงกันอยู่ เจ้าของหอถามถึงเหตุการณ์เหนือธรรมชาติมีบ้างมั้ย พวกศิลปินทำเพลงใต้ดิน หัวเราะชอบใจ หาว่าเรื่องผีสางมันไร้สาระ เราอยู่มาครบเดือนไม่มีผีสักตัว เจ้าของหอขมวดคิ้วมึนงง เพราะดูพวกเค้าชิลกันมาก
- แถมยังย้ำว่า คู่รักชั้นสี่ ดูแฟรนลี่ จะตาย คำนี้ทำให้เจ้าของหอถึงกับหยุดชะงัก พวกวัยรุ่นชวนให้เจ้าของหอ มาฟังเพลงใหม่ เมื่อพวกเขาเปิดประตู เจ้าของหอก็ถึงกับผวา เพราะที่นั่งอยู่ในห้อง มีศพร่างแม่นาค กำลังเสียบหูฟัง โดยทุกคนไม่มีใครรู้เลยว่า นาคเป็นผี เพราะโดนพลางตา ผีมาคหันไปถามเมียว่าเพลงไพเราะดีมั้ย ซากศพหันมายิ้มทักทายสามี แต่ในสายตาทุกคน เธอยิ้มสวยมาก เว้นเพียงแต่ เจ้าของหอเท่านั้นที่รู้ความจริง เจ้าของหออ้างว่าดึกแล้ว กูไปนอนก่อนนะ เต็มที่เลยวัยรุ่น ก่อนจะปิดประตูรีบจ้ำหนีกลับห้องตนเอง
- เช้าวันใหม่ เจ้าของหอยืนเคาะประตูหน้าห้องนาค เขายืนขาสั่นด้วยความกลัว และก็โชคดีที่มาคมาเปิดต้อนรับ เจ้าของหอเสียงสั่นทวงถามค่าเช่า เพราะเค้าไม่ได้จ่ายมาหลายเดือนแล้ว มาคนึกขึ้นได้จึงตะโกนเรียกภรรยานาคเจ้าของหอรีบอุดปากมาคในทันที เค้าว่าไม่ต้องเดือนร้อนเมียหรอก แค่บอกเฉยๆ มีอะไรเดี๋ยวลงมาคุยกันข้างล่าง เค้าจะขายแมนชั่นแล้ว อยากให้มาคพาเมียย้ายออกไปเหอะ เจ้าของหอพูดแทบจะร้องไห้ ขอให้มาคลงไปคุย โดยเค้าย้ำว่าไม่ต้องเอาเมียลงมานะเจ้าของหอพูดจบก็รีบหนีกลับไปเข้าลิฟต์ เมื่อนาคปิดประตูลง เขาก็หันไปยิ้มให้เมียคนสวย และกลับไปอาบน้ำต่อ แต่เมื่อสามีเผลอ นาคในร่างผีก็ทำตาเขม็งด้วยความโมโห
- หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน มาคก็มาเคาะประตูสำนักงานเ จ้าของหอ เค้าว่าจะเป็นไปได้มั้ยที่จะไม่ขายที่นี่ เพราะเมียเค้ารักที่นี่มาก เจ้าของหอกำลังจะเตรียมบอกความจริง แต่หันไปเห็นรถเข็นเด็กสีดำ แล่นมาชนขา เจ้าของหอไม่กล้าดูว่าอะไรอยู่ในรถเข็น เขาบอกเพียงไปอยู่ที่อื่นเหอะนะ ขอร้อง
- งั้นก็ถือเป็นการดี สำหรับเจ้าของหอ เพราะคืนนี้ เค้าและเมียจำทำอาหารเลี้ยงส่งที่นี่ เขาเชิญเจ้าของหอไปกินเลี้ยงที่ห้อง เจ้าของหอหน้าเจื่อนปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด ซึ่งมาคก็ว่า เมียเค้าก็บอกมาว่า เจ้าของหอต้องพูดงี้ งั้นไม่เป็นไร ดึกๆ เดี๋ยวนาคเค้าจะเอาของกินอร่อยๆมาให้ด้วยตัวเอง เจ้าของหอทำตาลุกวาว แบบตกใจโคตรๆ เค้ารีบปฏิเสธถี่ยิบ และตอบกลับไปว่า นี่กูไม่เหลือทางเลือกเลยใช่มั้ย โอเค เดี๋ยวขึ้นไปก็ได้ บอกเมียด้วยนะมาค ไม่ต้องเดือนร้อนลงมาก็ได้
- เจ้าของหอเยี่ยวแทบราดมายืนเคาะประตูห้องของนาค มาคเปิดประตูต้อนรับและพาเจ้าของหอไปนั่งที่โต๊ะอาหาร สำหรับมาค มันคือห้องแมนชั่นสะอาดหรู แต่ในสายตาเจ้าขอหอ มันสกปรก และเต็มไปด้วยของเน่าเหม็น เจ้าของหอตื่นกลัวสุดๆ เมื่อมาคเรียกภรรยาให้ออกมา เค้าแทบไม่กล้าลืมตา แต่ปรากฏว่า เมียนาคกลับใช้ร่างก่อนตายที่ยังสวยมาพบเจ้าของหอ เธอแต่งตัวเหมือนคุณแม่ญี่ปุ่นน่ารักๆ ทำอาหารอบขนมเค้กมาเสริฟ เจ้าของหอเริ่มงงๆ เธอยิ้มหน้าหวานก่อนจะเริ่มชวนทุกคนทาน มาคว่าเราควรจะสวดมนต์ก่อน เจ้าของหอก็คิดว่าดี แต่อยู่ๆนาคก็รู้สึกไม่พอใจ และไม่อยากสวดเพราะหิวมากแล้ว เธอทำตาจิกใส่เจ้าขอหอ ซึ่งเค้าก็รีบตอบว่า เออ หิวๆ รีบกินดีกว่า เอาไงเอากัน เจ้าของหอกินอาหารหรูอย่างเอร็ดอร่อย
- นาคเริ่มชวนเข้าประเด็นว่าเจ้าของหอจะขายที่นี่จริงเหรอ จะเป็นไปได้มั้ยที่จะไม่ขาย มาสำลักข้าวเพราะเริ่มรู้สึกนาคถามตรงประเด็นจนดูไม่เหมาะสม ซึ่งเจ้าของหอก็ตอบแบบกลัวๆว่าไม่ได้หรอก ช่วงนี้ร้อนเงิน แถมที่ย่านพระโขนงเป็นแหล่งกลางเมืองราคาสูง นาคก็เริ่มสงสัยเพราะก่อนหน้านี้เค้าเคยบอกว่าไม่อยากขาย อยากเก็บไว้ เต็งราคาไม่ใช่เหรอ ซึ่งตอนนี้อาหารในช้อนของเจ้าของหอ ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นหนอน เค้าตกใจ เมื่อนาคเผยภาพจริงที่ไม่ลวงตาให้ตนเองเห็น เจ้าของหอมือสั่น นาคชวนให้เค้าทานต่อสิ เพราะเมื่อตะกี้ยังกินไม่หยุด เจ้าของหอ จำใจกินหนอนสดๆ แบบไม่ค่อยเต็มใจนัก นาคถามอีกที ในหน้าศพโคตรสยอง อยากจะขายที่นี่จริงๆเหรอ เจ้าของหอตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจ ไม่ขายแล้ว มาคิดดีๆ เก็บไว้เต็งราคาให้ลูกหลานดีกว่า อยู่กันไปสองคนเถอะนะ เค้าพูดจบก่อนจะขอตัวจากไป มาคเริ่มงงกับท่าทีประหลาดของเจ้าของหอ
- ในค่ำคืนที่เงียบกริบ มาคนอนสงสัยอยู่บนที่นอน นาคหันมาถามว่าคิดอะไรอยู่ เค้าตอบเธอว่าเปล่า แค่รู้สึกตลกที่ทุกคนเหมือนกลัวบางสิ่งที่อยู่ที่นี่ มาคหัวเราะส่ายหน้ามองว่ามันเป็นเรื่องตลกและเตรียมจะหลับ ตามภรรยา โดยที่เมียไม่รู้เลยว่าเค้ายังคงคุ้นคิดไม่ตก
- เวลาผ่านไปสักพัก เมื่อพระอาทิตย์เต็มดวง บอกเวลาตีสาม นาคสะดุ้งตื่นเดินไปยังเปย์ลูกเพื่อให้นมแบบทุกครั้งแต่ครั้งนี้ลูกกลับหายไป นาควิตกกังวล เมื่อมาคก็หายไป
Climax
- นาคตะโกนตามหามาค และเรียกหาลูกตนเอง เธอตามขึ้นไปยังชั้นบนที่มีรถไฟฟ้ากำลังแล่นเพื่อเข้าท่าเก็บรถไฟ โดยทั้งสถานีไม่มีผู้โดยสาร เว้นเพียงแต่มาคที่ยืนอุ้มลูกฝั่งตรงข้ามนาค เธอตะโกนเรียกมาค เธอสงสัยว่าทำไมเค้าถึงเอาลูกออกมาโดยไม่ได้บอกเธอมาคเหมือนรู้ความจริงทุกอย่างเค้ามองลูกน่ารักในอ้อมแขน แต่ก็สงสัยว่าทุกอย่างเป็นภาพลวงตาหรือเรื่องจริง นาคเริ่มน้ำตาคลอคิดว่ามาคบ้าไปแล้ว เธออยู่ตรงนี้และคุณกำลังอุ้มลูกของเรา ทั้งสองพูดโต้ตอบกันขณะที่รถไฟฟ้าเที่ยวแล้วเที่ยวเล่า พุ่งสวนหน้าทั้งคู่ไป
- นาคขอร้องให้มาคกลับไปยังแมนชั่น มาคขมวดคิ้วส่ายหน้าก่อนจะตัดสินใจพิสูจน์ว่านี่คือเรื่องจริง หรือภาพลวงตาด้วยการโยนทารก ไปในอากาศ ขณะที่รถไฟฟ้าแล่นพุ่งเข้ามา ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง เมื่อมาคกั้นใจลืมตาดู สิ่งที่เขาสงสัยก็เป็นจริง นาคมือยาวราวผีแม่นาค ใช้มือเพียงข้างเดียว ยืดไปคว้าอุ้มลูกผีทารก ไม่ให้รถไฟฟ้าทับ โดยเบื้องล่างทารกผี รถไฟฟ้าแล่นอยู่ใต้ร่างเค้า มือยาวราวผียืดจนแทบจะข้ามทางรถไฟฟ้า มาคน้ำตาคลอแทบไม่เชื่อสายตา เขาถอยก้าวขาวิ่งหนีภรรยาไปไกล
- มาคเริ่มสับสนกลับมายังแมนชั่น ซึ่งตอนนี้มันดูสกปรก ขาดคนดูแล แถมห้องที่เคยสะอาด ดูสกปรกและเต็มไปด้วยอาหารเน่าเหม็น เค้าได้ยินเสียงเด็กทารกร้องในเปย์ มากเดินไปดูปรากกฏว่าเด็กในเปย์คือซากศพ มากเห็นถึงกับน้ำตาคลอ
- นาคที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ขอโทษที่ไม่สามารถรักษาลูกไว้ได้ มาคเสียใจส่ายหน้าถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอว่ามันเป็นความผิดเธอเองที่ไม่รักษาสัญญา รอคุณกลับมาเมื่อยังมีลมหายใจ ไปเถอะ นาคเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางให้มาค เธอว่าเธอกับลูกจะอยู่ในโลกของเธอ
- นาคไม่อยากจะหลอกให้สามีกลัว ขอเธออยู่อย่างสงบกับลูกที่รัก เธออยากปล่อยวาง นาคจำใจเก็บกระเป๋า เพราะร่างจริงของผีได้ปรากฏหมดแล้ว
- มาคยืนโดดเดี่ยวรอรถไฟฟ้าพาเค้าจากลา จากสถานีพระโขนง ซึ่งฝั่งตรงข้ามนาคยืนอุ้มลูกยืนน้ำตาคลอรอเค้าจากไป ขณะที่ผู้คนนับร้อยพันเดินสวนร่างวิญญาณที่มีเพียงมาคเท่านั้นที่สามารถเห็น รถไฟฟ้าจอดรอ มาคเหมือนจะเดินขึ้นรถไฟฟ้า ไปทิ้งให้ผีแม่นาคอยู่กับลูกอย่างโดดเดี่ยว
- นาคเดินเข็นลูกไปตามทางเดินที่ไร้ผู้คน โดยเธอตกใจที่เห็นสามีกลับมา เค้ายืนอยู่ที่ปลายอุโมงค์ทางเดิน มาค ตรงมาหาเธอ เค้าว่าจริงๆเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของเค้า ที่ไม่ยอมอยู่กับภรรยาในวันที่มีโอกาส เค้าขอโทษเธอ และคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเค้าและเธอได้ไปอยู่ด้วยกัน มาคพูดราวกับว่าอยากจะตายไปจากโลกใบนี้เพื่อที่จะได้อยู่กันเป็นครอบครัว มาคหอมแก้มลูกทารกผีอย่างไม่รังเกียจ และบอกย้ำว่ารอก่อนนะ พ่อจะตามไปหาลูก นาคน้ำตาคลอ ที่มองสามีพร้อมจะตายเพื่อได้พบเธอ
- แต่มันมากเกินไปสำหรับเธอมั้ย เธออยากจะห้ามแต่อีกใจก็ต้องการเช่นนั้น นาคมองสามีเดินกลับขึ้นสถานี ขณะที่รถไฟฟ้ากำลังแล่นไปเที่ยวแล้วเที่ยวเล่า ผู้คนต่อแถวรอรถไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ห้ามเด็กๆเกินเส้นสีเหลืองที่เป็นเขตอันตราย มาครู้ว่าเค้าควรจะต้องกระโดดข้ามเส้นสีเหลืองออกไป เพื่อที่จะได้ไปพบลูกและเมียในชีวิตหลังความตาย และเค้าก็ทำ มาคกระโดดออกไปหวังให้รถไฟฟ้าชนให้ตายในพริบตา แต่ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งรถไฟฟ้ากลับแล่นผ่านหน้าและเส้นผมของมากไป
- มือยาวๆของผีแม่นาคคว้าจับร่างสามีไว้ เธอร้องไห้บอกเค้าว่าไม่เป็นไร เธอไม่ต้องการแบบนี้ ใช้ชีวิตเถอะ พอแล้ว คุณควรปล่อยวาง เธอกลับลูกจะต้องไปอีกโลกนึงที่เค้าไม่ควรต้องไป ณ วันนี้ มันยังไม่ถึงเวลาของมาค นี่คือลิขิตของเธอและลูก
- แต่เธอต่างหากที่ขอบคุณเค้า เพราะหลังจากนี้ พวกเค้าจะพูดถึงเรื่องราวความรักของเราสองคน นาคใช้มือยาวๆดึงสามีมากอด และภาพก็ย้อนกลับไปทุกๆเวอร์ชั่นของผีแม่นาค ภาพอดีตของภาพยนตร์ไทยและละคร เรื่องราวความรักของผีแม่นาคและพ่อมาค จะยังคงอยู่เป็นนิรันดร์
- วัดมหาบุษศ์ (แม่นาคพระโขนง) กลางคืน จากสถานที่จริง มาคพานกพิราบสื่อสารคู่หนึ่งมาที่ริมคลองแสนแสบที่สีเขียวสะอาดในยุค 2020 เขาและแม่นาคในยุค 2020 ร่วมปล่อยนกพิราบให้โบยบินอย่างมีอิสรภาพ..... THE END
3 บันทึก
3
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย