• การปฏิวัติเท็กซัส | ฉบับรวบรัด
• Fast check
การปฏิวัติเท็กซัส (Texas Revolution) เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1835 จนถึง 1836 โดยเป็นการต่อสู้เพื่อประกาศอิสรภาพของเท็กซัสจากการตกเป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโก
แรกเริ่มเดิมทีนั้น เท็กซัสถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของเม็กซิโกในชื่อดินแดนโกอาวีลาและเตยาส (Coahuila y Tejas | โกอาวีลาเยเตยาส) โดยบริเวณแห่งนี้ก็ได้มีชาวเม็กซิกันอาศัยอยู่ ซึ่งชาวเม็กซิกันที่อาศัยอยู่ในเท็กซัสนั้น ก็ถูกเรียกว่าชาวเตยาโนส (Tejanos)
แต่ด้วยความที่เท็กซัสตั้งอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางของเม็กซิโก และมีความลำบากทุรกันดาร จึงทำให้มีชาวเตยาโนสอาศัยอยู่เป็นจำนวนที่ไม่มาก
เท็กซัสในฐานะส่วนหนึ่งของเม็กซิโก
แม้ว่าเท็กซัสจะอยู่ห่างจากเม็กซิโก แต่เท็กซัสกลับอยู่ใกล้กับสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีชาวอเมริกันจำนวนมาก ได้อพยพเข้ามาอยู่ในเท็กซัส เพื่อทำการค้า แสวงโชค และตั้งรกรากอยู่อาศัย
ผลปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไป ชาวอเมริกันที่อยู่ในเท็กซัส กลับมีจำนวนที่มากกว่าชาวเตยาโนส โดยในช่วงปี 1830 ประชากรมากกว่า 80% ในเท็กซัสเป็นชาวอเมริกัน ส่วนอีก 20% คือชาวเตยาโนส
แน่นอนว่าทางการเม็กซิโกย่อมเกิดความไม่สบายใจ ในเรื่องที่มีชาวอเมริกันอาศัยอยู่ในเท็กซัสเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางการเม็กซิโกจึงเริ่มดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า เท็กซัสยังคงภักดีกับเม็กซิโกอยู่
บรรยากาศของเท็กซัสในช่วงทศวรรษที่ 1830
โดยเริ่มตั้งแต่จำกัดการย้ายถิ่นฐานของชาวอเมริกันเข้าสู่ดินแดนเท็กซัส มีการสั่งให้ชาวเม็กซิกันให้เข้าไปอยู่เท็กซัสมากยิ่งขึ้น ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บังคับให้ผู้คนในเท็กซัสต้องพูดและเรียนภาษาสเปน รวมไปถึงบังคับให้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
นโยบายต่าง ๆ ที่ทางการเม็กซิโกนำมาบังคับใช้เท็กซัส ก็ได้ทำให้ชาวอเมริกันในเท็กซัสไม่พอใจเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะชาวอเมริกันในเท็กซัสส่วนใหญ่พวกเขานับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์
ที่สำคัญก็คือ เมื่อทางการเม็กซิโกประกาศเลิกทาสทั่วประเทศในปี 1831 ชาวอเมริกันในเท็กซัสก็ยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม เพราะชาวอเมริกันเหล่านี้ต่างก็มีค่านิยมในการครอบครองทาส (ส่วนใหญ่มาจากภาคใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งนิยมครอบครองทาสเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว)
เมื่อถึงปี 1835 ทางการเม็กซิโกภายใต้การนำของประธานาธิบดี อันโตนิโอ โลเปซ เด ซานตา อันนา (Antonio Lopez de Santa Anna) มีแนวคิดรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง และออกนโยบายบีบบังคับผู้คนในเท็กซัสมากขึ้น ส่งผลให้ชาวเท็กซัสได้ก่อการประท้วง และต่อต้านรัฐบาลเม็กซิโก
ประธานาธิบดี Antonio Lopez de Santa Anna แห่งเม็กซิโก
เมื่อเกิดความวุ่นวายในเท็กซัส ซานตา อันนา จึงได้ส่งกองทัพเม็กซิโกเข้าไปในเท็กซัส แต่การเข้ามาของกองทัพเม็กซิโก ก็ได้ก่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังของเท็กซัสกับกองทัพเม็กซิโก ที่เมืองกอนซาเลซ (Gonzalez) ในต้นเดือนตุลาคม 1835
การรบที่กอนซาเลซจบลงด้วยชัยชนะของเท็กซัส ชัยชนะในครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นสำคัญของการปฏิวัติเท็กซัส โดยการปฏิวัติในครั้งนี้ ก็มีผู้นำคนสำคัญก็คือ แซม ฮูสตัน (Sam Houston) และสตีเฟน ออสติน (Stephen Austin)
Sam Houston (ซ้าย) และ Stephen Austin (ขวา) สองผู้นำการปฏิวัติเท็กซัส
ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 1835 ทั้งสองฝ่ายก็ได้ปะทะกันอีกครั้งที่ป้อมลิปาติทลัน (Fort Lipantitlan) ซึ่งฝ่ายเท็กซัสก็สามารถเอาชนะเหนือเม็กซิโกได้อีกครั้ง
เมื่อกองทัพเม็กซิโกพ่ายแพ้ต่อเท็กซัสหลายต่อหลายครั้ง ก็ได้ทำให้ซานตา อันนา ตัดสินใจนำกองทัพใหญ่ของเม็กซิโกบุกเท็กซัสด้วยตนเอง (ตอนนั้นซานตา อันนา ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อให้บัญชาการรบได้อย่างเต็มที่)
ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 1836 กองทัพของซานตา อันนา ได้ปะทะกองกำลังเท็กซัสในการรบที่อลาโม่ (Alamo) หลังจากสู้รบนานกว่าสองสัปดาห์ ผลสุดท้ายฝ่ายเท็กซัสก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
Battle of the Alamo
แต่ความพ่ายแพ้ที่อลาโม่ ก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับชาวเท็กซัส เพื่อให้พวกเขาก่อการปฏิวัติให้สำเร็จ และปลดแอกตนเองจากเม็กซิโก
ที่สำคัญก็คือในช่วงที่เกิดการรบที่อลาโม่ ในวันที่ 2 มีนาคม 1836 แซม ฮูสตัน ก็ได้ประกาศอิสรภาพของเท็กซัสจากเม็กซิโก และสถาปนาสาธารณรัฐเท็กซัส (Republic of Texas) ขึ้นมา
ธงชาติสาธารณรัฐเท็กซัส (ต่อมาจะกลายเป็นธงประจำรัฐเท็กซัส)
เมื่อถึงวันที่ 21 เมษายน 1836 ทั้งสองฝ่ายก็ได้ตัดสินกันในศึกสุดท้ายที่ซาน จาซินโต (San Jacinto) การรบครั้งนี้จบลงด้วยชัยชนะของเท็กซัส ที่สำคัญก็คือพวกเขายังสามารถจับกุมตัว ซานตา อันนา ในการรบได้อีกด้วย
หลังจากความพ่ายแพ้ ซานตา อันนา ก็ได้ถูกปล่อยตัวออกมา และนำกองทัพเม็กซิโกล่าถอยออกจากเท็กซัสทั้งหมด หลังจากนั้นเม็กซิโกก็ทำสนธิสัญญาเวลาสโก (Treaty of Velasco) เพื่อยอมรับเอกราชของเท็กซัส (แน่นอนว่า เม็กซิโกจำเป็นต้องทำเพราะสถานการณ์บังคับ เม็กซิโกไม่ได้ต้องการให้เท็กซัสเป็นเอกราชจริง ๆ ) หลังชัยชนะในการปฏิวัติ แซม ฮูสตันก็ได้กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของเท็กซัส
จนกระทั่งในปี 1845 เท็กซัสก็ได้ถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ในฐานะรัฐที่ 28 ซึ่งการผนวกรวมในครั้งนี้ ก็ได้ทำให้เม็กซิโกเกิดความไม่พอใจ จนท้ายที่สุดก็ได้กลายเป็นสงครามเม็กซิโก-อเมริกา (Mexican-American War) ที่เกิดขึ้นในปี 1846 จนถึง 1848
** ชื่อเมืองสำคัญของเท็กซัสอย่างฮูสตันและออสตินนั้น ก็มาจากชื่อของ Sam Houston และ Stephen Austin นั่นเอง
*** Reference
#HistofunDeluxe
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
