15 ส.ค. 2021 เวลา 04:17 • การเมือง
บ้าอำนาจ‼️
สิ่งก่อสร้างจากหินอ่อนในเมืองอาชกาบัต (Ashgabad ) .
เนื่องจากเมื่อสองวันก่อน มีโอกาสได้ชม สารคดีท่องเที่ยวรายการโปรด ที่เป็นสาวกมานานแล้ว คือรายการหนังพาไป ที่คุณยอดกับคุณบอล สองผู้ดำเนินรายการ สุดโปรดของเรา ที่ชอบพาไปท่องเที่ยว ต่างประเทศในสไตล์การเที่ยวที่คล้ายๆกันกับเรา จึงทำให้ติดหนึบอยู่จนทุกวันนี้
และตอนที่ได้ดูล่าสุด คือเขาพาไปชมเมือง อาชกาบัต (Ashgabad ) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเติร์กเมนิสถาน พอดูจบ Ep.2 แล้ว ถึงกับอุทานว่า “โอ้วแม่เจ้า “ และเกิดความค้างคาใจ จนอยากเข้าใจและอยากมองเห็นภาพชัดเจน ของคำว่า “บ้าอำนาจ” เป็นได้ขนาดนี้เลยหรือ เพิ่มมากขึ้น
ด้วยความที่ไม่เคยรู้จักเมืองนี้มาก่อนเลย จึงค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม จึงได้รู้จักผู้นำประเทศนี้ดีขึ้น ยิ่งรู้จักยิ่งไม่รักเธอ😊
ซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ (SAPARMURAT ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ
จากข้อมูลข่าวสาร ได้ทราบว่าผู้ก่อตั้งเมืองนี้ หลังแยกตัวประเทศมาจากรัสเซีย คือ นายซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ (SAPARMURAT "TURKMENBASHI" NIYAZOV) ซึ่ง ตั้งตนเองเป็น "ประธานาธิบดีตลอดชีพ" (ซึ่งแล้วแต่ชีพจะยาวนานค้ำฟ้าไปได้สักแค่ไหน) และให้ประชาชนเรียกเขาว่า "เกรท เติร์กเมนบาชิ" (บิดาแห่งชาวเติร์กเมนทั้งมวล)
ยิ่งค้นก็ยิ่งนั่งขำ เพราะตรรกะความคิดของผู้นำท่านนี้ มีทั้งกินรวบอำนาจ มีทั้งกำหราบประชาชน แต่ในบางมุมก็แอบมีมุมมุ้งมิ้ง แอบแฝงอยู่ด้วย ยิ่งอ่านไปอ่านมา ถึงกับงงว่า ท่านเป็นไบโพล่าร์หรือเปล่า
เขาปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 1985 ถึงปี 2006 และเหมือนเก็บกด เขาสั่งให้สร้างอาคารที่ใหญ่โต มากมายในกรุงอาซกาบัด อาคารส่วนใหญ่จะทำมาจากหินอ่อน และเมืองทั้งเมืองจะมีแค่สีขาวเท่านั้น ห้ามมีสีอื่นๆ
ถนนหนทางและสิ่งปลูกสร้างสวยงามราวเนรมิต แต่ทว่าไร้ซึ่งผู้คน มันมองแล้วเหมือนเมืองในเทพนิยาย ที่ไม่สามารถอยู่ได้จริง อาจเนื่องจากตัวนายซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ จบการศึกษาทางวิศวกรรม นั่นเองเขาจึงมีหัวคิดเรื่องนี้ และเมื่อสร้างแล้ว แน่นอนที่สุดของคนบ้าอำนาจ จึงต้องบันทึกความทรงจำให้โลกรู้ว่า ที่ตรงนี้ใครสร้าง
เขาจึงได้เปลี่ยนชื่อ สถานที่ต่างๆในเมือง มาเป็น "Turkmenbashi"เสียให้หมด แม้กระทั่งชื่อเมืองก็ยังเปลี่ยนจากเดิม ที่เคยจาก"Krasnovodsk ไปเป็นTurkmenbashi" ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเปลี่ยนชื่อโรงเรียนและถนนหนทาง มากมายมาเป็น "Turkmenbashi" แม้กระทั่งชื่อเดือนมกราคมยังไปเป็น "Turkmenbashi” เสียเลย นอกจากชื่อตัวเองแล้ว เขายังแอบเปลี่ยนชื่อเดือน "April" เป็น "Gurbansoltan" ตามชื่อมารดาของเขา
เปลี่ยนชื่อคำเรียก "Bread" เป็น "Gurbansoltan" ตามชื่อมารดาของเขาอีกด้วย ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ ว่าอุกาบาตรที่ตกในประเทศ จะชื่ออะไรลองคิดตามดู😊
อนุสาวรีย์ที่มีรูปปั้นนายซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ ที่สามารถหมุนตามแสงอาทิตย์ได้ 360 องศา
ความบ้าอำนาจยังไม่จบแค่นั้น เขายังเป็นผู้แต่งหนังสือ "Ruhnama" ที่เป็นการผสมผสานของศาสตร์หลายด้าน รวมทั้งความดีของท่านผู้นำ และบังคับให้นักเรียนเรียนในทุกระดับชั้น รวมทั้งบริษัทบางแห่งต้องใช้ตำรานี้กำหนดเนื้อหาในข้อสอบ สำหรับสอบเข้าทำงานอีกด้วย ดังนั้นถ้าไมศึกษาหนังสือเล่มนี้ ไม่มีทางสอบผ่านเด็ดขาด😂😂
หากจะเปรียบเปรยการปกครองของเขา ให้เห็นภาพชัด จะเปรียบได้เหมือนคุณครูที่คอยถือไม้เรียว กวดขันกฎระเบียบ ที่หาประโยชน์และสาระเด่นชัดไม่ได้นั่นเอง ซึ่งผู้ที่ถูกจับจ้องก็เป็นเพียงประชาชน ที่คงอึดอัด หายใจแทบไม่ออก ซึ่งพวกเขามีชีวิตจริงๆ แอบซ่อนอยู่อีกมุม ของเมืองสวยงามราวเทพนิยายแห่งนี้ อย่างแร้นแค้นนั่นเอง
และแล้วอำนาจอันยิ่งใหญ่ล้นฟ้า ก็ไม่สามารถทัดทานอายุขัยที่ธรรมชาติลิขิตได้ นายซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ ผู้บ้าอำนาจอย่างสูงส่ง ได้เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ด้วยโรคหัวใจวายเมื่อ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2006 มีอายุเพียง66 ปี ทิ้งไ้ว้เพียงสิ่งก่อสร้างที่ใช้เงินสร้างมหาศาล แต่ไม่สามารถนำมาช่วยเหลือประชาชนให้มีความสุขได้เลย
กูร์บันกูลือ เบร์ดือมูฮาเมดอว์ (Gurbanguly Berdimuhamedow) ประธานาธิบดีปัจจุบัน
ความโชคร้ายของประชาชนเติร์กเมนิสสถาน ยังไม่จบแค่นั้น หลังจากนายซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ ได้เสียชีวิตลง พวกเขาก็ได้เลือกผู้นำคนใหม่มาปกครองประเทศ ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายถึง 99.5% 😱😱คะแนนสูงอย่างนั้น เพราะมีผู้สมัครคนเดียว 😊
ประธานาธิบดีคนใหม่คนนี้ เป็นอดีตหมอฟัน นามว่ากูร์บันกูลือ เบร์ดือมูฮาเมดอว์ (Gurbanguly Berdimuhamedow) ซึ่งเมื่อเขาขึ้นรับตำแหน่งใหม่ ก็ดูเหมือนจะดี เพราะมีการเริ่มผ่อนคลายกฎเหล็กของประเทศลงบ้างแต่ก็ไม่มากมายนัก ดูได้จากเมืองนี้ทั้งเมือง ที่ติดกล้องวงจรปิด ควบคุม แทบจะทุกอณูของเมืองก็ว่าได้ และยังมีการห้ามนักท่องเที่ยวถ่ายรูป นั่นก็ยังแสดงถึงความน่าอึดอัดที่ยังมีแฝงอยู่ในความรู้สึก ของประชาชนของเมืองนี้ได้เช่นกัน
นายกูร์บันกูลือ เบร์ดือมูฮาเมดอว์ ได้ย้าย ปลดสิ่งปลูกสร้าง หรือรูปต่างๆของประธานาธิบดีคนแรก ออกไปนอกเมืองอาชกาบัต และเริ่มบริหารบ้านเมือง แต่ข้อมูลจากแหล่งข่าวต่างๆ ก็ยังสรุปได้ว่ายังมีการใช้งบประมาณฟุ่มเฟือยในการบริหารประเทศ และช่วงหลังๆมานี้ นายกูร์บันกูลือ เบร์ดือมูฮาเมดอว์ เริ่มมีอาการบ้าอำนาจ เจริญรอยตามผู้นำคนแรกเสียแล้ว
และสืบเนื่องจาก นายกูร์บันกูลือ เบร์ดือมูฮาเมดอว์ มีความชอบในการขี่ม้าเป็นอย่างมาก จนกระทั่งมีข่าวออกมาว่าเขาได้สร้างอนุสาวรีย์เขานั่งอยู่บนหลังม้า ตั้งอยู่ในสนามม้าแห่งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวเป็นฮือฮา เมื่อมีภาพ VDO หลุดออกมาสู่โลกภายนอก ให้เห็นภาพ นายกูร์บันกูลือ ได้ตกลงจากหลังม้า ขณะที่กำลังมีการแข่งขัน แต่ข่าวจากทางการ ถูกปกปิดไม่ได้มีรายละเอียดเรื่องตกม้า จะเพียงแต่แจ้งว่านายยกูร์บันกูลือ เป็นผู้ชนะการแข่งขันในการขี่ม้าครั้งนั้นเท่านั้น
อนุสาวรีย์สุนัขทองที่ตั้งอยู่กลางเมือง
นอกจากนั้นก็เริ่มมีการสร้างอนุสาวรีย์ สุนัขทองคำ สุนัขสายพันธุ์อาลาไบ (Alabai/Alabay)เป็นสุนัขพันธ์ุโปรดของท่านผู้นำ ที่มีขนาด 5.8 เมตรตั้งตระหง่านไว้กลางเมืองอาซกาบัต เพื่อเป็นสัญลักษณ์สัตว์ประจำชาติของประเทศ เช่นเดียวกับ ม้าสายพันธุ์อักฮัล-ทีก (Akhal-Teke) ที่เขาโปรดปราน พร้อมกับมีการตั้งให้ มีวันหยุดประจำชาติที่เพิ่งบรรจุเมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย😯
และที่น่าตกใจไปกว่านั้น หลังๆมานี้ ท่านผู้นำหมอฟันเริ่มมีคลิปแอคชั่นฮีโร่หลุดออกมาให้รับชม และไม่สามารถมีคำตอบ หรือเหตุผล บอกให้โลกรู้ได้เลยว่า “เขาทำเพื่อ?” ดูไปแอบยิ้มดังๆไปคนเดียว สงสัยแกอยากเป็นคีนูรีฟ 😊 สามารถตามไปดูได้ตาม link https://youtu.be/H4ZzTcpCGwA
ภาพถ่ายแอ๊คชั่นฮีโร่ ของประธานาธิบดีหมอฟัน แห่งเติร์กเมนิสสถาน
นึกๆแล้ว โชคดีจริงๆที่ประเทศของเรายังไม่ไปถึงจุดนั้น ยังพอจะออกมาตะโกนโหวกแหวกโวยวายได้บ้าง ทำให้สงสารและเข้าใจประชาชนชาวเติร์ก ฯ เป็นอย่างมาก ที่น่าจะต้องเก็บกด แอบซ่อนตัวอยู่ในมุมของโลกความเป็นจริง ที่ยังมีบ้านที่ทำจากสังกะสี ที่ยังมีกองขยะเกลื่อนกลาด ที่ยังมีความแร้นแค้น อยู่ท่ามกลางเมืองที่โอ่อ่างดงาม แต่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งนั้น
เมื่อได้รู้จักเมืองนี้แล้ว ได้เข้าใจคำว่า ลุแก่อำนาจ หลงอำนาจ บ้าอำนาจจากคนๆเดียว อย่างเป็นรูปธรรม ที่เขาผู้นั้น นำพาคนหมู่มากในปกครองดิ่งลงเหว ด้วยความบ้าบอของความคิด และเผด็จการ จนสรุปได้ว่า อำนาจนี่เอง หากถือไว้นานเกินพอดี ท้ายที่สุดต่อให้เป็นคนดี ก็สามารถบ้าได้ ดังนั้นผู้นำควรจะให้อยู่แค่ 4 ปี และมีกฎหมายเด็ดขาดเรื่องการโกงการเลือกตั้ง เพื่อกำจัดการอยู่ในอำนาจ ต่อเนื่อง นานเกินไป จนกระทั่งทำให้สติผู้นำเพี้ยน น่าจะดีต่อประเทศและประชาชน
“ ความไม่ยั่งยืนของชีวิตคนนั้น ก่อนที่จะบ้าอำนาจ น่าจะคิดได้ก่อนที่จะสายไปว่า ตนเองก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง แล้วก็มีความตายเป็นปลายทาง ในวันที่ไม่เหลือร่องรอยของตนเองแล้วนั้น คนรุ่นหลังก็สามารถปลด ถอดออก และลืมเลือนคุณไปได้ จะมีสองสิ่งที่เหลืออยู่ให้จดจำคุณ ก็คือ สิ่งเลวร้ายที่คุณเคยทำ และสิ่งดีงามที่คุณเคยก่อ ก็เท่านั้นเอง ดังนั้นหาก 7 ปีผ่านมานานแล้ว จิ้งจกทักเต็มถนนไปหมด ว่าพอเหอะ ท่านผู้นำ ก็น่าจะเอาเวลาไปนั่งนึกถึงปลายทางของชีวิต แบบมีความสุข ก่อนจากโลกนี้ไป น่าจะดีกว่าเนอะ😊” #ความหวังดี จากเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง😊# “
สารคดีท่องเที่ยวที่แนะนำ ⤵️⤵️
Cr. Photo 🙏🙏🙏
โฆษณา