15 ส.ค. 2021 เวลา 01:55 • ปรัชญา
ดีไปทำไม
เวลาเราพยายามอะไรสักอย่าง แล้วไม่ได้ผล หรือออกผลร้าย
1
เราอาจมีคำถามนึงเข้ามา ว่าจะทำดีไปทำไม หรือจะพยายามไปทำไมหนอ อะไรทำนองนี้
1
ใครๆก็น่าจะเป็นครับ เพราะคำถาม ก็สมเหตุสมผลอยู่ในตัว
แต่ผมสังเกตเพิ่มอีกหน่อย ว่าตัวความพยายาม เหมือนจะมีธรรมชาติแปลกๆอีกข้อ
คือ ‘ขนาด’ กับ ’เวลา’ ส่งผลต่อกัน แบบตัดฉับ ไม่เป็นสัดส่วนตามจริง
ถ้าเราพยายามเรื่องเล็กๆ ผลที่คาดหวังจะออกเลย
1
แต่ถ้าพยายามเรื่องใหญ่ๆ ผลจะแทบไม่มี จนกว่าจะถึงเวลานึง ผลจะออกตูมเดียว
3
ความพยายามจะไม่ใช่แนวแสดงผลเรื่อยๆ เพื่อให้เราอุ่นใจเท่าไหร่ครับ
1
ลองนึกภาพ ความซื่อสัตย์ก็ได้ เมื่อไหร่นะที่คนจะกล่าวได้ว่าเราซื่อสัตย์ ก็คงนานมากๆ แต่ระหว่างนั้น คนไม่ซื่อสัตย์ ก็เอาเปรียบไปเรื่อย
3
หรือนึกภาพคนทำเพื่อส่วนรวม เมื่อไหร่ที่คนส่วนรวมจะเห็น บางทีเป็นสิบปี แต่ระหว่างนั้น คนเห็นแก่ตัว ก็ไปสู่เป้าหมายเค้าได้อย่างรวดเร็ว
3
ดูเผินๆ จึงดูเหมือนจะทำดีไปทำไมน่ะครับ ไม่ซื่อสัตย์ หรือเห็นแก่ตัว เห็นผลสำเร็จชัดกว่าแยะ
2
แต่จนกว่า เมื่อระยะยาวมาถึง ผลก็จะกลับด้านกัน
คนซื่อสัตย์ หรือทำเพื่อคนอื่น จะมีรากฐานชีวิตที่แข็งแกร่ง ได้รับความนับถือ และทำให้มีชีวิตที่มั่นคงกว่ามาก
3
ส่วนคนไม่ซื่อสัตย์ หรือไม่ทำอะไรเพื่อใครเลย ก็จะถูกดูออก ที่ว่าเร็วๆ ก็อาจติดขัด หรือไปต่อไม่ได้
ผมคิดว่า หลักการดีๆส่วนมาก ก็มักเป็นเรื่องใหญ่ และอยู่ใต้กลไกนี้นะครับ
ความกตัญญู ความประหยัด การศึกษาหาความรู้ ไปจนถึงการมีสุขภาพดี
1
ระยะสั้น เสียเวลา เสียเปรียบทั้งนั้น แต่ระยะยาวมากๆ จะได้เปรียบ และหนักแน่น
ฉะนั้น จะดีไปทำไม จึงอาจเป็นคำถามที่ไม่ตรงคำตอบนัก
1
เพราะคำตอบ ธรรมชาติกำหนดไว้แล้ว ว่าการพยายามเรื่องใหญ่ อาจส่งผลทีเดียว และเราต้องมีความอดทนสูงมาก ก็แค่นั้น
1
และถ้ารอไม่ไหวจริง ผมว่าการลืมๆเรื่องผลไปบ้าง ก็ช่วยได้นะครับ ทำเพียงเพราะต้องทำ ก็พอ
2
..เราจะได้มุ่งทำ โดยไม่มีความลังเล หรือคำถามกวนใจ มากจนเกินไปครับ
1
ภาพถ่ายโดย Stefan Stefancik จาก Pexels
โฆษณา