เจ้ากรรมนายเวร !! (3/3)
หลังจากที่เพื่อนเรา ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ยืนยันว่าทุกสิ่งอย่างที่พูดเล่ามาทั้งหมด เป็นเรื่องจริง
ใจเราเริ่มเต้นรัว ไม่เป็นจังหวะมากขึ้น
' โห ... ที่ผ่านมาไม่เจอกันนาน
ไม่เพียงแต่มันต้องผจญภัยอันตรายร้ายแรงทางกายภาพ
นี่มันยังต้องเผชิญกับสิ่งลี้ลับอันน่าสะพรึงกลัวทางจิตภาพอีกด้วยหรอ '
แต่แล้วจู่ๆ เพื่อนเรา ก็เปลี่ยนเรื่องเล่าประเด็นใหม่ อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
" คือปกติ เราเป็นคนนับถือหลวงปู่ทวดไง !!
แต่ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ชนสนั่นกับรถสิบแปดล้อ
หลวงปู่ทวดเรา กระเด็น !!
หาเท่าไร ก็ไม่เจอ .. ใครหา ก็ไม่มีใครเจอ !! "
...
...
ตอนนั้น เราไม่ได้ถามหรอก ว่าหลวงปู่ทวดที่พูดถึง
เป็นสร้อยพระห้อยคอ หรือเป็นองค์พระที่บูชาไว้ในรถ
แต่ก็เดาจากประสบการณ์ของน้องชายตัวเองที่เสียชีวิต
เพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ประมาณนี้เหมือนกัน
เลยคิดไปเองว่า น่าจะเป็นองค์หลวงปู่ทวดที่บูชาไว้ในรถ
เหมือนแบบน้อง
จริงไม่จริง ?? ใช่ไม่ใช่ ??
อันนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ !!
ไม่ได้ถามรายละเอียดลงลึก ณ ตอนนั้น
เพราะมัวแต่อึ้งกับประโยคที่เพื่อนพิมพ์เพิ่มต่อมา
" วันที่ออกจากโรงพยาบาล
เรามีไปที่รถ กับพี่เขยของเรา
ไป .. เพื่อไปหาองค์หลวงปู่ทวดนี่แหละ
พี่เขยเรา ก็นับถือหลวงปู่ทวดเหมือนกัน
ก็เลยไปช่วยกันหาสองคน
หา .. หา .. หา .. หา ..
หา .. เท่าไร
หา .. ยังไง
ก็ หา .. ไม่เจอ !!
จนเรามายืนตรงหน้ารถ แล้วบอกว่า
" หลวงปู่ ตอนนี้ ลูกปลอดภัยแล้ว
กลับบ้านกับลูกนะครับ หลวงปู่ !!
…......................................... "
สักครู่ใหญ่ต่อมา พี่เขยเราก็บอกว่า
" ไหนลองดูที่ใต้คันเร่งหรือเบรคสิ
เหมือนมีเสียงใคร มากระซิบบอกอ่ะ !! "
เท่านั้นเองแหละ
เจอเลย !!
องค์หลวงปู่ทวด ตกอยู่ระหว่างใต้คันเร่งกับเบรค
ซึ่งมันไม่น่าจะเข้าไปตกอยู่ตรงนั้นได้เลยนะ
" เพราะตรงด้านหน้ารถเรา ถูกชน ยับทั้งแถบซะขนาดนั้น !! "
ขอบคุณเครดิตภาพจากเว็ป pixabay.com
เราอึ้งไปนานพอสมควร
เพราะมัวแต่นึกภาพเหตุการณ์
ลิงก์ไปเชื่อมต่อกับภาพเหตุการณ์ของน้องชายเราเอง
ที่ก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในเช้ามืดประมาณตีสี่
แต่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
เพราะทนพิษบาดแผล ระหว่างรอหมอพยาบาลมาช่วยดูแลต่อไม่ไหว
" นายขับรถเร็วหรอ หรือว่าหลับใน ?? "
แม้กระทั่งคำถามที่เราถามไป บอกตรงๆ
ก็อิงจากเหตุการณ์ตรงของน้องชายเราเหมือนกัน
แต่ตอนนั้น เรายังไม่ได้บอกอะไรกับเพื่อนหรอก
ว่าเคยเกิดเหตุการณ์อะไรกับน้องชาย
" ป่าวนะ เราก็ขับปกติอ่ะ ประมาณ 110
แต่ไอ้สิบแปดล้ออีกเลนนึง ที่ขับสวนมา
ไม่รู้ขับอีท่าไหนของมัน
พุ่ง .... ข้ามเกาะมาฝั่งเรา !! "
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
" วันนั้น ขับไปคนเดียว หรือไปกับใคร ?? "
เรารีบถามต่อ
ในขณะที่ภาพของซากรถที่พังยับเยินของน้องชาย
( ภายหลังที่ได้ย้อนกลับไปดู ณ จุดเกิดเหตุ
เพื่อเดินเรื่องต่อกับทางตำรวจ )
ได้ผุด โผล่ขึ้นมาสะท้อนความสยอง อีกครั้ง !!
" คนเดียว !!
ถ้ามีใครไปอีกคน แล้วนั่งหน้า .. ตายสถานเดียวสิ !! "
คำตอบที่เพื่อนเรา พิมพ์ตอบกลับมา
ทำเอาเราสั่นไปทั้งตัว ทั้งใจ
" ก็คงตายคาที่เลยแหละ
เพราะตอนที่น้องชายเราเกิดอุบัติเหตุ
ขับรถเสียหลัก ชนแผงคอนกรีตที่ก่อขึ้นเป็นแนวกั้นกลางถนน
รถสะบัดอย่างแรง จนตัวรถหมุนกลับลำ !!
คนที่นั่งไปกับน้องชายเรา ถูกอัดเข้ากับตอม่อกลางถนน
ตายคาที่ ทันที !!
ก็คิดดูดิ ว่าแรงอัดมันขนาดไหน
ตัวรถฝั่งด้านข้างคนนั่งหน้า ยุบโค้งเข้ามาเป็นรูปตอม่ออ่ะ !! "
" ง่ะ !! พูดซะเห็นภาพเลย !! "
เพื่อนเรา แอบต่อว่ามานิดๆ
" ไม่เห็นภาพยังไง … ก็เราไปดูซากรถมากะตา
ดูแทบไม่ได้ !! พระเครื่องที่น้องบูชา แตกหักกระจัดกระจาย
มีอยู่องค์นึงเศียรขาด แต่ลำตัวยังติดคาอยู่ที่หน้าคอนโซล "
" พอๆๆๆๆ !! .. หลอน !! "
เพื่อนเราพิมพ์สวนตอบกลับมา
..
.
...
" อ้าว !! แล้วไปเกี่ยวอะไรกับ
ที่นายบอกว่าเป็น เจ้ากรรมนายเวร !! "
เราย้อนถามด้วยความสงสัย
ขอบคุณเครดิตภาพจากเว็ป pixabay.com
ก็จากวันที่ 2 ที่เราเริ่มมองไม่เห็นอ่ะ !!
มันทรมานโคตรๆ มองอะไรไม่ได้
ไม่เห็นเลย สองอาทิตย์เต็มๆ
ช่วงแรกๆ ประสาทการรับรู้ทางสายตา ไม่ตอบสนองอะไรเลย
แต่โชคดี ที่อาการทุกอย่างค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
จนปลอดภัย …. และเห็นได้ !!
และก่อนที่ตาจะเห็นได้ คืนนั้นเราฝัน
ฝันว่า มีคนมาบอกกับเรา
" เรา !! หมดเวรหมดกรรมต่อกันแล้วนะ !!
อโหสิกรรมให้ข้าด้วย !!
ข้าช่วยเอ็งได้เท่านี้แหละ !! "
" เฮ้ยยยยยยยยย !! …... "
เราหลุดร้องเสียงหลงออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เป็นเสียงร้องจริงๆ ที่ไม่ใช่ข้อความที่พิมพ์ไปในแชท
ตกใจแม้กระทั่งไม่ได้ถามต่อ ว่า คนที่มาบอกในฝัน
ตกลงเป็นใคร ใช่คนมีอายุที่ไม่ใส่เสื้อ นุ่งโจงกระเบนสั้น
ที่มาเฝ้ารถให้ หรือเปล่า
หลังจากที่เรียกสติจากความตกใจกลับมาได้
เราไม่ได้พิมพ์ถามอะไรกลับไป
และเราสองคน ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ
ไม่มีข้อความอะไรที่พิมพ์เพิ่ม
ต่างฝ่ายต่างเงียบ นิ่งกันไป
เราเองก็จำไม่ได้ ว่าตอนนั้นติดงานหรือธุระอะไร
เพื่อนเราเอง ก็ไม่ได้พิมพ์มาเล่าอะไรเพิ่มอีก
เหมือนเราสองคนจบบทสนทนาการพูดคุยผ่าน We Chat ในครั้งนั้น
ไม่รู้ว่าแบบตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ แบบบังเอิญ หรือไม่ใช่บังเอิญ
คือมันจบไปซะอย่างนั้น เฉยๆ
จนกระทั่งอีกหลายวันต่อมา
เรามีโอกาสมานั่งอ่านทบทวนข้อความที่คุยสนทนากัน
อ่านซ้ำอีกหลายรอบ โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่ว่า
" เรา !! หมดเวรหมดกรรมต่อกันแล้วนะ !!
อโหสิกรรมให้ข้าด้วย !!
ข้าช่วยเอ็งได้เท่านี้แหละ !! "
มันทำให้เรา ฉุกคิดขึ้นมา ว่า
บางที เจ้ากรรมนายเวร ก็ไม่ได้มุ่งหมายอาฆาต
ต้องการแค่ชีวิต ต้องการแค่ความตาย
อย่างที่เราๆ ท่านๆ เคยได้ยินกันมา เสมอไป
แต่อาจจะเป็นรูปแบบ การช่วยเหลือ การตอบแทนคุณ ก็ได้
จะว่าไปแล้ว ... ทั้ง " เวร " และ " กรรม "
ก็ช่างเป็นอะไรที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อนเสียจริง
เกินกว่าที่มนุษย์โลกอย่างเรา จะสามารถหยั่งรู้
ในรายละเอียดลึกๆ หรือเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปในอดีตได้
หากแต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์เรา ควรจะต้องตระหนักรู้และถ่องแท้เป็นที่สุด
ก็คือ กฎแห่งกรรม มีจริง และยุติธรรม เสมอ
เพราะต่อให้เราจะรู้ หรือไม่รู้ ยอมรับ หรือไม่ยอมรับ
ยังไงซะ !! สัตว์โลก ก็ย่อมเป็นไปตามกรรม
เมื่อติดค้างหนี้เวรหรือหนี้กรรมอะไรกับใครไว้
ก็คงต้องชดใช้ สะสางกันไป
การย้อนอ่านข้อความในครั้งนั้น
และอีกหลายๆ ครั้งในเวลาต่อมา
มันยิ่งทำให้เราได้คิดและเตือนตัวเองอยู่เสมอ
ระหว่างที่ยังมีชีวิต ต้องเร่งสร้างบุญ เร่งสร้างกุศล สะสมไว้หน่อย
เผื่อจะพอมี พอได้ ชดใช้คืนให้กับเจ้ากรรมนายเวรบ้าง
ต่อให้คืนไม่ได้ทั้งหมด
อย่างน้อย ก็ช่วยลดทอน
ผ่อนกรรมหนัก ให้คลายเบาบางลง
สักวัน ถ้าหมดสิ้นเวรกรรมต่อกัน
เราก็คงไม่ต้องไปเผชิญหน้า
หรือเจอะเจอกับเจ้ากรรมนายเวรรายนั้นอีก
…
…
และทุกท่าน เชื่อไหม
หลังจากวันนั้นที่เราพิมพ์คุยกับเพื่อนไปทาง We Chat แล้ว
เรากับเพื่อนก็ไม่ได้ทักแชท คุยอะไรกันอีก
นาน ... จนวันหนึ่ง วันที่เรานึกอยากจะทักไปคุยสัพเพเหระทั่วไป
เพื่อนใน We Chat ของเรา
ก็ดันไม่มีชื่อ ไม่มีคอนแทคของ " ไอ้หมา " คนนี้อีก !!
เฮ้ยยยยย !!
หรือมัน ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้ากรรมนายเวร
ที่หมดเวรหมดกรรมกับเราแล้วว่ะ !!
" ไอ้หมาาาาาาาาา ....... เอาดีๆ
อย่าทำให้กลัว !! "
" ไอ้หมาาาาาาาาา "
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
