15 ส.ค. 2021 เวลา 10:43 • ประวัติศาสตร์
10 เรื่องแปลกในเติร์กเมนิสถาน
เพื่อนๆรู้จักประเทศเติร์กเมนิสถานกันไหม? หมียอมรับเลยว่าหมีเคยได้ยินชื่อ แต่หมีไม่มีภาพในหัวเลย และคิดว่าหลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อประเทศนี้ด้วยซ้ำ แต่!! พอหมีได้รู้จักประเทศนี้เท่านั้นแหละ หมีรับรู้ถึงความแปลกและสุดโต่งของประเทศนี้อย่างมาก แปลกขนาดที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เกาหลีเหนือแห่งเอเชียกลาง" กันเลยทีเดียว อีกทั้งองค์กรอย่าง Human Rights Watch เคยเรียกเติร์กเมนิสถานว่าเป็น “หนึ่งในประเทศที่กดทับและปิดตายที่สุดในโลก” มันขนาดนั้นเลยหรอ? เดี๋ยววันนี้หมีเหลืองจะเล่า 10 เรื่องแปลกในเติร์กเมนิสถานให้เพื่อนๆฟังเอง
แผนที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน (ขอบคุณภาพจาก VectorStock)
อันดับแรกหมีขอเกริ่นก่อนจะได้เข้าใจเบื้องต้นน้าา... เติร์กเมนิสถานเป็นประเทศเล็กๆที่อยู่ในเอเชียกลาง ก่อตั้งขึ้นหลังจากที่ได้รับเอกราชจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 เป็นประเทศที่รัฐบาลคุมทุกอย่าง รวมถึงการควบคุมสื่อและโซเชียลอย่างเข้มงวด มีประธานาธิบดีเป็นประมุขและมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ซึ่งประธานาธิบดีคนแรกของเติร์กเมนิสถานชื่อว่า ซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ (Saparmurat Niyazov) ท่านเป็นคนก่อตั้งประเทศและเป็นคนแรกที่ทำให้เกิดเรื่องแปลกๆขึ้นในเติร์กเมนิสถาน เรามาเริ่มเรื่องแปลกกันเลย...
ซาปาร์มูรัต นิยาซอฟ ประธานาธิบดีคนแรกแห่งเติร์กเมนิสถาน (ขอบคุณภาพจาก Madrid kid)
เรื่องแปลกที่ 1: หลังจากประธานาธิบดีนิยาซอฟเข้ารับตำแหน่งได้ 5 ปี เขาก็ได้ทำการมอบรางวัลให้ตนเอง ซึ่งก็คือตำแหน่ง "Türkmenbaşy" หรือ "The Father of The Turkmen" ที่แปลว่า พ่อของชาวเติร์กทั้งปวง เป็นการมอบรางวัลที่ท่านคิดเองและมอบให้ตัวเอง
เรื่องแปลกที่ 2: ประธานาธิบดีนิยาซอฟเขียนหนังสือชื่อ Ruhnama (The Book of yhe Soul) เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เติร์และจริยธรรมที่ท่านแต่งขึ้น เป็นหนังสือที่ทุกคนต้องอ่านและถือเป็นหนังสือที่เทียบเท่าคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลามในประเทศเติร์กเมนิสถาน อิหม่ามในทุกมัสยิดในเติร์กเมนิสถานจะต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ รวมทั้งสวดมนต์ให้กับหนังสือเล่มนี้เคียงข้างคัมภีร์อัลกรุอานด้วย ซึ่งในเวลานั้นมีอิหม่ามบางคนไม่ยอมทำตาม จึงถูกจำคุก 22 ปี มีการเรียนการสอนเรื่องราวในหนังสือทุกโรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมทั้งถูกใช้ในการสอบเข้ารับราชการ และถูกใช้ในการสอบใบขับขี่อีกด้วย
นอกจากนั้นก็ยังมีการสร้างอนุสาวรีย์ของหนังสือ Ruhnama ขนาดใหญ่ไว้กลางกรุงอาชกาบัต (Ashgabat) และในทุกค่ำคืนจะมีการโชว์แสงสีเสียงใหญ่โตแล้วอนุสาวรีย์หนังสือ Ruhnama ก็จะค่อยๆกางออกให้ประชาชนได้เพลิดเพลินกับการอ่านเนื้อหาในหนังสือ (แต่หลังจากประธานาธิบดีคนที่ 2 ดำรงตำแหน่งก็ได้ยกเลิกการบังคับอ่าน Ruhnama)
อนุสาวรีย์หนังสือ Ruhnama ที่ประธานาธิบดีนิยาซอฟเป็นผู้เขียน (ขอบคุณภาพจาก unusualtraveler)
เรื่องแปลกที่ 3: ประธานาธิบดีนิยาซอฟ เปลี่ยนชื่อเดือนต่างๆให้กลายเป็นชื่อเขาและชื่อคนในครอบครัวของเขา โดยในเดือน “มกราคม" เขาเปลี่ยนเป็น “Türkmenbaşy" ชื่อตำแหน่งที่เขามอบให้ตนเอง ส่วนเดือน “เมษายน” เขาเปลี่ยนเป็น "Gurbansoltan" ซึ่งก็คือชื่อแม่ของเขา และเดือน “กันยายน” เขาก็เปลี่ยนเป็น "Ruhnama" ก็คือชื่อหนังสือที่เขาเป็นคนแต่งเอง
เดือนต่างๆที่ประธานาธิบดีนิยาซอฟเปลี่ยนเป็นชื่อเขาและคนในครอบครัว (ขอบคุณภาพจาก Wikipedia)
เรื่องแปลกที่ 4: ประธานาธิบดีนิยาซอฟสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนสูบบุหรี่ในเมือง ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเขาอยากเลิกสูบบุหรี่ เลยไม่อยากเห็นคนสูบบุหรี่ เดี๋ยวจะทำให้ตัวเขาอยากสูบและเลิกไม่ได้ นอกจากนี้ยังสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนเลิกบุหรี่ให้หมด
1
เรื่องแปลกที่ 5: ประธานาธิบดีนิยาซอฟสั่งปิดโรงพยาบาลทั้งหมดที่อยู่นอกเมืองหลวงอาชกาบัต ด้วยเหตุผลที่ ว่าถ้าป่วยก็ควรเข้ามารักษาในตัวเมืองสิ มีทุกอย่างครบ ทั้งๆที่บางรัฐห่างจากตัวเมืองอาชกาบัตมาก การเข้ามารักษาในตัวเมืองจึงเป็นเรื่องลำบาก ยิ่งไปกว่านั้นเขามองว่าโรงพยาบาลและบริการด้านสุขภาพที่อยู่นอกเมือง ล้วนสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
เรื่องแปลกที่ 6: ในเวลาเดียวกับที่สั่งปิดโรงพยายาล เขาก็สั่งปิดห้องสมุดที่อยู่นอกเมืองหลวงอาชกาบัตอีกด้วย เพราะท่านคิดว่าหนังสือในใดๆในโลกไม่มีค่าเลย นอกจากคัมภีร์อัลกุรอานกับหนังสือ Ruhnama ที่ท่านเขียนเอง และมองว่าประชาชนนอกเมืองหรือในชนบทอ่านหนังสือไม่ออก ไม่จำเป็นต้องมีห้องสมุด
เรื่องแปลกที่ 7: เติร์กเมนิสถานเป็นประเทศที่มีสถิติโลกในเรื่องแปลกๆ ซึ่งได้รับการบันทึกสถิติโดย Guinness World Records ตัวอย่างเช่น
1. กรุงอาชกาบัตเป็นเมืองที่สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวเยอะและใหญ่ที่สุดในโลก
2. ชิงช้าสวรรค์อยู่ในพื้นที่ปิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
3. น้ำพุ Complex ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
4. เสาส่งทีวีที่หน้าตาประหลาดและใหญ่ที่สุดในโลก
เมือง Ashgabat ที่เป็นเมืองที่ก่อสร้างจากหินอ่อนสีขาวเยอะและใหญ่ที่สุดในโลก  (ขอบคุณภาพจาก aipsmedia)
ชิงช้าสวรรค์อยู่ในพื้นที่ปิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ขอบคุณภาพจาก unusualtraveler)
เสาส่งทีวีที่หน้าตาประหลาดและใหญ่ที่สุดในโลก (ขอบคุณภาพจาก The Embassy of Afghanistan in Ashgabat)
เรื่องแปลกที่ 8: ห้ามใช้รถสีดำในเมืองอาชกาบัตโดยเด็ดขาด เพราะมองว่าสีดำเป็นสีแห่งโชคร้าย (ห้ามนำเข้ามาในเมืองสีขาวของฉันเด็ดขาด!) ให้ใช้ได้เพียงรถสีขาวหรือสีอ่อนเท่านั้น และรถทุกคันก่อนจะเข้าอาชกาบัตต้องทำความสะอาดรถก่อนเสมอ ห้ามให้รถสกปรกเข้ามาในเมืองอาชกาบัต
กูร์บันกูลี เบอร์ดีมูคาเมดอฟ ประธานาธิบดีคนที่ 2 แห่งเติร์กเมนิสถาน (ขอบคุณภาพจาก Newsweek)
เรื่องแปลกที่ 9: หลังจากประธานาธิบดีนิยาซอฟเสียชีวิตลง ก็ได้มีประธานาธิดีคนที่ 2 ชื่อว่า กูร์บันกูลี เบอร์ดีมูคาเมดอฟ (Gurbanguly Berdimuhamedow) โดยในสมัยของท่านผู้นำคนที่ 2 ก็ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์รูปประธานาธิบดีผู้นี้ขี่ม้าทองคำไว้ใจกลางเมืองหลวง สาเหตุที่สร้างก็เพื่อลบปมและกลบเกลื่อนเรื่องที่ท่านประธานาธิบดีผู้นี้เคยตกม้าระหว่างแข่งขัน... (ก็คือตกม้าเลยสร้างอนุสาวรีย์ตนเองขี่ม้าเพื่อให้ประชาชนลืมนั่นเอง)
อนุสาวรีย์ประธานาธิบดีเบอร์ดีมูคาเมดอฟขี่ม้าทองคำ (ขอบคุณภาพจาก unusualtraveler)
เรื่องแปลกที่ 10: สร้างอนุสาวรีย์สุนัขทองคำขนาดใหญ่ไว้กลางเมืองหลวงอาชกาบัต ซึ่งเป็นสุนัขพันธ์ุอาลาไบที่เป็นพันธุ์โปรดของท่านประธานาธิบดีเบอร์ดีมูคาเมดอฟ รูปปั้นสุนัขดังกล่าวถือเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนความภูมิใจและอำนาจแห่งชาติของเติร์กเมนิสถาน ท่านประธานาธิบดีเคยมอบลูกสุนัขพันธุ์อาลาไบเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ วลาเดเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย โดยถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นพันธมิตรร่วมกันของเติร์กเมนิสถานกับรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้นทางรัฐบาลเติร์กเมนิสถานเตรียมจดทะเบียนสุนัขพันธุ์อาลาไบ เป็นมรดกโลกต่อ UNESCO ในฐานวัฒนธรรมที่จับต้องได้
อนุสาวรีย์สุนัขทองคำขนาดใหญ่ (รูปภาพจาก INDEPENDENT)
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องแปลกในเติร์กเมนิสถานที่หมีเหลืองจะเล่ารวบรวมมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน อ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้าง แปลกไหม หมีว่าแปลกพอสมควรเลยหละ ยังไงก็ขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านจนจบน้าา นี่เป็นบทความแรกของหมี ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน้าา แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีหมีไปละ :)
เรียบเรียงโดย
หมีเหลืองจะเล่า
โฆษณา