ความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่จะรอดจากโควิด-19 คือ "การปูพรมทยอยฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่"
ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกา ที่ระดมฉีดวัคซีนไปมากมายแล้วนั้น ต่างเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีถึงสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้น จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตในวิถีที่เกือบจะปกติ ซึ่งก็คือการยกเลิกมาตรการการใส่หน้ากากในบางพื้นที่
วันนี้จะพาเพลินกับสถานการณ์โควิดในต่างประเทศช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ว่ามีประเทศไหนที่ยกเลิกการสวมใส่แมสก์แล้วบ้าง มาดูกันเลย!
1. ประเทศไอซ์แลนด์ 🇮🇸
ไอซ์แลนด์เป็นชาติแรกในยุโรป ที่ยุติมาตรการคุมโควิด-19 ทั้งหมด ชาวไอซ์แลนด์ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย และไม่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคมอีกต่อไป
(SOURCE : https://grapevine.is)
โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข Svandís Svavarsdóttir กล่าวว่า “เรากำลังฟื้นฟูสังคมที่เราปรารถนาและคุ้นเคยในการอยู่อาศัยให้กลับมา”
2. ประเทศนิวซีแลนด์ 🇳🇿
เป็นประเทศที่ถูกยกว่ามีมาตรการป้องกันโควิด-19 ได้ดีอันดับต้น ๆ ของโลก รวมถึงยังมีการจัดซื้อวัคซีนได้ดีเพียงพอสำหรับประชากรในประเทศ และเผื่อสำหรับหมู่เกาะรอบข้างด้วย
จนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมาก นำมาซึ่งมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ที่ประกาศมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการยกเลิกการเว้นระยะห่างทางสังคม และการใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
(SOURCE : https://encrypted-tbn0.gstatic.com)
ทำให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ รวมกลุ่ม สังสรรค์ และจัดแสดงคอนเสิร์ต หรืองานแข่งกีฬาที่มีคนเข้าร่วมหลายหมื่นคนได้แล้วด้วย
อีกทั้งนิวซีแลนด์ ยังพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าประเทศได้ โดยไม่จำเป็นต้องกักตัว เพียงแค่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเท่านั้น
ผู้นำนิวซีแลนด์ระบุถึงราคาของการสั่งซื้อวัคซีนทั้งหมดว่า “เป็นราคาที่ต่ำกว่าการปล่อยให้คนเสียชีวิต ในมุมของรัฐบาลถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า”
3. ประเทศอิตาลี 🇮🇹
หลังจากที่เป็นประเทศแรกในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 อย่างหนัก ก็ได้ยกเลิกเรื่องหน้ากากอนามัยอย่างเป็นทางการ
โรแบร์โต สเปรันซา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลีกล่าวว่า “เป็นผลที่น่ายินดี แต่ยังต้องใช้ความระมัดระวังและความรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่เกิดการกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา”
(SOURCE : https://www.france24.com)
อย่างไรก็ดี คณะที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของอิตาลียังคงแนะนำให้ผู้คนยังคงสวมหน้ากากอนามัยหากเข้าร่วมในกิจกรรมบางอย่างที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ กิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของผู้คนจำนวนมาก
4. ประเทศสเปน 🇪🇸
ผู้คนได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกสถานที่ได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย ตราบใดที่พวกเขาอยู่ห่างกันเกิน 1.5 เมตร แต่ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเสมอ เผื่อในกรณีที่ไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคมในบางพื้นที่
(SOURCE : https://www.reuters.com)
แต่ในอาคารสถานที่และที่แออัดยังต้องสวมหน้ากากเช่นเดิม ส่งผลให้ชาวสเปนในกรุงมาดริดพากันดีอกดีใจและเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแต่ชาวสเปนเท่านั้น บรรดานักท่องเที่ยวต่างพึงพอใจเช่นกัน
5. ประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸
ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐได้ประกาศ ให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม
(SOURCE : https://apnews.com)
รวมทั้งสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทั้งในร่มและนอกสถานที่ได้ แต่อย่างไรก็ดี ยังคงขอความร่วมมือให้ใส่หน้ากากในบางสถานที่ที่แออัด เช่น ขนส่งมวลชน เป็นต้น
6. ประเทศเดนมาร์ก 🇩🇰
(SOURCE : https://www.sciencemag.org)
ผู้คนในเดนมาร์ก ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในทุกที่ ยกเว้นการขนส่งสาธารณะ เช่น เมื่อยืนบนรถสาธารณะ ความเคลื่อนไหวนี้อยู่ภายใต้ข้อตกลงผ่อนคลายล็อกดาวน์ ที่ทั้งประเทศจะไม่ต้องสวมหน้ากากโดยสมบูรณ์
7. ประเทศอิสราเอล 🇮🇱
“รู้สึกแปลก ๆ ที่ไม่ใส่หน้ากากเป็นครั้งแรก หลังจากใส่มาเป็นเวลานาน แต่มันเป็นความแปลกที่ดีมาก ๆ” นี่คือคำพูดของชาวอิสราเอล หลังประเทศยกเลิกมาตรการบังคับให้ใส่หน้ากาก
(SOURCE : https://www.timesofisrael.com)
เมื่อจำนวนประชากรมากกว่าครึ่งของประเทศได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน แต่ถึงอย่างนั้นชาวอิสราเอลก็ยังคงต้องใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะในร่ม เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ทางศาสนาด้วย
คณะรัฐมนตรียังประกาศเปิดโรงเรียน ให้นักเรียนตั้งแต่อนุบาลกลับมาเรียนที่โรงเรียนได้อีกครั้ง
8. ประเทศฝรั่งเศส 🇫🇷
ชาวฝรั่งเศสและพลเมืองฝรั่งเศสไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน แต่ยังคงมีมาตรการให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านต่าง ๆ เช่น ร้านค้า การขนส่งสาธารณะ ในที่ทำงาน และสถานที่กลางแจ้งที่มีคนจำนวนมาก เช่น สนามกีฬา
(SOURCE : https://www.reuters.com)
ปัจจุบันฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่าเกณฑ์ และไม่มีรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดที่น่าเป็นห่วง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้หลักในการประเมินศักยภาพการรับมือวิกฤตทางสุขภาพของระบบสุขภาพ
9. ออสเตรเลีย (*บางรัฐ) 🇦🇺
"เต้นได้ ร้องเพลงได้ ชุมนุมได้ มีงานเทศกาลขนาดใหญ่ได้แล้ว" ออสเตรเลียได้ยกเลิกการล็อกดาวน์ และในบางส่วนของประเทศก็กลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนปกติแล้ว โดยสามารถไปห้าง ร้านคาเฟ่ หรือสถานที่ต่าง ๆ ได้
(SOURCE : https://www.theguardian.com)
10. ประเทศเกาหลีใต้ 🇰🇷
(SOURCE : https://www.straitstimes.com)
เฉพาะผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสแล้วเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัยออกนอกบ้านได้
อย่างไรก็ดี โลกยังคงต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพราะสายพันธุ์ใหม่ที่พร้อมเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา และเมื่อถึงเวลาที่การระบาดเริ่มแย่ลง มาตราการต่าง ๆ ของแต่ละประเทศอาจกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง
ได้แต่ภาวนาและหวังว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นจะลดลงและกลับมาปกติให้เร็วที่สุด เพื่อที่เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตกันได้อย่างปกติเหมือนประเทศอื่น ๆ ไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอีกต่อไป
ที่มา
- 48
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
