เพิ่งผ่านพ้นวันแม่ไปไม่นาน เห็นทุกคนบอกรักคุณแม่แล้วก็รู้สึกอิ่มเอมใจมีความสุขไปด้วยเลยค่ะ คนเป็นแม่นั้นต้องใช้ความอดทน เพื่อให้ผ่านพ้นความยากลำบากมากมาย เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนต้องรักและคอยปกป้องลูกของตนเองไม่ให้ใครมาทำร้ายได้อย่างแน่นอนค่ะ คุณแม่พร้อมจะเสียสละเพื่อลูกไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ความรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอจริงไหมคะ
ในโลกภาพยนตร์ก็มีหนังหลายเรื่องที่คุณแม่เป็นตัวเอกในการดำเนินเรื่อง YuYa diary จึงอยากจะมาแนะนำภาพยนตร์ที่"คุณแม่สู้ตายเพื่อลูก" ชนิดที่ว่าลูกข้าใครอย่าแตะ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
**คำเตือน บทความมีการพูดถึงเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์ ใครที่ยังไม่ได้ดูอาจโดนสปอยล์น้า หนีปายยย***
บันทึกดูมาเล่า By YuYa diary
เริ่มด้วยเรื่องแรก Orphan (ไม่ได้อ่านว่าอรพรรณนะเธ๊อ) นังเด็กนรก ชั้นไม่ใช่แม่แกร๊
เรื่องนี้คุณแม่ของเราคือ"คุณแม่เคท" รับบทโดย เวร่า ฟาร์มิก้า ค่ะ เคทเธอเป็นคุณแม่ที่ผ่านประสบการณ์เลวร้ายจากการสูญเสียลูกคนสุดท้องไป โดยเด็กไม่มีโอกาสได้ออกมาลืมตาดูโลก สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจจนเป็นเหตุให้เธอหันไปพึ่งสุรา คุณแม่เคทเองก็ไม่ใช่คุณแม่มือใหม่แต่อย่างใด เธอมีลูกสาวและลูกชายอยู่แล้ว แต่ด้วยความเสียใจจากการสูญเสียลูกไปในครั้งนั้นทำให้เธออยากรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดในใจ (มีลูกแล้วสองคนอยากมีลูกเลี้ยงเพิ่มซะงั้น)
และนี่คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด ทุกอย่างไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เด็กที่เธอตัดสินใจอุปการะกลับไม่ได้น่ารักเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน ความหายนะกำลังเดินเข้าบ้านแล้วค่า "เอสเธอร์"คือเด็กกำพร้าที่เธอเลือกรับเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ เบื้องหลังของเด็กคนนี้นั้นไม่ธรรมดาเอสเธอร์ปิดบังความลับบางอย่างไว้ ยัยเด็กนี่ก็แอ๊บแบ๊ว แอ๊บใส ไปวันๆ ภายใต้หน้าตาที่ดูไม่มีพิษมีภัยแต่หล่อนกลับสร้างเรื่องร้ายกาจอย่างคาดไม่ถึง
หลายครั้งที่คุณแม่เคทรู้สึกได้ว่าเอสเธอร์นั้นมีบางอย่างแปลกๆ เธอรู้สึกว่ายัยเด็กนี่มันร้ายกว่าที่คิด ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ทำให้เธอรับรู้ถึงภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ต่างจากฝ่ายคุณพ่อที่ไม่เคยรู้อะไรเล๊ย(โง่ซ้ำโง่ซ้อน) สุดท้ายถึงแม้เธอจะช่วยสามีของเธอไว้ไม่ได้ แต่ที่สุดแล้วเธอก็สามารถปกป้องลูกของเธอไว้ได้ ด้วยความฉลาดของเธอทำให้รู้ทันแผนการของยัยเด็กเอสเธอร์ซะก่อน ไม่ได้กินแม่หรอก หึๆ
หลายคนยกให้ฉากจบของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งตำนาน ก็แหมจบได้สะใจคนดูมากค่ะ คุณแม่เคทเธอเล่นแจกลูกเตะสะท้านฟ้าให้นังเอสเธอร์พร้อมกับทิ้งท้ายประโยคเด็ดแซ่บๆ ว่า I'm not your fucking mother สุดยอดเลยแม่
คุณแม่เคทจาก Orphan
มาต่อกันที่เรื่องที่สองค่ะ Bird box อย่ามองนะจ๊ะถ้ามิอยากตาย
มาพบกับคุณแม่คนที่สอง "คุณแม่มาร์โลรี่" รับบทโดย แซนดร้า บูลล็อคค่ะ ภาพยนต์เรื่อง Bird box สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันนี้ของ จอร์จ มาเลอร์แมน เป็นภาพยนตร์ของทาง Netflix ที่เล่าถึงเหตุการณ์ของโลกที่อยู่ดีๆ ผู้คนก็ลุกขึ้นมาฆ่าตัวตายเพียงเพราะแค่มองไปที่อะไรบางอย่าง
คุณแม่มาร์โลรี่ เป็นตัวละครหลักที่มีบทบาทเด่นในเรื่องนี้ค่ะ เธอได้มีเหตุให้ต้องมาหลบในบ้านหลังหนึ่งซึ่งถูกใช้เป็นที่กบดานของเธอและเพื่อนๆ ที่บังเอิญต้องมาลี้ภัยอยู่ด้วยกัน ในขณะนั้นเองเธอได้ตั้งครรภ์อยู่ จนมาวันนึงที่บ้านหลังนี้ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยอีกต่อไปเหตุเพราะมีผู้บุกรุกทำให้คนในบ้านต้องเสียชีวิต แต่เธอก็สามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังจากนั้นเธอก็ต้องทำหน้าที่แม่ดูแลทั้งลูกตนเองและลูกของหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยลี้ภัยในบ้านหลังเดียวกันที่ฝากฝังให้เธอช่วยดูแลก่อนจะเสียชีวิต
มาร์โลรี่เฝ้ารอความหวังที่จะพาลูกทั้งสองรอดชีวิตไปด้วยกัน จนเธอได้รับสัญญาณวิทยุว่ามีสถานที่ลี้ภัยที่ปลอดภัยอยู่ แต่ข้างนอกนั้นอันตรายเหลือเกินจะออกไปยังไงล่ะ? เธอตัดสินใจนำลูกๆ ออกเดินทาง โดยใช้วิธีปิดตาตลอดระยะทางกว่า 20 ไมล์ คลำทางไปแบบมองไม่เห็น ไม่ว่าจะพายเรือข้ามแม่น้ำ หรือเดินป่า ห้ามเปิดตาเป็นอันขาด ไม่อย่างงั้นทุกคนจะต้องตายซี้แหงแก๋ กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางเล่นเอาลุ้นตามจนเกร็งเลยค่ะว่าจะรอดไหม เรียกได้ว่ามาร์โลรี่ทุ่มสุดชีวิตเพื่อปกป้องเด็กน้อยทั้งสองคน รับตำแหน่งคุณแม่สู้เพื่อลูกไปอีกคนค่ะ
คุณแม่มาร์โลรี่ จาก Bird box
มาทำความรู้จักกับคุณแม่ท่านต่อไปจากเรื่องนี้กันค่ะ Unhinged ปี๊ปๆๆๆๆ บีบแตรผิดชีวิตเปลี่ยน
ขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักคุณแม่ยังสาว "คุณแม่ราเชล" รับบทโดย คาเรน พิสตอเรียส เรื่องราวทุกอย่างนั้นเริ่มต้นขึ้นบนท้องถนนค่ะ คุณแม่ราเชลกับวันที่แสนเร่งรีบของเธอ งานก็จะสายแล้ว ลูกก็ต้องไปส่งที่โรงเรียน เธอพยายามขับรถซอกแซกใช้สกิลสายแว๊นซ์ราวกับขี่มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ปาน จนมาติดไฟแดงอยู่ที่แยกแห่งหนึ่ง ทันทีที่ไฟเขียวซึ่งรถควรจะออกตัวแล้ว แต่รถกะบะยกสูงคันข้างหน้าก็ไม่ยอมออกรถซักที ด้วยความหัวร้อนเธอจึงบีบแตรรถ ปี๊ปๆๆๆ เป็นการบอกให้รถคันนั้นรู้ตัว หลังจากนั้นความซวยก็บังเกิดค่ะท่านผู้ช๊มมม ไม่มีใครรู้ว่าการบีบแตรครั้งนี้จะทำให้ชีวิตของเธอต้องมาพบกับความโหดร้ายที่ไม่คาดคิดมาก่อน
ก็ตาลุงหัวร้อนหุ่นหมี ผู้มีความสามารถฆ่าคนด้วยมือเปล่าน่ะซิคะ ต้องการที่จะสั่งสอนคุณแม่ให้รู้สำนึกและรับรู้ว่าวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมันเป็นยังไง คุณแม่ราเชลพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปกป้องทุกคนที่เธอรักให้พ้นจากน้ำมือของชายโรคจิตคุ้มคลั่ง โดยเฉพาะลูกของเธอ ทำชั้นไม่ว่าแต่อย่ามาแตะต้องลูกของชั้น คุณแม่ตีนผีคนนี้ถึงจะเฟียสไปบ้างแต่ก็เข้มแข็งและปกป้องลูกได้แบบสุดยอดไปเลยค่า
คุณแม่ ราเชล จาก Unhinged
มารู้จักคุณแม่นักสู้อีกคนค่ะ จากเรื่อง A quite place คุณแม่กระเตงลูกหนีเอเลี่ยน
"คุณแม่เอเวอลีน แอ๊บบอท" รับบทโดย เอมิลี บลันซ์ คุณแม่ลูกสามที่ต้องต่อสู้เพื่อลูกๆ เรื่องที่แล้ว Bird box คือห้ามมองไม่งั้นตายนะจ๊ะ แต่ในเรื่อง A quite place คือห้ามส่งเสียงดังค่ะคุณ เพียงแค่เสียงเดินเบาๆ อาจทำให้ถึงตายได้
ภาพยนตร์เรื่อง A quite place สร้างมาแล้วถึงสองภาค หากท่านไหนที่มีโอกาสรับชมในโรงภาพยนตร์จะรู้ซึ้งดีว่าแม้แต่จะจกป๊อปคอร์นเข้าปากเคี้ยวยังไม่กล้าทำ เพราะบรรยากาศในโรงภาพยนตร์นั้นเงียบจริงๆ
ในภาคแรกคุณแม่เอเวอลีนนั้นผ่านการสูญเสียลูกชายคนเล็กไปจึงทำให้เกิดเป็นบาดแผลและความรู้สึกผิดในใจว่าเธอไม่สามารถดูแลปกป้องลูกของตนเองไว้ได้ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ตั้งท้องลูกอีกคน (ยังอุตส่าห์ปั๊มลูกได้) ความสตรองของคุณแม่คือนางจะต้องอุ้มท้องและคลอดลูกในช่วงเวลาอันแสนวิกฤต
คิดดูว่าการคลอดลูกหรือมีเด็กอ่อนอยู่ในบ้าน เด็กจะต้องร้องเสียงดังขนาดไหน เสียงร้องกระจองอแงตลอดเวลามีหรือที่เจ้าเอเลี่ยนจะไม่จู่โจมเข้ามากระซวกคนในบ้าน ครอบครัวแอ๊บบ๊อทจึงต้องวางแผนเป็นอย่างดีในการดูแลเด็กทารกคนนี้ ทั้งเตรียมการคลอดในห้องเก็บเสียง ทั้งเอาทารกใส่ในหีบ หรือแม้กระทั่งเตรียมถังอ๊อกซิเจนที่ทำให้น้องหลับไม่ร้องไห้โวยวาย หนูเอ๊ยยย มาเกิดผิดเวลาจริงๆ ลูก
มาที่ภาคสองกันค่ะ เมื่อคุณแม่เอเวอรีนต้องเป็นผู้นำครอบครัวอย่างเต็มตัว ความลำบากของชีวิตก็เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากบริเวณที่อยู่อาศัยเดิมอาหารเริ่มจะหมด ทำให้มีความจำเป็นต้องอพยพกระเตงลูกทั้งสามคนไปหาที่อยู่ใหม่ อีกทั้งข้างนอกก็อันตรายมากไม่รู้จะจ๊ะเอ๋กะฝูงเอเลี่ยนเมื่อไหร่ ทั้งต้องอุ้มลูกน้อยและถือปืนคอยระแวดระวังภัย ลุ้นเอาใจช่วยคุณแม่จนแทบหยุดหายใจ ชีวิตคุณแม่จะต้องสู้ชีวิตอะไรปานนั้น ยอมรับในความเก่งและเข้มแข็งเลยค่ะคุณแม่
คุณแม่เอเวอลีน จาก A quite place
ภาพยนตร์เรื่องที่เล่ามาข้างต้นคุณแม่เป็นมนุษย์ธรรมดากันทั้งนั้น เรามาพบกับคุณแม่ที่ไม่ใช่มนุษย์กันบ้างค่ะ ขอนำเสนอคุณแม่นาเดียจากเรื่อง Blood red sky คุณแม่แวมไพร์ใครแตะลูกชั้นต้องโดนกัดจนตายยยยย
"คุณแม่นาเดีย" รับบทโดย เพรี่ เบาไมสเตอร์ คุณแม่แวมไพร์สายโหด ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ของทาง Netflix ค่ะ คุณแม่นาเดียมีลูกชายสุดที่รักอยู่หนึ่งคน เป็นเด็กช่างคิด เฉลียวฉลาด ช่วยเหลือตัวเองได้ เริ่มเรื่องปูทางมาให้เราคิดว่าคุณแม่นั้นไม่สบายจนต้องใช้ยาระงับอาการเจ็บป่วย ก่อนจะค่อยๆ เล่าย้อนถึงที่มาที่ไปจากเหตุการณ์ในอดีตว่าเป็นไงมาไงคุณแม่ถึงได้เป็นแบบนี้
จุดเริ่มต้นของความบันเทิงเกิดจากตรงนี้ค่ะ เมื่อคุณแม่นาเดียและลูกชายต้องมาเจอกับเหตุการณ์ปล้นเครื่องบินที่ผู้ก่อการร้ายนั้นแสนโหดเหี้ยม ฆ่าคนอย่างไม่ปราณี คุณแม่ที่ร่างกายผ่ายผอมและเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง จะปกป้องลูกชายได้อย่างไร? เปิดเรื่องมาคุณแม่ก็มีเหตุให้ต้องตายเพราะลูกชายตัวดีที่พูดไม่รู้ฟัง กระสุนกระหน่ำยิงเข้าที่ร่างกายของเธอจนพรุน ใครเห็นก็ว่าตาย แต่ใครจะรู้ว่าแค่นี้มันไม่ระคายผิวคุณแม่หรอกหึ
จากเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องสูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันกลับ และวันที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นาเดียต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายร่างเป็นแวมไพร์เต็มตัวไม่อย่างงั้นเธอจะเผลอทำร้ายคนอื่นหรือแม้กระทั่งลูกของเธอเอง มีเพียงลูกชายของเธอเท่านั้นที่ทำให้เธออยากมีชีวิตอยู่และพยายามต่อสู้กับปีศาจภายในร่างกาย ใช้ยากดมันไว้ไม่ให้ออกมาทำร้ายใคร
แต่ด้วยสถานะการณ์บีบบังคับ คุณแม่นาเดียจำเป็นต้องปล่อยให้ตัวเองกลายร่างเป็นแวมไพร์ยอมให้ตัวเองได้ดื่มเลือดและไล่ล่าจู่โจมผู้ก่อการร้ายด้วยคมเขี้ยว เธอจะไม่มีวันได้กลับเป็นมนุษย์อีก ทุกอย่างที่ทำไปก็เพื่อปกป้องลูกชายของเธอและอีกหลายชีวิตบนเครื่องบินนั่นเอง ช่างเป็นคุณแม่ที่เสียสละเพื่อลูกโดยแท้ ซึ้ง
คุณแม่นาเดีย จาก Blood red sky
ก็จบกันไปแล้วค่ะ กับการแนะนำภาพยนตร์ที่คุณแม่สู้เพื่อลูก เพื่อนๆ มีเรื่องไหนอยากจะแชร์ก็มาเม้นท์คุยกันได้นะคะ ขอให้ทุกคนรักคุณแม่ให้มากๆ นะคะ เพราะทุกวันคือวันแม่ค่ะ จุ๊ปๆ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
