16 ส.ค. 2021 เวลา 14:36 • ความคิดเห็น
รู้สึกเสียดายเงินที่เราเสียภาษีบ่างใหม ?
คำถามนี้ถูกลบ
เสียดายค่ะ
จากหนังสือทำไมคนรวยถึงรวยขึ้น​ (Why​ the​ rich are getting richer​)​ ได้อธิบายหลักการภาษีไว้มากมาย​ ในอดีต​โลกเราไม่มีการจัดเก็บภาษี​ิ​แต่ในเมื่อสงครามมันเกิด​ บ้านเมืองไม่มีอุปกรณ์​ทำการรบ​ ดังนั้นจึงใช้นโยบายจัดเก็บภาษีแล้วบอกว่าหลังสงครามจบก็จะหยุดเก็บภาษี​ แต่แน่นอนค่ะ​ อะไรที่เคยทำ​ ก็จะทำต่อไป​ ภาษีเลยต้องมีมาตลอด
เรารู้กันอยู่แล้วค่ะ​ ว่าภาษีมีทั้งทางตรงและทางอ้อม​ ตั้งแต่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา​ ภาษีสินค้าและบริการ​ ภาษีบำรุงที่ดิน​ ภาษี​สินค้าสิ้นเปลือง​ ฯลฯ เราจ่ายภาษีกันตั้งแต่เกิดค่ะ​ ของใช้ทุกอย่าง​สินค้าและบริการทุกอย่าง​ บวกภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว​ ขนมห่อ​ 5 บาท​ 10 บาท​ก็บวกรวมไปแล้วค่ะ​ เราจ่ายภาษีกันโดยไม่รู้ตัวเลย​ ยังมีคนบางกลุ่มที่เข้าใจว่าแค่ภาษีเงินได้บุคคล​ธรรมดาเท่านั้นที่จ่ายกัน
นอกเหนือจากนั้น​ ภาษียังทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม​ ในหนังสือ​ที่เขียนโดย​ Rich​ dad แบ่งกลุ่มคนทำงาน​ 4 กลุ่ม​ คือ
1.ลูกจ้าง
2.เจ้าของกิจการขนาดเล็ก​ SME
3.เจ้าของบริษัท​ ห้างหุ่นส่วน
4. นักลงทุน
กฎของภาษีคือ​ เงินได้ทุกอย่างจะต้องจ่ายภาษี
ดังนั้นในทั้ง​ 4 กลุ่มนี้ คนที่เป็นลูกจ้างจ่ายภาษีเยอะที่สุด​เพราะลูกจ้างหรือคนที่ทำงานประจำเพราะได้รับเงินได้ทุกเดือน​ แต่ลูกจ้างคือผู้ที่ได้เงินน้อยที่สุดในสี่กลุ่ม​ ในขณะที่นักลงทุน​ทำธุรกิจที่สามารถลดหย่อนภาษีได้​ จริงอยู่ที่นักลงทุนอาจจะลงทุนเมื่อได้เงินได้เยอะก็ต้องจ่ายภาษีเยอะ​ แต่ผิดกันค่ะ​นักลงทุนรู้จักภาษาของเงินรู้จักพลิกแพลง​อย่างถูกกฎหมายและไม่ต้องจ่ายภาษี​ ตรงนี้ไม่ขออธิบายเยอะค่ะเพราะรายละเอียดยิ่งพิมพ์ยิ่งเยอะ
แล้วภาษีที่เราจ่ายเอาไปไหน?
แน่นอนบำรุงประเทศ​ และมันก็เข้าไปอยู่ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ​ (ยังไม่รวมที่ต้องจ่ายขึ้นไปด้านบนอีกนะคะ​ 55555)​ คนที่จ่ายภาษีเยอะสุดคือ"ลูกจ้าง​"​ และภาษีนั้นก็เอาไปเข้านโยบายบำรุงชาติ​ เบี้ยเลี้ยง​ เงินบำรุ​งในรัฐบาล​ เงินเดือนรัฐบาล​
เราอยู่ร่วมกันประเทศไทย​ 75 ล้านคน​ บวกภาษีเล่นๆ​ 7% ต่อวัน​ก็เท่าไหร่แล้ว ไม่รู้เอาตรรกไหนที่บอกว่า​น้อย​ทำนุ่นนี่ไม่พอ
หากรัฐเงินฝืดก็อัดฉีดเงินเข้าระบบ​ รัฐเอาไปทำนั่นนี่ไม่พอจ่าย ก็กู้มา​ จะทำไรก็ได้ไม่รบกวนเงินเดือนพวกเขาค่ะ​ เมื่อฐานเงินขึ้น​ภาษีก็ขึ้นตามเงิน​ คนที่จ่ายภาษีกันตาแตกคือ​มนุษย์​เงินเดือนธรรมดาๆ​ ฉะนั้นทำไมมันถึงยากนักหนาที่จะยกตัวขึ้นเป็นคนรวยเพราะแม่งภาษีดูดไว้ค่ะ
ขณะที่นักลงทุนทำธุรกิจ​ ได้เอาๆ​ ภาษีก็ละเว้นได้​ ความเหลื่อมล้ำ​ ช่องโหว่ก็มีมากขึ้น​ พวกเค้ารวยขึ้นๆ​ แต่คนธรรมดาก็จนเอาๆ
ดูชาร์ดเศรษฐกิจ​โลกดูค่ะ​ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน​ เงินเฟ้อขึ้นตลอด​ ฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้นตลอด​ และของก็แพงขึ้นด้วย​ ภาษีก็ขึ้นตาม​จำนวนเงิน​ ที่ดินแพงขึ้น​ (แน่นอนอยู่แล้ว)​ แต่ทำไมคนรวยถึงน้อยลง​ ทุกวันนี้แค่เอาชีวิตรอดแต่ละเดือนยังยาก​ ดอกเบี้ยฝากในธนาคารจะลดลงจนติดลบ​ คนยุค​ babyboom ก็คือยุคคนรุ่น vintage อยู่กันนั้นการจับจ่ายใช้สอยเศรษฐกิจ​รุ่งเรืองดีอยู่แล้ว​ แต่ยุคนี้​ยากมากๆ​แต่คนรุ่นเก่าก็ยังหวังเพิ่งคนยุคนี้​ โดยไม่เปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอกว่าความจริงเป็นยังไงกันเลยค่ะ
พูดมาขนาดนี้ไม่แน่ใจว่าคนบางกลุ่มจะเข้าใจหัวใจของภาษีหรือยัง​ แต่ก็ความคิดใครความคิดมันค่ะ​ อันนี้แค่มาอธิบายเฉยๆ​ค่ะ
สามารถอ่านรายละเอียดเพื่อความชัดเจนขึ้นในหนังสือที่บอกไว้ในตอนต้นค่ะ
โฆษณา