17 ส.ค. 2021 เวลา 05:47 • สุขภาพ
โรคอ้วนและน้ำหนักเกิน โรคที่ไม่ควรละเลย มันอาจส่งผลเสียกับร่างกายของคุณหรือคนที่คุณรักมากกว่าที่คุณคิด
โรคอ้วนและน้ำเกินคืออะไร? เกิดขึ้นได้อย่างไร? มีวิธีป้องกันหรือไม่? แล้วเราจะลดการเกิดโรคเหล่านี้ได้อย่างไร?
อะไรคือโรคอ้วนและน้ำหนักเกิน?
น้ำหนักเกินและโรคอ้วนหมายถึงการสะสมไขมันที่ผิดปกติหรือมากเกินไปซึ่งอาจทำให้สุขภาพแย่ลง
ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นดัชนีอย่างง่ายของน้ำหนักต่อส่วนสูง ซึ่งมักใช้ในการจำแนกน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในผู้ใหญ่ มันถูกกำหนดให้เป็นน้ำหนักของบุคคลเป็นกิโลกรัมหารด้วยกำลังสองของความสูงเป็นเมตร (กก. / ตร.ม. )
โรคอ้วนและน้ำหนักเกินเกิดจากอะไร?
สาเหตุพื้นฐานของโรคอ้วนและน้ำหนักเกินคือความไม่สมดุลของพลังงาน
ระหว่างแคลอรี่ที่บริโภคและแคลอรี่ที่ใช้ไป มีการรับประทานอาหารที่ให้
พลังงานสูงซึ่งมีไขมันและน้ำตาลสูง และไม่เคลื่อนไหวร่างกายเนื่องมาจากลักษณะการทำงานที่หยุดอยู่กับที่มากขึ้นในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายมักเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการขาดนโยบายสนับสนุนและละเลยในภาคส่วนต่าง ๆที่ควรส่งเสริมให้คนหันมารักสุขภาพ กลับไม่ได้ถูกส่งเสริมอย่างที่ควรจะเป็น เช่น สุขภาพ การเกษตร การขนส่ง การวางผังเมือง สิ่งแวดล้อม การแปรรูปอาหาร การจัดจำหน่าย การตลาด และการศึกษา
ยกตัวอย่างของการศึกษา ในการเรียนแทบไม่ได้บอกถึงความน่ากลัวของโรคเหล่านี้เลย ทำให้คนละเลยการดูแลสุขภาพตั้งแต่ยังเด็ก ถ้าไม่ใช่ครอบครัวที่ส่งเสริมหรือดูแลอย่างใกล้ชิด เด็ก ๆ ก็จะไม่รู้ว่า ตัวเองกำลังน้ำหนักเกินหรือเป็น โรคอ้วน
ผู้ปกครองเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องที่ขาดความรู้ความเข้าใจของโรคอ้วน
หรือน้ำหนักเกิน ที่เด็กส่วนใหญ่น้ำหนักเกิน เพราะตามใจหรือเอาใจเด็ก เด็กอยากกินอะไรก็ต้องได้กิน รวมไปถึงมองว่าการที่เด็กอ้วนก็น่ารักดี แต่ในความเป็นจริงคุณกำลังทำร้ายคนที่คุณรักโดยที่คุณไม่รู้ตัว
การวางผังเมืองเองที่ดูเหมือนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกลับส่งผลกับเราแต่เราอาจจะไม่รู้สึกตัว ถ้าการวางผังเมืองที่มีระเบียบเรียบร้อยสะอาดตา รู้สึกปลอดภัย ผู้คนก็เลือกที่จะเดินไปแม้จะอยู่ไกล มากกว่า 1 กิโลเมตร ก็สามารถเดินได้ แต่ในประเทศเราไม่ได้เป็นแบบนั้นทำให้ผู้คนเลือกที่จะใช้ขนส่งสาธารณะมากกว่าการเดินไปสถานที่ต่าง ๆ
1
สำหรับผู้ใหญ่ WHO กำหนดน้ำหนักเกินและโรคอ้วนดังนี้:
น้ำหนักเกินคือ BMI เท่ากับ 25 หรือมากกว่า
ในส่วนของโรคอ้วนจะเป็นค่าดัชนีมวลกายเท่ากับ 30 หรือ มากกว่า
ค่าดัชนีมวลกายเป็นตัวชี้วัดระดับประชากรที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับน้ำหนักเกินและโรคอ้วน เนื่องจากเป็นค่าเดียวกันสำหรับทั้งสองเพศและสำหรับผู้ใหญ่ทุกวัย อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาเป็นแนวทางคร่าวๆ เท่านั้น อาจจะไม่ตรง ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะระดับความอ้วนในแต่ละคนไม่เท่ากัน
เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี:
น้ำหนักเกินคือน้ำหนักต่อส่วนสูงที่มากกว่า 2 ส่วนที่มาตรฐานซึ่งน้ำหนักจะเกินกว่าค่ามาตรฐานในระดับการเจริญเติบโตของเด็กที่ WHO ตั้งไว้
ในส่วนของโรคอ้วนนั้นน้ำหนักต่อส่วนสูงที่มากกว่า 3 ส่วนซึ่งน้ำหนักจะเกินกว่าค่ามาตรฐานในระดับการเจริญเติบโตของเด็กที่ WHO ตั้งไว้
เด็กอายุระหว่าง 5-19 ปี
น้ำหนักเกินและโรคอ้วนถูกกำหนดไว้ดังนี้สำหรับเด็กอายุระหว่าง 5-19 ปี:
น้ำหนักเกินคือค่าดัชนีมวลกายสำหรับอายุมากกว่า 1 ส่วนของมาตรฐานซึ่งน้ำหนักจะเกินกว่าค่ามาตรฐานในระดับการเจริญเติบโตของเด็กที่ WHO ตั้งไว้ และ
โรคอ้วนคือจะมากกว่า 2 ส่วนของมาตรฐานซึ่งน้ำหนักจะเกินกว่าค่ามาตรฐานในระดับการเจริญเติบโตของเด็ก WHO ตั้งไว้
สถิติโรคอ้วนทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าตั้งแต่ปี 1975
ในปี 2559 ผู้ใหญ่มากกว่า 1.9 พันล้านคนอายุ 18 ปีขึ้นไปมีน้ำหนักเกิน ในจำนวนนี้มีมากกว่า 650 ล้านคนที่เป็นโรคอ้วน
• 39% ของผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปมีน้ำหนักเกินในปี 2559 และ 13% เป็นโรคอ้วน
• ประชากรส่วนใหญ่ของโลกอาศัยอยู่ในประเทศที่น้ำหนักเกินและโรคอ้วนคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าน้ำหนักตัวที่ต่ำกว่าเกณฑ์
• เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีจำนวน 39 ล้านคนมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนในปี 2020
• เด็กและวัยรุ่นอายุ 5-19 ปีกว่า 340 ล้านคนมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนในปี 2559
• โรคอ้วนสามารถป้องกันได้
จากสถิติข้างตนแสดงให้เห็นว่า คนที่เป็นโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุก ๆปี
อะไรคือผลกระทบด้านสุขภาพที่ตามมาจากการมีน้ำหนักเกินและโรคอ้วน?
ค่าดัชนีมวลกายที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาหากคุณมีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนมีดังนี้
• โรคหัวใจและหลอดเลือด (ส่วนใหญ่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในปี 2555
• โรคเบาหวาน
• ความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (โดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อม – โรคข้อเสื่อมที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพอย่างมาก)
• มะเร็งบางชนิด (รวมถึงเยื่อบุโพรงมดลูก เต้านม รังไข่ ต่อมลูกหมาก ตับ ถุงน้ำดี ไต และลำไส้ใหญ่)
ความเสี่ยงต่อโรคเหล่านี้เพิ่มขึ้นโดยมีค่าดัชนีมวลกายที่เพิ่มขึ้น
1
โรคอ้วนในวัยเด็กมีโอกาสสูงที่จะทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร และเกิดความพิการในวัยผู้ใหญ่ แต่นอกเหนือจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในอนาคตแล้ว เด็กที่เป็นโรคอ้วนยังมีปัญหาในการหายใจ ความเสี่ยงที่จะกระดูกหัก ความดันโลหิตสูง และยังเป็นจุดเริ่มต้นของโรคหัวใจและหลอดเลือด และผลกระทบทางจิตวิทยาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
น้ำหนักเกินและโรคอ้วนจะลดลงได้อย่างไร?
น้ำหนักเกินและโรคอ้วน รวมทั้งโรคไม่ติดต่อที่เกี่ยวข้องกันนั้นส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ สภาพแวดล้อมและชุมชนที่เอื้ออำนวยเป็นพื้นฐานในการกำหนดทางเลือกของผู้คน โดยการเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด (ตัวเลือกที่เข้าถึงได้มากที่สุด หาได้ และราคาไม่แพง) และด้วยเหตุนี้จึงช่วยป้องกันภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน
วิธีที่เราสามารถทำเองและเริ่มต้นได้ง่ายๆในการป้องกันทำให้เกิดโรคอ้วน
• ลดการบริโภคอาหารที่ให้พลังงานจากไขมันและน้ำตาลทั้งหมด
• เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ เช่นเดียวกับพืชตระกูลถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี
• ออกกำลังกายเป็นประจำ (60 นาทีต่อวันสำหรับเด็ก และ 150 นาทีต่อสัปดาห์สำหรับผู้ใหญ่)
ถึงอย่างไรก็ตาม การเริ่มที่ตัวเราก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ทางรัฐบาลเองก็ต้องช่วยผลักดันให้คนหันมารักสุขภาพเพื่อลดปริมาณการเพิ่มขึ้นของประชากรที่อาจเกิดโรคอ้วนในประเทศ เช่น การให้กลุ่มคนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึง อาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ไม่ต่างจากคนทั่วไป ทางอุตสาหกรรมอาหารต่าง ๆ ก็ต้องให้ความร่วมมือในครั้งนี้ โดยการ
• ลดปริมาณไขมัน น้ำตาล และเกลือของอาหารแปรรูป
• สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคทุกคนว่าจะมีทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการโดยมีราคาจับที่ต้องได้
• การจำกัดการตลาดอาหารที่มีน้ำตาล เกลือ และไขมันสูง โดยเฉพาะอาหารสำหรับเด็กและวัยรุ่น
• สร้างความมั่นใจในการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและสนับสนุนการออกกำลังกายเป็นประจำในที่ทำงาน
หากเรารู้เท่าทันโรคเหล่านี้เราก็จะสามารถป้องกันการเกิดโรคเหล่านี้ได้ เริ่มดูแลตัวเองกันเสียตั้งแต่ตอนนี้หรือดูแลคนที่คุณรัก เราจะได้อยู่กับคนที่เรารักกันได้นาน ๆ
โฆษณา