17 ส.ค. 2021 เวลา 11:07 • ข่าว
#ไบเดนยืนยันคำตอบสุดท้าย
#ตัดสินใจถูกแล้วที่ถอนทหารออกจากอาฟกัน
#แต่สหรัฐพลาดที่ตรงไหน??
4
ภาพข่าวการบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีในอาฟกานิสถานของกองทัพตาลีบัน ที่มาพร้อมอาวุธครบมือ และการแห่หนีตายของชาวอาฟกันที่สนามบินคาบูล สร้างความตกตะลึงให้ชาวโลกไม่น้อย และยิ่งทำให้เรื่องราวของประเทศหลังม่านหุบเขาอย่างอาฟกานิสถาน และกองทัพตาลีบันกลายเป็นที่สนใจในบ้านเราเป็นอย่างมาก
7
นอกจากนี้ การส่งเครื่องบินอพยพเจ้าหน้าที่สหรัฐออกจากสถานฑูตอเมริกันที่กรุงคาบูล ก็ถูกนำไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ไซง่อนแตกในวันที่ 30 เมษายน 1975 กับ เหตุการณ์ยึดกรุงคาบูลของกลุ่มตาลีบันว่าช่างคล้ายกันเหลือเกิน เหมือนกับภาพเดจาวู!!
8
ดังนั้นกระแสสังคมในโซเชียลทั่วโลก จึงตีกลับไปที่สหรัฐ และการตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ที่ถอนทหารออกจากอาฟกานิสถาน และยังเป็นเหมือนการตอกย้ำความพ่ายแพ้ของสหรัฐในความพยายามที่จะพิชิตกลุ่มตาลีบันตลอด 20 ปีที่ผ่านมา แต่ผลาญเงินภาษีของชาวอเมริกันมากกว่า ล้านล้านเหรียญอย่างสูญเปล่า
5
และเหตุการณ์ในอาฟกานิสถาน ก็สร้างประวัติด่างพร้อยให้กับโจ ไบเดน ไม่น้อย (เพราะคงไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐคนไหนอยากจะอยู่ในยุคที่ถูกชาวโลกมองว่าแพ้สงคราม)
5
ในวันนี้ โจ ไบเดน ได้ออกมาแถลงออกสื่อว่า "ผมยังเชื่อมั่นในการตัดสินใจของผมว่าทำถูกต้องแล้ว และตลอดระยะเวลา 20 ปีของสงครามในอาฟกานิสถาน ไม่ว่าเราจะถอนทหารออกมาตอนไหน มันก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีทั้งนั้น"
7
ตีความจากคำพูดของโจ ไบเดน ที่ดูเหมือนจะปลงๆ ก็พอรู้ว่า ทางฝ่ายสหรัฐก็ประเมินไว้แล้วว่า จะถอนทหารเร็ว หรือช้า สภาพอาฟกานิสถานก็คงไม่ต่างกัน ไม่ใช่เพราะการตัดสินใจของไบเดนหรอกน่า
3
แต่เรื่องนี้ แอนโธนี บลินเคน รัฐมนตรีฝ่ายต่างประเทศสหรัฐเห็นต่างจากโจ ไบเดน นิดหน่อย ตรงที่มองว่า ทำไมไบเดน ยึดติดกับการถอนทหารออกภายในวันที่ 11 กันยายน ที่จะครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ 9/11 เกินไปหน่อย และเริ่มถอนทหารออกทันทีตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ที่อาจจะเร็ว และมีกรอบเวลาที่ชัดเจนเกินไป แต่ทั้งหมดเป็นการตัดสินใจที่ได้ทบทวนมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งสหรัฐคิดว่าภารกิจของกองทัพอเมริกันในอาฟกานิสถานนั้น สิ้นสุดโดยสมบูรณ์แล้ว
6
และรัฐบาลสหรัฐยอมรับว่า การรุกคืบของฝ่ายตาลีบันทำได้อย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายมาก ซึ่งไม่ใช่เพราะสหรัฐประเมินกลุ่มตาลีบันต่ำเกินไป แต่เป็นเพราะสหรัฐประเมินกำลังของรัฐบาลกลางอาฟกานิสถานสูงเกินไปต่างหาก
10
เจค ซัลลาแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC News โดยกล่าวโทษกองทัพของอาฟกานิสถาน ที่อ่อนแอจนต้านทานกองกำลังตาลีบันไม่ได้
2
ซัลลาแวนกล่าวว่า "ท่านประธานาธิบดีก็เคยเชื่อว่ากองกำลังของอาฟกานิสถานน่าจะต้านตาลีบันได้ พวกเราก็ทุ่มเทเวลากว่า 20 ปีในดินแดนนี้ ฝึกกองรบ ทุ่มงบให้นับหมื่นล้านเหรียญ ติดอาวุธที่ทันสมัยที่สุดให้แล้ว
2
และกองทัพของอาฟกานิสถานก็ไม่ใช่น้อยๆ มีทหารกว่า 3 แสนนายประจำการอยู่ อาวุธครบมือทุกคน พร้อมรถถัง และเครื่องบินรบ ฝึกให้จนชำนาญ แล้วเทียบกับกองทัพตาลีบัน พวกคุณคิดว่าเขามีกำลังเหนือกว่าฝ่ายเราหรือ? เขามีนักรบแค่ 75,000 คนเองนะครับ อาวุธที่ใช้ไม่มีทางสู้เราได้ ทำไมกองทัพอาฟกานิสถานกลับไม่กล้าสู้ ปล่อยให้ตาลีบันยึดเมืองได้ง่ายๆ"
7
จอห์น เคอร์บี โฆษกฝ่ายกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า "เรารู้ ทุกคนรู้ โลกรู้ว่าเราทุ่มเทให้อาฟกานิสถานขนาดไหน แล้วผู้นำรัฐบาลอาฟกานิสถานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเขามีศักยภาพเหนือกว่ากลุ่มตาลีบัน แต่กลับไม่ใช้มันอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องประเทศของตัวเอง"
4
แล้วใครจะไปคิดว่า สิ่งที่สหรัฐวางแผนปลุกปั้นกองทัพอาฟกานิสถานมานานกว่า 10 ปีจะพังทลายได้ภายใน 3 เดือน!!
1
สิ่งที่สหรัฐอาจประเมินผิดไป ก็คือปัญหาฟอนเฟะภายในของรัฐบาลอาฟกานิสถานเอง ที่เต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่น ทำให้ข้างนอกที่ดูว่าสุกใส แต่ข้างในเป็นโพรงกลวงๆที่รอเพียงวันล่มสลาย และการ "ไม่มีใจ" ของกองทหารอาฟกานิสถานในการต่อสู้ พอเห็นว่าสู้ไม่ได้ก็ทิ้งกองทัพ หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก
4
จากสื่อของอิหร่าน รายงานว่ามีนายทหารอาฟกันนับร้อยๆนาย เดินเท้าหนีกองทัพตาลีบันข้ามชายแดนมาอิหร่านอย่างต่อเนื่อง และในอุซเบกิสถาน ก็พบเครื่องบินรบของกองทัพอาฟกานิสถาน ถึง 22 ลำ และเฮลิคอปเตอร์อีก 24 ลำ พร้อมทหารอีกไม่ต่ำกว่า 500 นายติดมาด้วย เพื่อหนีสงครามบินข้ามมาอุซเบกิสถาน และมีลำหนึ่งตกด้วย เพราะไปเฉี่ยวกับเครื่องบินรบของกองทัพอุซเบกิสถาน และยังไม่นับรวมทหารเดินเท้าข้ามชายแดนมาอีกหลายร้อยคน
8
ก็ในเมื่อใจมันไม่สู้ ต่อให้มีอาวุธดีกว่า จำนวนทหารมากกว่าก็ไม่มีความหมาย จะไปสู้อีกฝ่ายที่เขามีเป้าหมายชัดเจนได้อย่างไร
9
และที่สำคัญคือเหตุผลของการสงคราม 20 ปีในอาฟกานิสถาน ก็ไม่ได้เกี่ยวกับคนอาฟกานิสถานแม้แต่น้อย สหรัฐที่เปิดสงครามเอง ด้วยเป้าหมายที่ต้องการมาแก้แค้นกลุ่มตาลีบัน ที่ให้ที่พักพิงแก่ โอซามา บิน ลาเดน ที่ถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ ใจกลางมหานครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001
8
แต่หลังจากที่สหรัฐบุกโจมตีบ้านพักส่วนตัวของบิน ลาเดน ในเขตปากีสถาน และได้ปลิดชีพโอซามา บิน บาเดน และครอบครัวในปี 2011 สหรัฐก็ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะสู้รบต่อกับกลุ่มตาลีบันในอาฟกานิสถานอีกต่อไป และเริ่มทยอยถอนกำลังออกมาตั้งแต่สมัย
ของบารัค โอบาม่า
6
จนกระทั่งมาถึงสมัยของโดนัลด์ ทรัมพ์ ที่มีนโยบายยุติสงครามของสหรัฐในต่างประเทศทั้งหมด เพราะเปลืองภาษีประชาชน จึงมีการถอนทหารสหรัฐออกมาจากอิรัก ซีเรีย อย่างต่อเนื่อง แต่ในสมรภูมิอาฟกานิสถาน เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะปมความขัดแย้งระหว่างกลุ่มตาลีบัน ที่ไม่ยอมรับการมีอยู่ของรัฐบาลอาฟกานิสถาน ที่สหรัฐให้การสนับสนุนอยู่
8
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐยอมเปิดโต๊ะเจรจากับตาลีบัน หลังจากที่เคยประกาศมาตลอดว่าอเมริกาจะไม่ต่อรองกับผู้ก่อการร้าย ผ่านช่วงเวลามาอย่างลุ่มๆ ดอนๆ ท่ามกลางการก่อความไม่สงบ ทั้งคาร์บอมบ์ และโจมตีด้วยกองกำลังในอาฟกานิสถานอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด สหรัฐก็บรรลุข้อตกลงถอนทหารออกจากอาฟกานิสถาน เพื่อยุติสงคราม 20 ปีกับตาลีบัน
2
ซึ่งก็ตรงกับที่โจ ไบเดน ได้พูดไว้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การตัดสินใจกันแค่ช่วงไม่กี่เดือน แต่ภายรัฐบาลสหรัฐคุยกันมานานกว่า 10 ปี ว่าจะไม่รบต่อที่อาฟกานิสถานแล้ว (เพราะขาดทุน!!) และโจ ไบเดน ยังเคยพูดตั้งแต่สมัยสงครามอิรักแล้วว่า อเมริกาอาจต้องเจอเหตุการณ์แบบไซง่อนแตกอีกครั้ง
8
ดังนั้น ไม่ว่าจะถอนทหารในสมัยบุช โอบาม่า ทรัมพ์ หรือไบเดน ก็คงจบไม่ต่างกัน เพียงแต่จบในสมัยไบเดน ก็จะโดนด่าน้อยกว่าหน่อย เพราะโจ ไบเดน ยังมีภาพลักษณ์ของความเป็น "คนดี" รองไว้กันกระแทกอยู่บ้าง แต่ลองคิดว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัย โดนัลด์ ทรัมพ์ ดูสิ คงโดนสหบาทา รุมด่า หยามเหยียดจากทั่วสารทิศเป็นแน่แท้
15
แหล่งข้อมูล
1
โฆษณา