เสือชีตาห์ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
เสี่ยงสูญพันธุ์เพราะค่านิยมอวดสัตว์แปลกของคนรวย
โลกใบนี้ เหลือเสือชีตาห์อยู่ในป่าธรรมชาติราวๆ 7,000 ตัว
พวกเขาเป็นอีกสายพันธุ์ที่ยืนอยู่ริมขอบเหวของการสูญพันธุ์ - Vulnerable species ตามการประเมินของ IUCN Redlist
การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย คือ สาเหตุหลักที่ทำให้เสือชีตาห์ลดลงในศตวรรษที่ผ่านมา
เมื่อป่าลดลง - เหยื่อ - อาหารของเสือ ก็ลดลงตาม ทำให้เสือจำนวนมากต้องออกจากป่าไปหากินตามฟาร์มปศุสัตว์ กลายเป็นความขัดแย้งกับประชาชน และทำให้เสือลดจำนวนลงอีกประการหนึ่ง จากการฆ่าเพื่อแก้แค้น
ขณะที่ปัจจุบัน ค่านิยมการครอบครองสัตว์เลี้ยงที่แปลกและแตกต่างจากชาวบ้านชาวช่องกำลังเป็นเทรนด์ของคนมากสตางค์ในประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง
ณ จุดนี้ ได้ตอกย้ำให้สถานะของเสือชีตาร์ย่ำแย่ลงยิ่งกว่าเก่า
ข้อเท็จจริง - เสือชีตาห์ได้รับการคุ้มครองห้ามมิให้มีการค้าในเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศตั้งแต่ปี 1975
ทว่าตั้งแต่ปี 2010 - 2019 มีเสือชีตาห์เป็นๆ มากกว่า 3,600 ตัวถูกขายอย่างผิดกฎหมายทั่วโลก
โดยมีเพียง 10% ที่ตำรวจสกัดกั้นได้
นักอนุรักษ์อธิบายว่า เสือชีตาห์ที่ถูกนำมาขายนั้น เป็นเสือที่ถูกจับออกมาจากป่าธรรมชาติเสียเป็นส่วนใหญ่
เป็นไปได้น้อยมากที่การค้าจะนำมาจากการเพาะพันธุ์ - เพราะการเพาะเสือชีตาห์ในกรงเลี้ยงมีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จที่ค่อนข้างต่ำ
เสือชีตาห์ที่ถูกพรากออกจากป่า มักเป็นลูกเสือที่ยังมีอายุน้อย
ประสบการณ์อันไร้เดียงสาทำให้พ่อค้าเชื่อว่า สามารถฝึกให้เชื่องได้
พรานจะฆ่าแม่และขโมยลูกเสือออกมาจากป่า
นักอนุรักษ์ที่ติดตามเรื่องนี้ ระบุอย่างชัดเจนว่า การส่งออกเสือชีตาห์ไปยังตะวันออกกลางมีต้นทางมาจากประเทศโซมาลีแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศใหม่ที่เพิ่งประกาศเอกราชจากโซมาเนีย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดนักว่าเสือชีตาห์ถูกนำเข้ามายังโซมาลีแลนด์ได้จากช่องทางใด
แต่ผู้คนในประเทศต่างสนับสนุนการค้านี้ เพราะประชากรในประเทศส่วนใหญ่ยังมีฐานะยากจน และไม่มีความรู้หรือความตระหนักถึงการอนุรักษ์สัตว์ป่ามากนัก
บางคนมาเข้าใจก็เมื่อตัวเองถูกตำรวจจับ - แต่ก็ไม่พ้นว่าต้องไปใช้กรรมที่ก่อไว้ก่อน
การล่าเสือแต่ละครั้งจะมีพ่อค้าคนกลางมาเป็นผู้รับช่วงต่อ
มีรายงานระบุว่าราคาเสือที่ถูกขายจากป่ามีมูลค่าน้อยนิดนัก เมื่อเทียบกับราคาที่พ่อค้าคนกลางนำไปโพสต์ขายลงโซเชียลมีเดีย
ตามรายงานที่จัดทำโดย National Geographic ระบุว่า คนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย เป็นกลุ่มผู้ซื้อหลัก
มีบรรดาเศรษฐีจำนวนไม่น้อย ที่ต้องโชว์ว่าตนมีสัตว์เลี้ยงที่แปลกไม่เหมือนใคร พร้อมจะจ่ายราคาให้กับเสือชีตาห์รวมถึงสัตว์ป่าอื่นๆ ที่บ่งบอกว่าตนพิเศษกว่าใครๆ
ในบางความเชื่อระบุว่า เสือชีตาห์มีความหมายถึงอำนาจ และความมั่งคั่ง ดังที่ปรากฎในหลักฐานทางโบราณคดี ที่พบว่าพวกมันเคยเป็นสัตว์เลี้ยงของชนชั้นนำและมีผู้อำนาจชั้นสูง
แม้จะบอกว่าเป็นสัตว์เลี้ยง แต่โดยสถานะเมื่อถูกซื้อไปแล้ว เสือชีตาห์มีค่าไม่ต่างอะไรกับวัตถุชิ้นหนึ่งที่มีไว้ประกอบฉากในภาพที่ถูกถ่ายลงเฟซบุ๊ก อินสตามแกรม หรือติ๊กต๊อก
ข้อมูลจาก NBC News ระบุว่า เสือชีตาห์ที่ถูกซื้อไปนั้น มีโอกาสรอดชีวิตน้อยกว่า 20%
บรรดาผู้มีอันจะกินทั้งหลาย ไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกมันมากกว่าวัตถุอวดความมั่งมี ดังนั้น เสือชีตาห์จึงไม่ได้รับการดูแลที่ดีเท่าที่ควร
มีรายงานว่าลูกเสือชีตาห์บางตัวได้รับเนื้อแกะเป็นอาหารเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ทำให้การเจริญเติบโตของสัตว์ไม่เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ - ส่วนใหญ่จะเป็นโรคขาดสารอาหาร
นั้นจึงเป็นเหตุให้เสือชีตาห์จำนวนไม่น้อยต้องจบชีวิตลงก่อนวันอันควร
ไม่นับว่าเสือบางส่วนอิดโรยมาตั้งแต่การเดินทางที่เป็นไปอย่างอัตคัด จนทำให้สัตว์เกิดความเครียด
ปัจจุบัน กระทรวงสิ่งแวดล้อมของโซมาลีแลนด์ได้กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญ และดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับหน่วยงานศุลกากรในประเทศตะวันออกกลางที่เริ่มเข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบของที่ส่งเข้าประเทศมากยิ่งขึ้น
ปลายทางของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรายังไม่อาจทราบได้
เพียงแต่หวังว่าเสือชีตาห์จะรอดพ้นบ่วงกรรมนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด
พึงระลึกไว้เสมอ
สัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
#IsLIFE #Cheetah #Extinction
อ้างอิง
National Geographic : https://on.natgeo.com/3k8DZOu
IUCN : https://bit.ly/2W40E6u
NBC News : https://nbcnews.to/3mf3DUE
Photo : Courtesy Cheetah Conservation Fund l Laura Orozco
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
