19 ส.ค. 2021 เวลา 04:27 • สุขภาพ
งานวิจัยอังกฤษระบุ วัคซีนไฟเซอร์ - แอสตร้าฯ
ป้องกันโควิดเดลตาน้อยลงหลังฉีด 3 เดือน
มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเผยผลวิจัยล่าสุดระบุว่า วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/บิออนเทค และวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีการใช้กันมากที่สุด มีประสิทธิภาพให้การป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาลดลงภายใน 3 เดือนหลังจากได้รับการฉีดวัคซีน โดยวัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพลดลงมาอยู่ที่ 75% จาก 85% และวัคซีนแอสตร้าฯมีประสิทธิภาพลดลงมาอยู่ที่ 61% จาก 68% หลังการฉีดวัคซีน 2 สัปดาห์ และในกลุ่มที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ประสิทธิภาพวัคซีนจะลดลงมากกว่ากลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า
ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยไม่ได้คาดการณ์ว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงอีกเท่าใดในอนาคต แต่คาดว่าประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งสองน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกันหลังจากฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ไปแล้ว 4-5 เดือน
งานวิจัยนี้อ้างอิงข้อมูลข้อมูลจากการตรวจหาเชื้อทางจมูกและลำคอมากกว่า 3 ล้านตัวอย่างจากทั่วประเทศอังกฤษ และยังพบว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือแอสตร้าฯครบทั้ง 2 โดสแล้ว อาจมีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้มากกว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ
ซาร่า วอล์กเกอร์ ศาสตราจารย์ด้านสถิติการแพทย์จากอ็อกซ์ฟอร์ดและผู้นำทีมวิเคราะห์ผลสำรวจครั้งนี้ เปิดเผยว่า หากฉีดวัคซีนของ 2 บริษัทนี้ครบโดส ก็ยังถือว่ามีประสิทธิภาพมากในการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา เพราะหากประสิทธิภาพเริ่มต้นสูงมาก แม้จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไปแต่ประสิทธิภาพก็ยังสูงอยู่ดี
โฆษณา