19 ส.ค. 2021 เวลา 05:51 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
NO ONE MOV: EP.4
ถ้าเป็นคุณ!!
จะชำระแค้นด้วยวิทยาศาสตร์ หรือ ไสยศาสตร์??
1
ทำไมต้องแก้แค้นอ่ะเหรอ?(゚ペ)?
ก็มึงไง ที่ฆ่าพ่อกู!!!
โทดๆ นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
แต่เป็นประโยคจากภาพยนตร์เรื่อง จอมขมังเวทย์ 2020
หลังจากพ่อถูกฆ่าตาย วิน(หมาก ปริญ)
นักมวยหนุ่มสุมไฟแค้น
ต้องออกตามล่าหาฆาตรกรด้วยตัวเอง
เนื่องด้วยระบบยุติธรรม
กลับกลายเป็นความอยุติธรรม
1
กฏหมายที่ใช้คุ้มครองผู้ถูกกระทำ
แต่กลับถูกกระทำด้วยกฏหมายซะเอง
จากคนไม่เชื่อในโชคชะตา
แต่โชคชะตาบังคับให้เขา
ต้องเชื่อและศรัทธาในมนต์ดำ
เพราะจะเอาชนะใคร
ใช้แค่แรงอย่างเดียวคงไม่ได้
มีสมองบางครั้งก็ไม่พอ
บางอย่างมันต้องมีของ
ทำไมมีสมองบางครั้งถึงไม่พอ?
ทำไมบางครั้งต้องมีของประกอบด้วย?
“สมอง” คือ การใช้หลักการและเหตุผล
“ของ” คือ สิ่งที่แม้แต่เหตุผลก็ไม่สามารถอธิบายได้
แล้วศาสตร์อะไร? ที่ใช้เหตุผลในการอธิบายสิ่งต่างๆ
ใช่ คุณคิดถูกแล้ว d(・∀・○)
“วิทยาศาสตร์”
แล้วศาสตร์อะไร? ที่อธิบายไม่ได้แม้กระทั่งเหตุผล
คุณคิดถูกอีกแล้ว เก่งจริงๆ b(~_^)d
“ไสยศาสตร์”
วิทยาศาสตร์ และ ไสยศาสตร์
คุณว่าสองศาสตร์นี้มีอะไรเหมือนกัน?
ไม่ ไม่เหมือนอย่างแน่นอน -`д´-
ถ้าคุณคิดว่า “ไม่”
อยากให้คุณทบทวนอีกสักครั้ง
วิทยาศาสตร์ = วิทยา(รู้)+ศาสตร์(ความรู้)
ดังนั้น วิทยาศาสตร์ = ความรู้ที่ทำให้เป็นผู้รู้
ความรู้แบบไหนที่ทำให้เป็นผู้รู้?
และ รู้ได้ยังไงว่าเป็นความรู้ที่แท้จริง?
ความรู้ เกิดจากทุกสิ่ง
ไม่ว่าจะจินตนาการหรือธรรมชาติ
จนนำไปสู่กระบวนการหาคำตอบ
และพิสูจน์หลักฐาน ข้อเท็จจริง
ในเชิงประจักษ์ ที่ทุกคน “พิสูจน์” ได้
พิสูจน์ได้ = เป็นความรู้ที่แท้จริง
เหรอ?
มันสำคัญด้วยเหรอ? ว่าความรู้นั้นจริงหรือไม่? จริงแค่ไหน?
เพราะยังไง พิสูจน์กี่ครั้ง ก็เหมือนเดิม
แต่ถ้าไม่เหมือนเดิมล่ะ?
ความรู้นั้นก็ถูกหักล้างไปเป็นธรรมดา
1
คราวนี้ คุณช่วยอธิบายทฤษฎีสัมพัทภาพ
ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ให้ฟังหน่อย
โอเค คุณเก่งมากที่อธิบายได้
แต่ถ้าคุณนึกไม่ออก ไม่ต้องเสียใจ
คำถามคือ คุณจำครั้งล่าสุดที่เรียนทฤษฎีนี้ได้หรือไม่?
และ คุณจำครั้งล่าสุดที่ลืมทฤษฎีนี้ได้หรือไม่?
ถ้าคำตอบคือ “ไม่” ไม่แปลก
ถ้าคุณเป็นคนที่อยู่ในวัยเรียน
เรียนแล้วก็ลืม สอบเสร็จก็ทิ้ง
คือเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ถ้าคุณเป็นวัยทำงาน
และไม่ได้ทำในสายอาชีพที่ต้องใช้ความรู้ด้านนี้
ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องจำ
เพราะแก่นหลักของวิทยาศาสตร์
ไม่ใช่ข้อมูล แต่คือ “วิธีคิด”
ข้อมูล วันหนึ่งคุณจะลืม
แต่ วิธีคิด คุณจะไม่ลืมมันสักวัน
สรุป วิทยาศาสตร์ คือ “ความรู้”
ที่มนุษย์สร้างขึ้นจากจินตนาการในการอธิบายธรรมชาติ
โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องใช้ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์
เป็นฐานในการ “พิสูจน์”
คราวนี้เรามาดู ไสยศาสตร์กันบ้าง
ไสยศาสตร์ = ไสย(หลับ)+ศาสตร์(ความรู้)
ดังนั้น ไสยศาสตร์ = ความรู้ที่ทำให้หลับ
ซึ่งตรงข้ามกับพุทธศาสตร์อย่างสิ้นเชิง
พุทธศาสตร์ = พุทธ(ตื่น)+ศาสตร์(ความรู้)
พุทธศาสตร์ = ความรู้ที่ทำให้ตื่น
แต่คุณรู้หรือไม่ (゚ペ)?
สิ่งที่ตรงข้ามกลับรวมร่างอยู่ด้วยกัน จนแยกไม่ออก
เพราะพุทธศาสนายอมรับเรื่องผีสางเทวดา และอิทธิฤทธิ์
ซึ่งความรู้จากศาสนาทำให้เกิดการต่อยอด
รวมเอาอำนาจของอิทธิฤทธิ์เหล่านั้น
มาก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางโลก
ไม่ว่าจะเป็น ความรุ่มรวย ความลุ่มหลง อำนาจ วาสนา
สิ่งเหล่านี้ เรารู้จักกัน ในนาม “ไสยศาสตร์”
จากที่คุณฟังมาถึงตรงนี้
คุณพอจะตอบได้หรือยัง?
ว่าวิทยาศาสตร์กับไสยศาสตร์เหมือนกันอย่างไร
ใช่ “ความรู้”
ทั้งสองศาสตร์ล้วนมีรากฐานมาจาก ความรู้
และความรู้เหล่านั้นก็ถูกนำมาต่อยอด
เพื่อตอบสนองกิเลสของมนุษย์ไม่ต่างกัน
แล้วคุณล่ะ? จะเลือกอะไร
วิทยาศาสตร์ หรือ ไสยศาสตร์
หรือไม่ว่าศาสตร์ไหน คุณก็จะเอา
ถ้านำมาซึ่งอำนาจและทรัพย์สิน?
คุณล่ะมีความคิดเห็นอย่างไร?
อย่าลืมคอมเมนต์แบ่งปันความคิดดีๆของคุณ
เพราะหนึ่งคำถามมีมากกว่าหนึ่งคำตอบ
ONE QUESTION NO ONE ANSWER
ONE|NO|ONE
ขอกราบขอบพระคุณข้อมูล(*˘︶˘*)
ที่ทำให้สมองอันน้อยๆงอกเพิ่มมากขึ้น
1.จอมขมังเวทย์ 2020
เป็นภาพยนตร์ที่ดูเพลิน ดูแบบไม่ต้องคิด
เพราะไม่มีอะไรให้คิด ดูให้เสียเวลาไปงั้นๆ
ปล.บทความนี้คิดนานพอควร
ว่าจะตั้งคำถามอะไร แล้วจะโยงยังไง
ซึ่งมันจะไม่เกิดปัญหานี้เลยกับหนังต่างประเทศ
ทำให้สังเกตได้ว่า หนังไทยไม่ได้ถูกสร้างขึ้น
เพื่อให้เราถาม แต่ถูกสร้างให้เราเชื่อ
2. หนังสือไฮเทคาถาปาฏิหาริย์:ว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนังสือชวนตั้งคำถาม ถกปัญหา เสียดสี สังคมไทย
ที่ไม่ก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แต่มุ่งหวังเพียง
เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งนำมาสู่อำนาจและทรัพย์สิน
1
3. พุทธกับไสย : แค่ไหนจึงจะควร
4. ศาสน์กับไสย https://siamrath.co.th/n/37969
5. ไม่เชื่ออย่าลบหลู่: วิทยาศาสตร์แห่งไสยศาสตร์
โฆษณา