coco อลวลวิญญาณอลเวง
ให้คะแนน9.5/10
ในวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความตายที่ซานตาเซซิเลีย ประเทศเม็กซิโก ที่อบอวนไปด้วยความอบอุ่นและเสียงเพลงจากนักดนตรีชื่อดังประจำอย่างเออร์เนสโต ภายในครอบครัวช่างทำรองเท้าเด็กหนุ่มมิเกลผู้มีความฝันที่จะเป็นนักดนตรีแม้ว่าครอบครัวของเขาจะห้ามไม่ให้เล่นอย่างเด็ดขาด เหตุเพราะคุณย่าทวดของเขาอิเมลด้าเคยแต่งงานกับชายนักดนตรีที่ทิ้งเธอไปเล่นดนตรีและไม่เคยหวนกลับมาดูแลลูกสาวและครอบครัวอีกเลย
จึงทำให้ยายทวดอิเมลด้าเกียดการเล่นดนตรีและบังคับไม่ให้คนในครอบครัวของเธอสนใจเรื่องดนตรีอย่างเด็ดขาดและเริ่มธุรกิจทำรองเท้าสืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่น ตอนนี้มิเกลอาศัยอยู่กับคุณย่าโคโค่ผู้สูงอายุและครอบครัวของเขาซึ่งเป็นช่างทำรองเท้าทุกคน
เขายกย่องเออร์เนสโต เดอลาครูซนักแสดงและนักดนตรีชื่อดังเป็นอย่างมากและถือเอาเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นดนตรี โดยมิเกลจะแอบหัดเล่นกีตาร์จากหนังเก่าของเออร์เนสโตอย่างลับๆที่ห้องของเค้า ในวันฉลองวันแห่งความตาย (Día de Muertos) พิธีกรรมในงานเฉลิมฉลองประจำปีและประเพณีของชาวเม็กซิกัน มิเกลได้ไปที่แท่นบูชาบรรพบุรุษออฟเลนด้า ทำให้กรอบรูปบรรพบุรษที่มีรูปของย่าทวดอิเมลด้าและย่าโคโค่แตกโดนบังเอิญ
พบว่าส่วนที่ซ่อนอยู่ในภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่าปู่ทวดของเขาที่ถูกฉีดขาดส่วนหัวหายไป แต่ในมือท่านถือกีตาร์ที่มีชื่อเสียงของเออร์เนสโต ทำให้เด็กหนุ่มมิเกลเชื่อว่าเออร์เนสโตนักร้องนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่เป็นปู่ทวดของเขา จุดประกายฝันที่อยากเป็นนักดนตรีของเค้า มิเกลจึงเพิกเฉยต่อคำคัดค้านของครอบครัวของเขาที่ห้ามเล่นดนตรีดังนั้นเขาจึงแอบออกไปแสดงดนตรีที่จัตุรัสกลางเมืองในวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความตาย
เมื่อเข้าไปในสุสานของเออร์เนสโตมิเกลเพื่อแอบหยิบกีต้าร์ของเออร์เนสโตไปใช้ในการแสดง แต่เมื่อเขาเล่นมันแล้วเดินออกมาจากสุสานกลับพบว่าทุกคนในหมู่บ้านมองไม่เห็นเค้า แต่มิเกลกลับมองเห็นและสามารถโต้ตอบกับคนที่ตายไปแล้วในรูปแบบของโครงกระดูกซึ่งมาจากดินแดนแห่งความตายในช่วงวันหยุดเทศกาลแห่งความตาย
เมื่อเข้าไปในสุสานของเออร์เนสโตมิเกลเพื่อแอบหยิบกีต้าร์ของเออร์เนสโตไปใช้ในการแสดง แต่เมื่อเขาเล่นมันแล้วเดินออกมาจากสุสานกลับพบว่าทุกคนในหมู่บ้านมองไม่เห็นเค้า แต่มิเกลกลับมองเห็นและสามารถโต้ตอบกับคนที่ตายไปแล้วในรูปแบบของโครงกระดูกซึ่งมาจากดินแดนแห่งความตายในช่วงวันหยุดเทศกาลแห่งความตาย
ดินแดนแห่งชีวิตก่อนพระอาทิตย์ขึ้นมิฉะนั้นเขาจะกลายเป็นคนตายจริงๆ เพื่อทำเช่นนั้นเขาจะต้องได้รับพรจากสมาชิกในครอบครัวของเขา ย่าทวดอิเมลด้าได้ให้พรมิเกลแต่มิเกลกลับปฏิเสธเพราะในพรนั้นมีข้อแม้อยู่หนึ่งข้อคือห้ามเล่นดนตรีเด็ดขาด มิเกลจึงหลบหนีจากกลุ่มญาติเพราะตัดสินใจจะไปขอพรของเออร์เนสโตนักดนตรีผู้เป็นปู่ทวดแทน วิ่งออกไปยังดินแดนแห่งความตายได้พบกับเฮคเตอร์ ผู้ที่อ้างว่าเขารู้จักเออร์เนสโต เดอลาครูซดีกว่าใครๆโดยมีข้อเสนอหากมิเกลกลับไปโลกคนเป็นได้ให้เอารูปเค้าไปขึ้นไว้ที่ออฟเลนด้า เพื่อที่เขาจะได้ข้ามสะพานไปเยี่ยมลูกสาวก่อนที่เค้าจะถูกลืม เมื่อคนที่
ถูกลืมร่างกายจะสลายตัวไปอาจจะเรียกได้ว่าตายอย่างอย่างสมบูรณ์มันเป็นการหายไปโดยที่ไม่มีทางย้อนกลับมาได้อีกเลย เฮคเตอร์เสนอแผนการในการช่วยโดยให้มิเกลเข้าสู่การแข่งขันพรสวรรค์เพราะผู้ชนะการประกวดจะได้สิทธิ์เข้าไปแสดงในคฤหาสน์ของเออร์เนสโตที่จัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความตาย แต่ก็ถูกครอบครัวของมิเกลมาตามพบเสียก่อนจึงต้องรีบหนีและมิเกลตัดสินใจแอบบเข้าไปในคฤหาสน์ทีเออร์เนสโต เมื่อมิเกลได้เล่าเรื่องทั้งหมดกับเออร์เนสโตถึงเรื่องที่เค้าเป็นปู่ทวดของมิเกล
เฮคเตอร์เห็นว่ามิเกลได้พบกับเออร์เนสโตแล้วจึงทวงสัญญาที่เคยให้ไว้ และเฮคเตอร์ได้เล่าเปิดเผยความจริงว่าเออร์เนสโตนักร้องคนดังกับเค้าร่วมงานกันแต่เออร์เนสโตแอบวางยาพิษเขาแล้วขโมยกีตาร์และเพลงของเขาไปทำให้เค้าไม่มีโอกาสกลับไปหาลูกเมียอีก เมื่อเออร์เนสโตถูกเปิดโปงเค้าจึงสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเขาโยนมิเกลและเฮคเตอร์โยนลงไปในหลุมเพื่อขังไว้และคว้าเอารูปของเฮคเตอร์ที่จะนำไปขึ้นกรอบบูชาออฟเลนด้า จากเรื่องราวที่เฮคเตอรืเล่ามาทำให้มิเกลรู้ความจริงว่าที่จริงแล้วเฮคเตอร์คือปู่ทวดของเค้าและคุณย่าโคโค่ก็คือลูกสาวที่เฮคเตอร์อยากพบหลังจากนั้นไม่นานย่าทวดอิเมลด้าและครอบครัวได้นำสัตว์แห่งโลกวิญญาณที่เค้าเลี้ยงไว้เข้ามาช่วยทั้งคู่ มิเกลเผยความจริงเกี่ยวกับการตายของเฮคเตอร์
จึงทำให้ย่าทวดอิเมลด้าหายโกรธเรื่องการหายตัวไปของปู่ทวดเฮคเตอร์ขึ้นมานิดนึง ก่อนที่ครอบครัวของมิเกลทุกคนจะร่วมใจรีบไปเอารูปของเฮคเตอร์จากเออร์เนสโตก่อนที่เค้าจะถูกลืมจากย่าโคโค่คนสุดท้ายที่รู้ว่าเฮคเตอร์คือคนในครอบครัว พวกเค้าแทรกซึมแอบเข้าไปในคอนเสิร์ตของเออร์เนสโตภายในคฤหาสน์ที่จัดงานฉลอง เรื่องวุ่นวายจึงเกิดขึ้นและจบลงด้วยการที่เออร์เนสโตพลาดแฉเรื่องของตัวเองในขณะที่จะจับมิเกลได้ซึ่งเค้าไม่รู้ว่าถูกออกอากาศสดกลางงานฉลอง ทำให้ผู้ชมผู้ร่วมงานไปม่พอใจเค้ามากๆที่เป็นทั้งฆาตกรและขโมยงานของคนอื่น
เมื่อเรื่องราวจบลงย่าทวดอิเมลด้าและเฮคเตอร์จึงอวยพรมิเกลเพื่อเขาจะได้กลับไปยังดินแดนแห่งคนเป็น หลังจากที่มิเกลรีบกับไปหาคุณย่าโคโค่แล้วเริ่มร้องเพลง ” Remember Me ” คุณย่าที่ไม่เคยพูดอะไรมานานมีความรู้สึกอีกครั้งและร่วมร้องเพลงไปพร้อมกับมิเกล
พร้อมนึกไปถึงเรื่องราวความหลังดีๆกับคุณพ่อเฮคเตอร์ที่เธอไม่มีวันลืมใบหน้าของเค้าลงไปได้ หนึ่งปีให้หลังในวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความตายมิเกลกับน้องสาวคนใหม่ของเขาได้เริ่มจัดเตรียมแท่นบูชาบรรพบุรุษออฟเลนด้า ซึ่งตอนนี้ได้รวมคุณย่าโคโค่ที่เสียชีวิตไปแล้วด้วยจดหมายที่เก็บรวบรวมจากคุณย่าโคโค่ที่ส่งมาโดยเฮคเตอร์เป็นวัตถุพยานที่พิสูจน์ว่าเออร์เนสโตขโมยเพลงของเฮคเตอร์ให้สิทธิ์อนุญาตในการเป็นเจ้าของผลงานเป็นของเฮคเตอร์
ในดินแดนแห่งความตายย่าทวดอิเมลด้าและเฮคเตอร์รวมถึงครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว ข้ามสะพานมาเยี่ยมหาครอบครัวในวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความตายแต่แตกต่างไปจากทุกปีที่มีนี้ครอบครัวของมิเกลได้อนุญาตมห้ร้องเพลงและเล่นเต้นรำได้ทำให้คนเป็นและคนตายมีความสุขร่วมกันในวันDia de los Muertosเทศกาลแห่งความตาย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
