4 ก.ย. 2021 เวลา 14:21 • ปรัชญา
" ... ดูกรอานนท์ อันสุขในโลกีย์นั้น
ถ้าตรวจตรองให้แน่นอนแล้ว
ก็หากเป็นกองแห่งทุกข์นั้นเอง
เขาหากเกิดมาเป็นมิตรติดกันอยู่
ไม่มีผู้ใดจักพรากออกจากกันได้ ... "
ดูกรอานนท์ ผู้ที่จะนำตนไปให้เป็นสุขในพระนิพพาน
ต้องวางเสียซึ่งความสุขในโลกีย์
ถ้าวางไม่ได้
ก็ไม่ได้ความสุขในพระนิพพานเลย
1
ถ้าวางสุขในโลกีย์มิได้ ก็ไม่พ้นทุกข์
ด้วยความสุขในโลกีย์
เป็นความสุขที่เจืออยู่ด้วยทุกข์
ครั้นเมื่อถือเอาสุขก็คือถือเอาทุกข์นั่นเอง
ครั้นไม่วางสุขก็คือไม่วางทุกข์นั่นเอง
จะเข้าใจว่าเราจะถือเอาแต่สุข
ทุกข์ไม่ต้องการดังนี้ไม่ได้เลย
เพราะสุขทุกข์เป็นของเนื่องอยู่ด้วยกัน
ถ้าไม่วางสุขเสีย ก็เป็นอันไม่พ้นทุกข์
ดูกรอานนท์ บุคคลทั้งหลาย
ผู้ที่จะรู้ว่าสุขทุกข์ติดกันอยู่นั้นหายากยิ่ง
มีแต่เราตถาคตผู้ประกอบด้วยทศพลญาณนี้เท่านั้น
บุคคลทั้งหลายที่ยังเป็นปุถุชนคนโง่เขลานั้น
ทำความเข้าใจว่า
สุขก็มีอยู่ต่างหาก ทุกข์ก็มีอยู่ต่างหาก
ครั้นเราถือเอาสุขเราก็ได้สุข
เราไม่ถือเอาทุกข์ ทุกข์ก็ไม่มี ดังนี้
เพราะเหตุที่เขาไม่รู้ว่าสุขกับทุกข์ติดกันอยู่
เขาจึงไม่พ้นทุกข์
1
เมื่อผู้ใดอยากพ้นทุกข์
ให้วางสุขเสีย
ก็เป็นอันละทุกข์วางทุกข์ด้วยเหมือนกัน
ใครเล่าจะมีความสามารถพรากสุขทุกข์ออกจากกันได้
ถ้าหากเราตถาคตพรากสุขและทุกข์ออกจากกันได้
เราจะปรารถนาเข้าสู่พระนิพพานทำไม
เราจะถือเอาแต่สุขอย่างเดียว
เสวยแต่ความสุขอยู่ในโลกเท่านี้
ก็เป็นอันสุขสบายพออยู่แล้ว
นี่ไม่เป็นเช่นนั้น
เราแสวงหาความสุขโดยส่วนเดียว
ไม่มีทางที่จะพึงได้
เราจึงวางสุขเสีย
ครั้นวางสุขแล้ว
ทุกข์ไม่ต้องวางก็หายไปเอง
อยู่กับเราไม่ได้
เราจึงสำเร็จพระนิพพาน
พ้นจากกองทุกข์ด้วยประการดังนี้
ดูกรอานนท์ อันสุขในโลกีย์นั้น
ถ้าตรวจตรองให้แน่นอนแล้ว
ก็หากเป็นกองแห่งทุกข์นั้นเอง
เขาหากเกิดมาเป็นมิตรติดกันอยู่
ไม่มีผู้ใดจักพรากออกจากกันได้
เราตถาคตกลัวทุกข์เป็นอย่างยิ่ง
หาทางชนะทุกข์มิได้
จึงปรารถนาเข้าพระนิพพาน
เพราะเหตุกลัวทุกข์นั้นอย่างเดียว
พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาแก่ข้า ฯ อานนท์ ดังนี้แล
ตทนนฺตรํ ลำดับนั้น
พระพุทธเจ้าจึงตรัสเทศนาสืบต่อไปอีกว่า
อานนฺท ดูกรอานนท์
กุศลธรรมและอกุศลธรรมนั้น
ได้แก่กองกิเลส ๑,๕๐๐ นั้นเอง
อัพยากฤตธรรมนั้น คือองค์พระนิพพาน
ครั้นพ้นจากกองกุศลธรรม
และอกุศลธรรมนั้นแล้ว
จึงเป็นองค์แห่งพระอรหันต์แลพระนิพพานโดยแท้
ถ้ายังไม่พ้นจากกุศลแลอกุศลธรรมตราบใด
ก็ยังไม่เป็นอัพยากฤตตราบนั้น
คือยังไม่เป็นองค์พระอรหันต์
ยังไม่เป็นองค์พระนิพพานได้
อ้างอิง :
* สุขในฝั่งโลกีย์ คือ สุขที่เจือไปด้วยกองทุกข์
มีรากเหง้ามาจากอวิชชา
เสวยสุข ๆ ทุกข์ ๆ พลิกกันไปมา
คลุกเคล้าอยู่ด้วยกองกิเลส 1500
มีเพียงต้องปฏิบัติยกระดับจิตเข้าสู่พระนิพพานเท่านั้น
ศีล สมาธิ ปัญญา หรือ อริยมรรคมีองค์ 8
เป็นทางไปพระนิพพาน
มีเพียงผู้เดินตามรอยพระพุทธองค์
ผู้เดินตามมรรค
เจริญอริยมรรคมีองค์ 8 อย่างเต็มที่ สมบูรณ์ บริบูรณ์
เกิดการรู้แจ้งอริยสัจ ๔ อย่างถ้วนรอบเท่านั้น
จึงจะพบกับสุขแท้ ปราศจากกองทุกข์ กองกิเลสทั้งปวง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา