19 ส.ค. 2021 เวลา 19:38 • ครอบครัว & เด็ก
สามีขอพาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน ภรรยาทำอย่างไรได้บ้าง ?
อยู่ดีๆสามียอดรักมาบอกว่าขอพาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยได้มั้ย ภรรยาจะทำอย่างไรได้บ้าง มาดูกันค่ะ
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่า มีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ
มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516(1) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น
สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้
ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516(1) หรือให้ผู้อื่นกระทำตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้
การกระทำดังกล่าวของสามีนั้นถือว่าเป็นการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันสามีภริยา ซึ่งเป็นเหตุให้ภรรยาสามารถฟ้องหย่าได้ ตามมาตรา 1516(1) และหากเมียน้อยแสดงตนโดยเปิดเผยว่าตนมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับผู้เป็นสามี ภรรยายังสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากฝ่ายเมียน้อยตามมาตรา 1523 ได้อีกด้วย
จากคำถามที่ว่า ภรรยาจะทำอย่างไรได้บ้าง?
จะขอแบ่งเป็น 3 กรณี ดังต่อไปนี้ นะคะ
มาดูตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นกันดีกว่าคะ
กรณีที่ 1 ภรรยาสามารถฟ้องหย่ากับสามีและฟ้องเรียกค่าทดแทนจากเมียน้อยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6516/2552
แม้จำเลยที่ 1 จะไม่เคยพาจำเลยที่ 2 ออกงานสังคม หรือแนะนำให้บุคคลอื่นรู้จักในฐานะภริยาแต่การที่จำเลยทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผยอยู่ในบ้านซึ่งปลูกสร้างในแหล่งชุมชนด้วยกันในเวลากลางคืน ขับรถรับส่งเมื่อไปทำกิจธุระหรือซื้ออาหารด้วยกัน ย่อมบ่งชี้ว่าจำเลยทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวและเอื้ออาทรดูแลเอาใจใส่ต่อกัน แสดงว่าจำเลยที่ 1 ยกย่องจำเลยที่ 2 ฉันภริยาอันเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (1) แล้ว และโจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยที่ 2 ที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสามีโจทก์ให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคหนึ่ง ได้อีกด้วย
กรณีที่ 2 หากภรรยาไม่ต้องการหย่า ก็สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากเมียน้อยอย่างเดียวก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2940/2538
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่ามีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวตลอดมา จนถึงวันฟ้อง ลักษณะการกระทำของจำเลยได้กระทำต่อเนื่องกัน มายังมิได้หยุด การกระทำละเมิดของจำเลยได้เกิดขึ้นและมีอยู่ในขณะฟ้อง คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ฎีกาจำเลยที่ว่า การฟ้องเรียกค่าทดแทน ตามป.พ.พ.มาตรา 1523 จะต้องฟ้องหย่าเสียก่อนจึงจะเรียกค่าทดแทนได้นั้น เป็นฎีกาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การจำเลยก็มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ การเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ไม่มีเงื่อนไขว่าภริยาต้องฟ้องหย่าสามีเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงนั้นได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4014/2530
การที่จำเลยมีความสัมพันธ์ทางชู้สาว กับสามีโจทก์จนถึงขั้นสามีโจทก์ให้โจทก์ยอมรับจำเลยเป็นภรรยาน้อย มิฉะนั้นจะทิ้งโจทก์และจำเลยตบ หน้าสามีโจทก์ในร้านอาหารเพราะความหึงหวงต่อหน้าโจทก์ ทั้งสามีโจทก์และจำเลยยังได้ร่วมกันกู้เงินจากธนาคารมาสร้างหอพักในที่ดินของจำเลย และมีผู้รู้เห็นว่าสามีโจทก์ได้มาหาและพักนอนอยู่ที่บ้านจำเลยหลายครั้ง เช่นนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยได้แสดงตน โดย เปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาว กับสามีโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามมาตรา1523 วรรคสอง แต่คำขอของโจทก์ที่ขอให้จำเลยระงับการมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาว กับสามีโจทก์นั้นสภาพของคำขอดังกล่าวไม่เปิดช่องศาลไม่อาจบังคับได้
กรณีที่ 3 หากภรรยาได้หย่ากับสามีไปแล้วเพราะเหตุที่สามีมีเมียน้อย ภรรยาสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากเมียน้อยในภายหลังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6804/2558
ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุภริยามีชู้ สามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากชู้ บทบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้ชายชู้หรือชายที่มาล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวจะต้องทราบว่าหญิงนั้นเป็นหญิงมีสามีแล้ว แต่ยังจงใจละเมิดสิทธิสามี จึงต้องรับผิดใช้ค่าทดแทน เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ทราบแล้วว่า จำเลยที่ 1 เป็นภริยาของโจทก์แต่ยังเป็นชู้และร่วมประเวณีกับจำเลยที่ 1 เป็นอาจิณ โจทก์ซึ่งเป็นสามีย่อมมีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2590/2561
บทบัญญัติ มาตรา 1523 วรรคสอง แห่ง ป.พ.พ. ให้สามีมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินภริยาไปในทางชู้สาวได้ แม้ภริยาสมัครใจหรือยินยอมให้ล่วงเกินไปในทำนองชู้สาว สามีก็มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนตามวรรคสองนี้ได้ เพราะการฟ้องเรียกค่าทดแทนตามวรรคสองนี้เป็นสิทธิของสามีโดยเฉพาะและสิทธิในการฟ้องของสามีย่อมเกิดขึ้นตั้งแต่ขณะที่มีการล่วงเกินในทางชู้สาวกัน จำเลยที่ 2 มีความสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 ทางชู้สาวอันเป็นการล่วงเกินในทางชู้สาวต่อจำเลยที่ 1 ในขณะที่จำเลยที่ 1 ยังเป็นกริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ สิทธิของโจทก์ตามบทบัญญัติดังกล่าวย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่ขณะที่ยังไม่มีการหย่า แม้ภายหลังมีการจดทะเบียนหย่ากันแล้ว สิทธิในการฟ้องก็หาได้หมดสภาพ หรือถูกลบล้างตามไปด้วยไม่ โจทก์มีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยที่ 2 ได้ตามบทบัญญัติดังกล่าว
สรุป เมื่อสามีขอพาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน สิ่งที่ภรรยาสามารถทำได้ ได้แก่
- ภรรยาสามารถฟ้องหย่ากับสามีและฟ้องเรียกค่าทดแทนจากเมียน้อยได้
- หากภรรยาไม่ต้องการหย่า ก็สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากเมียน้อยอย่างเดียวก็ได้
- หากภรรยาได้หย่ากับสามีไปแล้วเพราะเหตุที่สามีมีเมียน้อย ภรรยาสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากเมียน้อยในภายหลังได้
ประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ลืมไม่ได้ก็คือ ท่านจะ #ฟ้องหย่า กับสามีและ #ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากเมียน้อย ได้นั้น จะต้องเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย คือ ต้องมีการจดทะเบียนสมรสกันเท่านั้น หากเป็นสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันก็ไม่สามารถจะฟ้องหย่าและฟ้องเรียกค่าทดแทนจากเมียน้อยได้นะคะ
#ผดุงธรรม
โฆษณา