20 ส.ค. 2021 เวลา 04:59 • ความคิดเห็น
ตั้งแต่อายุ 3ขวบค่ะ (เราเป็นคนที่สามารถจำเรื่องราวในวัยเด็กได้ตั้งแต่ยังพูดไม่ได้ด้วยซ้ำค่ะ ไม่รู้มันพิเศษมั้ย)​
ครั้งแรก ตาตาย เพราะตกต้นมะพร้าว เราอยู่ในเหตุการณ์นั้นตอน3ขวบ ทุกคนร้องไห้ระงมตอนหมอเข็นรถพาตาไปห้องฉุกเฉิน ตาตัวแดงทั้งตัว แต่ไม่มีเลือด แล้วก็ไม่เห็นตาอีกเลย
ครั้งที่2 ตอน6ขวบ หมาที่เลี้ยงไว้ โดนยาเบื่อ มันวิ่งมาตายที่เท้า กี่ตัวก็โดนหมด และพ่อเป็นคนไม่ชอบแมวมาก พ่อฆ่าแมวอย่าทรมาน ต่อหน้าต่อตาเรา ซึ่งเรารักมันมาก และมันเชื่องมาก
ครั้งที่ 3 ตอน7ขวบ พี่ชายคนรอง ประสบอุบัติเหตุ​รถชนท้ายรถบรรทุกเสาไฟฟ้า ติดคาซากรถ งานศพพี่ เผาที่วัดธรรมยุต ไม่ฉีดฟอร์มาลีน​ พ่อบอกแม่ให้พาลูกไปดูพี่ชาย แม่ค้านบอกเรายังเด็ก พ่อบอกต้องไป ไปฝึก ค่ะ พี่ชายในโลงนั้น ไม่มีสภาพเป็นมนุษ​ย์เลยเป็นน้ำแหลกเหลวไปหมด
ครั้งที่4 อายุ17ปี (คบกับแฟนคนแรก สมัยมัธยม​ปลาย)​ ยายของแฟน เสีย ท่านอยู่ถิ่นทุรกันดาร วัดไม่มีเมรุ ต้องเผาวิธีโบราณ คือเชิงตะกอน นำศพไปวางบนกองท่อนฟืนแล้วประชุมเพลิงเผากลางแจ้ง เราได้เห็นภาพนั้นก็จิตสงบ
ครั้งที่5 อายุ 21ปี เพื่อนสนิทหัวใจล้มเหลวเสียในห้องน้ำ วันเรียนจบและกำลังจะรับปริญญา​(รุ่นเรา เรียนแค่3ปี เพราะ รวบหน่วยกิจปีสุดท้ายมากระจายเรียนให้จบ3ปี)​ เราและเพื่อนๆทำศพเพื่อนคนนี้เอง
ครั้งที่6 อายุ 22 พ่อตาย ไม่มีคำร่ำลาไดๆ เพราะพ่อไหลตาย พ่อหลับและไม่ตื่นอีกเลย เราเรียนจบได้งานทำที่ชลบุรี กำลังจะได้เงินเดือนเดือนแรกจะให้พ่อ แต่พ่อก็ตายก่อน เราทำศพพ่อเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่พาไปฉีดฟอร์มาลีน​ เปลี่ยนเสื้อ นำร่างพ่อมาวัดนั่งเฝ้าห่อร่างพ่อ ดูทุกขั้นตอน
ครั้งที่7 อายุ 25 แฟนคนแรกตาย ประสบอุบัติเหตุ​นอนโรงพยาบาล​6คืน เป็นอัมพาตทั้งตัว ก่อนตายมีอาการน่าเวทนา เราสวดมนต์​ให้ฟังทุกคืน พยายามสื่อสารกับเขา เราจับมือเขา เราเห็นภาพนึงแว่บเข้ามา คือถาพเด็กผช3คน มีหนังสติ๊กคนละอัน จะพากันไปยิงนก แต่1ในนั้น เดินเข้ามากราบลาพระประธานในโบสถ์​แล้วจึงตามเพื่อนไปยิงนก.. ในขฯะนั้นเขาเพ้อ วาระสุดท้ายว่ามาถึงแล้ว เขาขอโทษ เขายกมือไหว้เรา และเริ่มคลั่ง ตาเหลือก เส้นเลือดในตาแตก พ่นน้ำลายไปทั่ว ท่าทางหวาดกลัวรอบตัว แล้วก็จากไป
ครั้งที่ 8 อายุ29 เราประสบอุบัติเหตุ​รถล้ม ขาเดินไม่ได้ 3เดือน นอนรพ. 5วัน
ครั้งที่ 9 อายุ 31 เป็นคอปัสลูเธียม (ฝีในมดลูกแตก)​เข้าผ่าตัด เจ็บและทรมานมาก
ครั้งที่ 10 อายุ 35 เป็นซี๊สที่หน้าอก ผ่าตัดไม่ฉีดยาสลบ ฉีดแค่ยาชา แต่ก็ยังเจ็บ
นี่เพียงเรื่องราวหลักๆในชีวิต ไม่นับรวมคนที่เรารู้จัก หรือเห็นๆกัน แต่ผลัดวัน เขาก็ลาจาก ไม่ร่ำลาใดๆ บางคนแวะเวียนมาเจอเราแค่ครั้งเดียว มาช่วยอะไรเราแค่ครั้งเดียว วันต่อมาเขาก็ตายจากไป บางคนทำมาหากินด้วยกัน เราเคยช่วยเหลือเค้า เห็นรอยยิ้มเค้า2สามครั้ง ก็ไม่เจอเขาอีกแล้ว อันนี้พบบ่อยมาก
ความตายเกิดขึ้นได้เสมอ แต่เป็นเรื่องธรรมชาติ ธรรมดาของมนุษย​์ นั่นคือสิ่งที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราตอนนี้ เราเรียนธรรมะ และฝึกวิปัสสนา​มานานแล้ว เราจึงเป็นคนสงบสบายๆ ไม่ค่อยมีความทุกข์​เพราะเหตุการณ์​อะไรเข้ามาเราก็เข้าใจมัน มันมีเหตุผลอะไร เราก็เข้าใจได้ จึงไม่ทุกข์เลย และยังใช้ความรู้ของเรา ช่วยเหลือ​คนอื่นให้พ้นทุกข์ได้ด้วย
เราวางแผนพอประมาณ เพราะไม่อยากต้องให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องเดือดร้อน ให้เผาเราตามสมถะ ไม่ต้องมีงานพิธีรีตองอะไร มีเพียงพระสวด พิธีอันควรตามหลักศาสนา​ก็พอ และเผาไม่ให้เกิดอุจาดตาเดือดร้อนแก่คนที่มาพบเห็นก็พอ ต้องเป็นในแบบธรรมยุตที่เคร่ง (แม่รู้ดี)​ห้ามเปิดเพลง ห้ามมีอบายมุข ห้ามฆ่าสัตว์, อะไรที่ขายเป็นเงินได้ ให้แฟนหมด และฝากให้ช่วยเป็นธุระเรื่องเงินให้แม่ด้วย ถือว่าทำบุญให้เราครั้งสุดท้าย แฟนเป็นคนดี จึงไว้ใจได้ ส่วนนึงเราก็เตรียมไว้ให้แม่เองแล้ว เราเขียนจดหมายเชิงพินัยกรรมไว้แล้ว เราห่วงแฟนมากกว่าแม่ เพราะแม่เขาได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว แต่แฟน เขาดีเกินไป ห่วงเขาจะถูกเอาเปรียบอีก แต่ท้ายสุดก็แล้วแต่บุญแต่บาป
... ชีวิตที่ไม่มีอะไรมาแต่แรก ภาระมันเลยไม่เยอะ เวลาจะจากไป จึงไม่มีห่วง อย่าพันธนาการตัวเองไว้กับ ความรัก ความโลภ ความโกรธ และความหลง จะเป็นอิสระได้ ในวันที่ต้องทิ้งทุกอย่างนะคะ
1
โฆษณา