21 ส.ค. 2021 เวลา 13:15 • ไลฟ์สไตล์
โมนาลิซา เกือบไม่ได้เป็นมาสเตอร์พีซของ ดาวินชี หากไม่มีเหตุโจรกรรม ขโมยรูปวาดระดับโลกเมื่อปี ค.ศ. 1911
1
21 สิงหาคม ค.ศ.1911 เป็นอีกวันที่วงการศิลปะโลกต้องจารึกกับเหตุการณ์โจรกรรมภาพวาด โมนาลิซา ขณะจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ว่ากันว่าก่อนหน้านั้นภาพ โมนาลิซา (Mona Lisa) หรืออีกชื่อคือ ลา จิโอกอนดา (La Gioconda) ซึ่ง เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) หรือ ดาวินชี ศิลปินชาวอิตาเลียนวาดไว้ตั้งแต่ ค.ศ. 1507 ไม่ได้เป็นภาพชิ้นเอกที่โด่งดังเมื่อเทียบกับภาพอิงศาสนาอย่าง The Last Supper และ ภาพ Virgin of the Rocks (หรือเรียกอีกชื่อว่า Madonna of the Rocks) ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินคนเดียวกัน
กระทั่งในเช้าวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม ค.ศ.1911 เมื่อภาพหญิงสาวที่แขวนอยู่บนกำแพงหายไปจากห้องจัดแสดง และกว่าที่จะมีคนสังเกตเห็นว่าที่ว่างบนผนังตรงนี้เคยมีบางสิ่งบางอย่างแขวนอยู่ก็กินเวลากว่า 48 ชั่วโมง
มีชายชาวอิตาลี 3 คน ถูกตั้งข้อสงสัยว่า ขโมยภาพวาดโมนาลิซาออกจากพิพิธภัณฑ์ และสื่อทั่วโลกต่างก็ตีข่าวการขโมยงานศิลปะชิ้นนี้ เช่นเดียวกับ นิวยอร์ก ไทมส์ สื่อดังของฝั่งอเมริกาที่ได้ให้รายละเอียดเปิดชื่อผู้ที่อาจจะเป็นผู้ต้องสงสัยเบื้องหลังการขโมยภาพซึ่งมีตั้งแต่มหาเศรษฐี เจ พี มอร์แกน (J.P. Morgan) หรือแม้แต่ศิลปินดังร่วมสมัยอย่าง ปาโบล ปิกัสโซ่ (Pablo Picasso) ก็ตกเป็นข่าวลือว่าอาจจะอยู่เบื้องหลัง
เรื่องลุกลามไปถึงการเมืองระหว่างประเทศระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนีที่กำลังตึงเครียด (ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1) ทำให้เกิดการแพร่สะพัดข่าวว่าผู้นำเยอรมนีอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และนั่นยิ่งทำให้นักสะสม ผู้คนในวงศิลปะ และประชาชนทั่วไปอยากที่จะรู้จักภาพวาดโมนาลิซามากขึ้นว่าทำไมความงามของหญิงสาวในภาพจึงดึงดูดใจให้มีคนกล้าขโมยออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
1
หลังจากที่ภาพวาดโมนาลิซาหายไป พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็ปิดทำการนานหนึ่งสัปดาห์เพื่อสอบสวนเรื่องนี้ และเมื่อเปิดทำการอีกครั้งกลับพบว่ามีประชาชนแห่ไปดูจุดแขวนภาพโมนาลิซา ซึ่งกลายเป็นผนังที่ว่างเปล่าอย่างล้นหลาม และในที่สุดคดีก็คลี่คลายหลังเวลาผ่านไปนาน 28 เดือน
วินเชนโซ เปรูจา (Vincenzo Perugia)
จอมโจรครั้งประวัติศาสตร์คือ วินเชนโซ เปรูจา (Vincenzo Perugia) ชายชาวอิตาลีผู้ทำงานเป็นช่างติดกระจกนิรภัยงานศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ และภาพโมนาลิซาก็เป็นภาพเขียนสีบนแผ่นไม้ขนาดเล็กที่สามารถซุกซ่อนนำออกไปได้ง่าย แต่ด้วยความที่ข่าวนี้ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก ทำให้ วินเชนโซ เปรูจา ต้องซุกซ่อนภาพนี้ไว้ในห้องพักที่ปารีสกระทั่งเวลาผ่านไป 28 เดือน (2 ปี 4 เดือน) เขาจึงแอบนำภาพโมนาลิซาไปขายให้กับอาร์ตดีลเลอร์ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
1
แน่นอนว่าพ่อค้าคนกลางไม่เชื่อว่านี่คือรูปจริง และต้องให้ผู้จัดการหอศิลป์แห่งหนึ่งในเมืองฟลอเรนซ์ที่มีความเชี่ยวชาญมาตรวจดูผนึกหลังภาพให้ชัดเจน แต่แทนที่จอมโจรขโมยภาพจะได้เงิน เขากลับถูกตำรวจตามมารวบตัวถึงบ้านพักที่ฟลอเรนซ์ และติดคุกอยู่นาน 8 เดือน โดยวินเชนโซ เปรูจา ให้เหตุผลในการขโมยรูปนี้ว่า เพราะเขาอยากจะนำพาหญิงสาว โมนาลิซา คืนสู่อิตาลีซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของงานศิลปะชิ้นนี้ ที่เขาทำลงไปก็ด้วยสำนึกรักชาติและเห็นว่าภาพนี้ถูกนโปเลียน (ผู้นำฝรั่งเศส) ขโมยไป
5
จากนั้นภาพวาด โมนา ลิซา ก็ได้กลับมาจัดสแดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟว์อย่างถาวรอีกครั้ง พร้อมชื่อเสียงที่โด่งดังขึ้นกว่าเดิมและขึ้นแท่นเป็นงานมาสเตอร์พีซของ ดาวินชี ที่คนทั่วโลกต้องมาชม และเป็นภาพวาดที่มีการค้นพบรหัสลับ พบข้อสันนิษฐานมากมายที่ยังไม่สามารถคลี่คลายได้จนถึงปัจจุบัน
1
โฆษณา