21 ส.ค. 2021 เวลา 16:13 • การตลาด
DIGITAL TRANSFORMATION IS THE FUTURE #เทคโนโลยีดิจิทัลคืออนาคต
เพราะโควิด-19 เร่งเร้าให้องค์กรต้องโอบรับ Digital Transformation อย่างฉับพลัน ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่การประชุมออนไลน์วันละหลายๆ นัดเท่านั้น แต่หมายถึงการที่องค์กรต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานการทำงานใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญ เพื่อตอบรับกับการทำงานวิถีใหม่ “แค่ออนไลน์ก็ทำงานได้ ทุกที่ ทุกเวลา”
เพราะต่อให้วิกฤตจบลง นโยบาย Work from Home ก็จะยังคงอยู่ต่อไป และหนึ่งในเทคโนโลยีดิจิทัลที่แทบทุกองค์กรหันมาใช้ก็คือ Cloud Technology ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของซอฟต์แวร์ด้านบัญชี หรือแอปพลิเคชันฝ่ายบุคคล ก็สามารถช่วยสร้างประสบการณ์การทำงานออนไลน์ที่ไร้รอยต่อได้ แถมยังช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการด้านไอทีอีกด้วย
มากกว่า 65% ของผู้บริหารทั่วโลกระบุว่า พวกเขาจะนำการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ อย่าง Cloud, AI, IoT, Blockchain ขึ้นมาเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณา แม้ว่ามันจะดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยาก จนบางครั้งผู้บริหารเองอาจกังวลว่าบุคลากรจะรับมือกับเทคโนโลยีดิจิทัลไหวมั้ย? แต่ในยุค Disruption แบบนี้ การไม่เริ่มลงมือคงจะเสี่ยงกว่า
นับเป็นเวลากว่า 17 เดือนแล้ว ที่คนทำงานส่วนใหญ่ต้องปรับรูปแบบการทำงานเพื่อรับมือกับโควิด-19 หลายองค์กรประกาศนโยบาย Work from home 100% โดยไม่ทันได้เตรียมพร้อมในเรื่องของ Process การทำงานที่จะเปลี่ยนไป รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่องค์กรจัดหามาให้ และไม่ได้จัด Training ให้พนักงานพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลสำรวจของ IBM Institute for Business Value พบว่า 74% ของนายจ้าง มองว่าตนมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงานรูปแบบใหม่ แต่พนักงานที่รู้สึกแบบนี้มีเพียง 38% เท่านั้น ระดับความคาดหวังที่แตกต่างกันขององค์กรและพนักงานถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข หากปล่อยไว้ในระยะยาวอาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการทำงานได้
โดยเฉพาะในภาวะปัจจุบันที่หลายองค์กรจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงาน และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเพื่อความอยู่รอดเช่นนี้ อาจส่งผลให้คนฝีมือดีรู้สึกเครียดและกดดันจากงานที่ Overload และต้องใช้ทักษะที่หลากหลายกว่าที่เคย กลยุทธ์การซัพพอร์ตพนักงานทั้งในแง่ Functional และ Emotional อย่างจริงจัง จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งกว่ายุคไหนๆ
จริงๆ แล้วกระแสรักษ์โลกและใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมีมาก่อนหน้าที่โควิด-19 จะระบาดแล้ว แต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัยจากไวรัสส่งผลทางอ้อมให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่การลดการใช้ Single-use plastic การบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการจัดการ Carbon Footprint ในระดับองค์กร
เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้จะกลายมาเป็นปัญหามลพิษที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขอนามัยของพวกเราในภายภาคหน้า ผู้บริโภคจึงมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้า หรือมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ที่แสดงออกถึงการให้คุณค่ากับความยั่งยืนอย่างจริงใจ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ที่ได้เห็นวิกฤตสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่วัยเด็ก
นอกจากเรื่องรักษ์โลกและใส่ใจสิ่งแวดล้อมแล้ว ผู้บริโภคยังมองหาความปลอดภัยในโลกออนไลน์อีกด้วย โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภค ถือเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรต้องระมัดระวังอย่างมากในการจะนำไปใช้ ความชัดเจนและโปร่งใสในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจทุกชนิดเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคหลังโควิด-19 อาจถามหามากกว่าแต่ก่อน
การปรับตัวครั้งนี้ถือว่าเป็นวาระสำคัญ ซึ่งต้องมองทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ธุรกิจถึงจะขับเคลื่อนไปได้ เพราะในอนาคตก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดวิกฤตหรือปัญหาอะไรเข้ามากระทบกับธุรกิจอีก ผู้บริหารองค์กรรวมถึงพนักงานทุกคนจึงมีความจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงไว้เสมอ
โฆษณา