26 ส.ค. 2021 เวลา 10:02 • ไลฟ์สไตล์
การเรียกร้องสิทธิสตรี มีมาทุกยุคทุกสมัย ผู้หญิงต่างต้องการได้รับการยอมรับจากสังคมไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การทำงานนอกบ้าน การเป็นผู้นำ การได้รับการศึกษา สังคมโลกหรือแม้แต่ประเทศไทยเองอยู่ภายใต้ กรอบแนวคิดชายเป็นใหญ่ กันมาช้านาน แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไปแนวคิดก็เปลี่ยนตามเช่นกัน การศึกษาทำให้เราเห็นความสำคัญซึ่งกันและกัน โดยไม่จำกัด อายุ เพศ และชนชั้น
เฟมินิสต์ (Feminism) หรือแนวคิดสตรีนิยม หมายถึงแนวคิดที่ว่าด้วยความเท่าเทียมทางการเมือง เศษฐกิจ และสังคมของเพศต่างๆ
การเรียกร้องสิทธิสตรีนั้นเริ่มต้นเมื่อปี 1845 ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการเรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้งให้กับผู้หญิง เพื่อยกสถานะสตรีให้มีความเท่าเทียมกับผู้ชาย
ต่อมาในปี 1960 เป็นยุคของการปลดปล่อยผู้หญิงให้เป็นอิสระ เริ่มค้นพบตัวเองเพื่อให้หลุดจากกรอบเดิมๆ ของสังคม
ในปัจจุบันการเรียกร้องของกลุ่มเฟมินิสต์ ไม่ใช่เพื่อสิทธิของสตรีเท่านั้น นิยามของเฟมินิสต์ไม่ได้จำกัดขอบเขตอีกต่อไป รวมทั้งกลุ่มผู้เรียกร้องก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น จะเป็นผู้ชายหรือกลุ่ม LGBTQ+ ก็สามารถออกมาเรียกร้องในนามเฟมินิสต์ได้เช่นกัน เพราะแนวคิดเฟมินิสต์เป็นการเรียกร้องความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นกับทุกคนในสังคม
เมื่อปี 2014 องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ได้รณรงค์ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศขึ้น ในแคมเปญ “HeForShe” เป็นแคมเปญที่ให้ผู้ชายมีส่วนร่วมในการสร้างความเท่าเทียมให้กับทุกเพศ โดยมี เอ็มมา วัตสัน (Emma Watson) เป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติ หลังจากเปิดตัวแคมเปญมีผู้ชายจากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 54,000 คน มีคนดัง ผู้บริหาร และบริษัทต่าง ๆ เข้าร่วมมากมาย ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมแคมเปญนี้รวมแล้วกว่า 2 ล้านคน บริษัทใหญ่ระดับโลกอย่าง Unilver ก็เข้าร่วมด้วย จากเดิมในปี 2014 ที่มีสัดส่วนผู้หญิงเป็นคณะกรรมการบริษัท 36% ก็เพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 45% ในปี 2018
ในยุคปัจจุบันไม่ว่าใครก็ตาม ย่อมอยากได้รับความเสมอภาคทัดเทียมกับผู้อื่น หลายครั้งที่เราเห็นข่าวการกดขี่ทางเพศ ทำร้าย เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ เราไม่อยากให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นเลย จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงความเป็นมนุษย์และสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นให้มากขึ้น เพื่อความสงบสุขของโลกใบนี้ค่ะ
โฆษณา