'กฎ 3+3' ในการพัฒนาตัวเองแบบ 'ไม่เสียของ'
คุณเคยเกิดอาการสมองรั่วมั๊ย?
และคุณมีวิธีจัดการกับ อาการนั้นอย่างไร
ความโลภ ที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
อยากพัฒนาตัวเองให้ได้เร็วๆ
เพื่อให้ความรู้และความสามารถเติบโตได้ทันอายุ
อ่านหนังสือสักเล่มก็อยากจะเก็บให้ได้ทุกสิ่ง
ลงทะเบียนสักคอร์ส ก็ตั้งเป้าจะเอาทุกเม็ด ให้คุ้มกับเงินที่เสีย
ปรากฎว่า สุดท้ายแล้ว จับหรือจำอะไรไม่ได้ "เป็นชิ้น เป็นอัน"
จิตแพทย์ “ชิออน คาบาซาวะ” อธิบายเรื่องนี้ว่า
นั่นเป็นเพราะสมองจดจำและจัดการกับสิ่งต่างๆ
"พร้อมกันได้ไม่เกิน 3 อย่าง"
ดังนั้น หากเราพยายามจัดการกับเรื่องราวต่างๆ มากเกิน 3 อย่าง
"สมองจะรั่ว" และหยุดการทำงาน ทำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง!! สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จึง "เป็น 0"
เพราะ Working Memory หรือถาดจัดการข้อมูลของสมองมีแค่ 3 ใบ
สมองจะจัดการและคอยผลัดเปลี่ยนข้อมูลในถาดไปเรื่อยๆ
"การโลภที่จะเรียนรู้จนมากเกินไป" จึงไม่น่าจะใช่วิธีพัฒนาตัวเองที่ดี
หากแต่การอ่านหนังสือสักเล่ม เข้าฟังสัมมนาสักเรื่อง ดูภาพยนตร์สักรอบ
หาสัก 3 เรื่องที่ใช่ และนำไปใช้ตอบโจทย์ชีวิตได้ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
แล้วเลข 3 ที่เหลือคืออะไรล่ะ?
อย่างที่เล่าไปว่า สมองมีความสามารถในการจัดการ “พร้อมๆ กันได้ทีละ 3 เรื่อง”
เราก็เพียงแค่ จัดการ 3 เรื่องแรกให้เรียบร้อย
แล้วค่อยมาจัดการกับ 3 เรื่องถัดไป ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
A B C, D E F, G H I,... 3+3+3+3......
นี่คือ สุดยอดเคล็ดลับแห่งการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
นั่นแปลว่า คนเราสามารถเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ
ไปได้เรื่อยๆ แบบไร้ขีดจำกัด!!
อ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่า “เราโลภที่จะเรียนรู้ได้”
เพียงแต่ต้องจัด priority ของความโลภ แค่นั้นเอง อะไรทำก่อน หลัง
ท่องเลข "3" ไว้
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก The Power of Input โดยจิตแพทย์ชิออน คาบาซาวะ
ชัชชญา ฮาเกิน
23.08.2021
#The Power of Input #สรุปหนังสือ
คุณเคยเกิดอาการสมองรั่วมั๊ย?
และคุณมีวิธีจัดการกับ อาการนั้นอย่างไร
คุณเคยเกิดอาการสมองรั่วมั๊ย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
