Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สารพันบันเทิงจีน
•
ติดตาม
22 ส.ค. 2021 เวลา 09:18 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
การแบนดาราจีน 2 คน ในเวลาไล่เลี่ยกัน สะท้อนวิธีคิดและนโยบายของจีนเกี่ยวกับความมั่นคงได้อย่างชัดเจน
กรณีแรก คริส วู (อู่อี้ฟาน) เริ่มจากมีผู้หญิงออกมาแฉว่าเขาและทีมงานหลอกผู้หญิงไปเทสหน้ากล้อง มอมเหล้า และพาขึ้นเตียง
ช่วงแรกแฟนคลับส่วนใหญ่ของคริสทั้งในและนอกจีนด่าผู้หญิงเละเทะ เลยเถิดกันไปมาก สตูดิโอของคริสก็ออกมาฮึ่ม ๆ ว่าจะฟ้อง พร้อมกับยืนยันหนักแน่นว่าไม่เคยมีเรื่องดังกล่าว
หลังจากนั้นไม่กี่วัน บรรดาแบรนด์ต่าง ๆ ก็ทยอยออกมาประกาศตัดสัมพันธ์กับคริส วู โดยไม่รอให้ความจริงปรากฏ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของจีน
ต่อมาเรื่องเริ่มบานปลาย เมื่อตำรวจเข้ามาสอบสวนอย่างจริงจัง และพบหลักฐานว่ามีผู้หญิงที่เป็นเหยื่อมากกว่าหนึ่งคน แถมมีผู้เยาว์อายุ 14 ปี (ตอนที่เกิดเรื่อง)ด้วย จนท้ายที่สุดคริส วู ก็ถูกจับข้อหาข่มขืน
อันนี้ขอข้ามความขัดแย้งที่เถียงกันว่า ศาลยังไม่ตัดสิน เขาไม่ผิดไป
ประเด็นก็คือ กว่าที่บัญชีและผลงานต่าง ๆ ในสังคมออนไลน์ของคริส วู จะถูกถอดออกทั้งหมด ใช้เวลาเป็นสัปดาห์นับแต่มีข่าว เพราะ ความผิดของคริส วู เป็นความผิดส่วนตัว ผลกระทบอย่างมากสุดก็แค่เป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างแฟนคลับที่ยังเข้าข้างกับเนติเซ่นอื่น ๆ ที่เห็นตรงกันข้าม
แต่ถ้าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษไปตามนั้น ไม่มีใครช่วยอะไรได้ ต่อให้แฟนคลับร้องไห้เป็นสายเลือดก็เถอะ
ในขณะที่กรณี จางเจ๋อฮั่น ไม่ได้ทำผิดกฎหมายข้อใดเลย แต่ถูกแบนออกจากทั้งโลกออนไลน์และวงการภายในเวลาไม่กี่วัน เนื่องจาก มีคนไปขุดรูปถ่ายเมื่อปี 2018 ที่เขาไปงานแต่งงานเพื่อนคนหนึ่งที่ญี่ปุ่น ในงานได้ถ่ายภาพกับเดวี ซูการ์โนภรรยาอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซียผู้ล่วงลับ ประเด็นคือเธอสนับสนุนญี่ปุ่นว่าไม่ผิดในประเด็นสงครามนานกิง
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีรูปที่จางเจ๋อฮั่นไปเที่ยวและถ่ายรูปที่ศาลเจ้ายาสุกุนิ ซึ่งมีป้ายวิญญาณของทหารที่เสียชีวิตในสงคราม รวมทั้งมีป้ายวิญญาณของอาชญกรสงคราม ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะนายพลโตโจ ฮิเดกิ นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของญี่ปุ่นในเวลานั้นด้วย
ต้องเรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดมาก เพราะข่าวนี้ออกมาในช่วงใกล้วันรำลึกถึงเหตุการณ์ที่นานกิง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นความเจ็บช้ำน้ำใจระดับชาติอันยากจะลืมเลือนของจีน
และที่ทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีกคือ ทีมงานของจางเจ๋อฮั่นพลาดมาก เพราะออกมาขอโทษทำนองว่า ไม่รู้ประวัติศาสตร์ คราวนี้ยิ่งกลายเป็นประเด็นว่า เกิดเป็นคนจีน เติบโตในประเทศจีน ไม่รู้ประวัติศาสตร์เรื่องนานกิงได้อย่างไร
เรื่องศาลเจ้ายาสุกุนิ นั้นเป็นข่าวใหญ่ทั้งประณามประท้วงกันทุกครั้งที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นย่างเท้าไปเหยียบศาลเจ้าแห่งนี้ รวมไปถึงการที่ญี่ปุ่นไม่เคยยอมรับผิดว่ากระทำการอันโหดร้ายสุด ๆ ในสงครามครั้งนั้น ไม่ว่าจะมีหลักฐานมากมายขนาดไหนก็ตาม
จำได้ว่าครั้งหนึ่ง(น่าจะเกิน15 ปี) หนังสือพิมพ์ไทยเขียนสกู๊ปเรื่องนี้ สัปดาห์ถัดมาก็มีจดหมายจากสถานทูตญี่ปุ่นชี้แจงว่าไม่มีหลักฐานยืนยันว่ากองทัพญี่ปุ่นได้การกระทำการดังกล่าว หนังสือพิมพ์ก็นำจดหมายฉบับดังกล่าวมาลง ให้คนอ่านตัดสินกันเอาเองว่าจะเชื่อคำพูดใครแค่ไหน
การที่ทางการจีนแบนจางเจ๋อฮั่นแทบจะทันที ทั้งที่ไม่ได้กระทำผิดกฎหมายใด ๆ เพราะจีนถือว่าเหล่าดาราคนดังต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของคนอื่น ๆ ในสังคม ต้องรักชาติ ในกรณีนี้จะมาอ้างว่าไม่รู้ประวัติศาสตร์จีนไม่ได้
เรื่องที่ทางการจีนเป็นห่วงมากกว่านั้น คือ หลังจากเป็นข่าว เหล่าแฟนคลับก็ออกมาปกป้องว่าจางเจ๋อฮั่นไม่ผิด ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่เลย แถมยังมีนักเขียนท่านหนึ่งโพสต์เว่ยปั๋วทำนองว่า ไปศาลเจ้ายาสุกุนิผิดตรงไหน ปรากฏว่าสตูดิโอที่ซื้อเรื่องเขาไปทำ รีบออกมาบอกเลยว่านักเขียนไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสตูดิโอ ท้ายที่สุดนักเขียนคนดังกล่าวต้องออกมาโพสต์ขอโทษและลบโพสต์ไป
ดังนั้นถึงแม้จางเจ๋อฮั่นจะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ผลกระทบจากการกระทำของเขาในฐานะดาราคนดัง อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของจีน หากทำให้คนจีนทั่วไปไม่ว่ามากน้อยแค่ไหน ไม่สำนึกว่ากว่าจะมีวันนี้ บรรพบุรุษต้องเผชิญกับความยากลำบาก ความเจ็บช้ำน้ำใจ มากันขนาดไหน
ผลกระทบนี้ ร้ายแรงกว่าการกระทำผิดกฎหมายตรง ๆ เสียอีก ยิ่งช่วงนี้ มีเรือรบของพันธมิตรในน่านน้ำทะเลจีนใต้เต็มไปหมด ยิ่งต้องการความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ
เรื่องอื่น ๆ เถียงกันได้ เห็นต่างกันได้ รักใครไม่รักใคร ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่อง “ชาติ” นั้นไม่สามารถเห็นต่างกันเป็นอย่างอื่นได้
เราเป็นคนไทย เคยชินกับการให้อภัยคนอื่น ที่สำคัญแม้ในประวัติศาสตร์ เราจะเคยมีช่วงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามบ้าง แต่ถ้าเทียบกับประเทศอื่น ๆ แล้ว ต้องบอกว่าเรานั้นโชคดีมาก
ก่อนหน้าที่จะมีข่าวนี้ เคยมองข่าวความขัดแย้งระหว่าง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น แบบผิวเผิน จึงคิดว่าในอนาคต ด้วยผลประโยชน์ทางการค้า ความบาดหมางในอดีตน่าจะค่อย ๆ บรรเทาลงไปได้
แต่จากเหตุการณ์นี้ จึงค่อยเข้าใจว่าบาดแผลที่ญี่ปุ่นสร้างไว้นั้น อีก 100 ปี จีนก็ไม่มีทางลืม
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย