22 ส.ค. 2021 เวลา 09:27 • ประวัติศาสตร์
• 5 สงครามสุดแปลกชวน 'อิหยังวะ' ในประวัติศาสตร์
1
• สงครามปารากวัย (Paraguayan War)
สงครามปารากวัย เป็นสงครามที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1864 จนถึง 1870 โดยเป็นการสู้รบกันระหว่างกองทัพปารากวัยกับกองทัพชาติพันธมิตรทั้ง 3 (Triple Alliance) อันได้แก่ บราซิล, อาร์เจนตินา และอุรุกวัย
1
ส่วนที่มาของสงครามนั้น มีที่มาจากการที่ประธานาธิบดีของปารากวัยในช่วงเวลานั้นนามว่า ฟรานซิสโก้ โซลาโน่ โลเปซ (Francisco Solano Lopez) มีความชื่นชอบและคลั่งไคล้ในตัวของนโปเลียน โบนาปาร์ต นายพลผู้ยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก ทำให้เขามีความฝันที่จะยิ่งใหญ่เหมือนกับนโปเลียน จนถึงขั้นที่เขาตั้งฉายาให้กับตนเองว่าเป็นนโปเลียนแห่งอเมริกาใต้
6
ด้วยเหตุนี้ในปี 1864 จู่ ๆ ประธานาธิบดีโลเปซก็ได้ประกาศสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน อันได้แก่ บราซิล, อาร์เจนตินา และอุรุกวัย โดยที่ไม่มีสาเหตุ จนนำไปสู่สงคราม (เชื่อว่าเป็นเพราะโลเปซอย่างจะแสดงให้เห็นว่าเขานั้นเก่งเหมือนนโปเลียนมากน้อยแค่ไหน ส่วนอีกประเด็นหนึ่งก็คือเรื่องพิพาทในเขตแดน)
ผลสุดท้ายเมื่อสงครามจบลงในปี 1870 ปารากวัยก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ ประชากรชายในปารากวัยกว่า 90% ล้มตายไปกับสงคราม ปารากวัยยังตัองเสียดินแดนเป็นจำนวนมาก
6
ส่วนทางด้านนโปเลียนแห่งอเมริกาใต้อย่างประธานาธิบดีโลเปซนั้น ก็ได้สิ้นชีพลงในสมรภูมิรบนั่นเอง
3
• สงครามหมู (Pig War)
สงครามหมู เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับอังกฤษ ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงตุลาคม 1859 ที่เกาะซานฮวน (San Juan) เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกระหว่างพรมแดนของสหรัฐอเมริกากับแคนาดา (แคนาดาเป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ในตอนนั้น)
3
เรื่องของเรื่องก็คือ ในวันที่ 15 มิถุนายน 1859 บนเกาะซานฮวน ได้มีเกษตรกรชาวอเมริกันคนหนึ่งได้ยิงปืนใส่หมูของชาวอังกฤษที่เข้ามาในไร่มันฝรั่งของเขาจนตาย
หลังจากเกิดเรื่อง ทั้งสองฝ่ายได้พยายามตกลงค่าเสียหายกัน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเจรจากันได้ เรื่องราวจากคนเพียงสองคน ก็เลยลุกลามจนกองทัพของทั้งสองฝ่าย ได้ส่งกองกำลังมายังเกาะซานฮวนเพื่อหาข้อยุติ
4
ท้ายที่สุด หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังกันอยู่นานกว่า 4 เดือน ทั้งสองฝ่ายก็ยอมเจรจากัน และถอนกำลังของตนออกไปจากเกาะซานฮวน เป็นอันว่าความขัดแย้งที่เกิดมาจากหมูเพียงตัวเดียว ก็จบลงด้วยประการฉะนี้ (สงครามครั้งนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ยกเว้นหมูตัวต้นเหตุ)
6
• สงครามฟุตบอล (Football War)
สงครามฟุตบอล คือความขัดแย้งระหว่างฮอนดูรัสกับเอลซัลวาดอร์ สองประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอเมริกากลาง ที่เกิดขึ้นในปี 1969
โดยสาเหตุของสงคราม มีที่มาจากความขัดแย้งของทั้งสองประเทศที่เกิดขึ้น และสะสมมาเป็นเวลานาน ทั้งในด้านเชื้อชาติ การแย่งชิงทรัพยากร รวมไปถึงปัญหาที่ชาวเอลซัลวาดอร์จำนวนมาก ได้อพยพเข้าไปอยู่อาศัยและจับจองที่ดินอยู่ในฮอนดูรัส จนทำให้ชาวฮอนดูรัสเกิดความไม่พอใจ (เอลซัลวาดอร์มีขนาดเล็กกว่าฮอนดูรัสถึง 4 เท่า ทำให้ชาวเอลซัลวาดอร์ต้องเข้าไปทำงานและอยู่ในฮอนดูรัส)
2
ซึ่งประจวบเหมาะกับในช่วงต้นปี 1969 ทั้งสองชาติก็ได้มาพบกันในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1970 รอบคัดเลือกอีก ความขัดแย้งของทั้งสองจึงพร้อมที่จะระเบิดทุกขณะ
โดยหลังการแข่งขันฟุตบอลจบลงด้วยชัยชนะของเอลซัลวาดอร์ ก็ได้ทำให้เกิดการจราจลครั้งใหญ่ในฮอนดูรัส ชาวฮอนดูรัสได้ออกมาทำร้าย และเข่นฆ่าชาวเอลซัลวาดอร์ที่อาศัยอยู่ในฮอนดูรัสเป็นจำนวนมาก
3
เหตุนี้เองจึงทำให้เอลซัลวาดอร์ได้ประกาศสงครามกับฮอนดูรัส และได้ส่งกองทัพบุกโจมตีฮอนดูรัส ในวันที่ 14 มิถุนายน 1969 จนนำไปสู่สงครามของทั้งสองฝ่าย
แต่ในที่สุด สงครามก็ยุติลงในวันที่ 20 มิถุนายน 1969 ภายหลังการเจรจากันของทั้งสองฝ่าย ทั้งสองได้ถอนกำลังและยุติสงคราม สงครามฟุตบอลได้ทำให้มีประชาชนของทั้งสองชาติ บาดเจ็บและเสียชีวิตราว 3,000 คน
2
• สงคราม 335 ปี (Three Hundred and Thirty Five Year War)
นี้เป็นสงครามที่เชื่อกันว่ายาวนานที่สุดในโลก แต่สงครามนี้กลับเป็นสงครามที่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือล้มตายเลยแม้แต่คนเดียว?
สงครามนี้ เป็นความขัดแย้งระหว่างเนเธอร์แลนด์กับหมู่เกาะซิลลี่ (Scilly Island) ซึ่งเป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ
สงครามของทั้งสองฝ่ายเริ่มขึ้นในปี 1651 โดยเนเธอร์แลนด์เป็นฝ่ายประกาศสงครามก่อน แต่ทว่าสงครามครั้งนี้กลับไม่ได้จริงจัง เพราะทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ทำการสู้รบใด ๆ เลย (เรียกได้ว่าประกาศสงครามแล้วแต่ไม่ได้รบกัน)
2
จนกระทั่งเวลาผ่านไป เนเธอร์แลนด์ก็เกิดลืมไปแล้วว่า พวกเขาเคยประกาศสงครามกับหมู่เกาะเล็ก ๆ นี้ด้วยหรือ?
3
กาลเวลาล่วงเลยมาถึงปี 1986 ก็ได้มีนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อว่า รอย ดันแคน (Roy Duncan) ได้สืบค้นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และพบว่าเนเธอร์แลนด์เคยประกาศสงครามกับหมู่เกาะซิลลี่มาก่อน
ดังนั้นเขาจึงได้เดินทางไปที่สถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำอังกฤษ เพื่อขอให้เนเธอร์แลนด์ทำการยุติสงคราม ในที่สุดเนเธอร์แลนด์ก็ประกาศยุติสงครามกับหมู่เกาะซิลลี่อย่างเป็นทางการ เป็นอันสิ้นสุดสงคราม 335 ปี ของทั้งสองฝ่าย (ที่ไม่เคยสู้รบกันเลย)
2
• สงครามนกอีมู (Emu War)
นี้เป็นสงครามที่แปลก และไร้สาระมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา กับสงครามนกอีมูซึ่งเกิดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย ในปี 1932
1
เรื่องของเรื่องคือ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ทางการของออสเตรเลียก็ได้ให้เกษตรกรซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารผ่านศึก ไปบุกเบิกพื้นที่เกษตรกรรมที่รัฐเวสต์เทิร์น ออสเตรเลีย (Western Australia) ทางตะวันตกของออสเตรเลีย
แต่ปรากฏว่า พื้นที่แถบนั้นเป็นถิ่นที่อยู่ของนกอีมูนับแสน ๆ ตัว นกอีมูเหล่านี้จึงได้เข้ามาทำลาย และกัดกินผลผลิตทางการเกษตรจนได้รับความเสียหาย ดังนั้นเกษตรกรเหล่านี้ จึงขอความช่วยเหลือจากทางการ เพื่อขอให้จัดการกับนกอีมูพวกนี้ที
1
ทำให้ในเดือนพฤศจิกายน 1932 ทางการออสเตรเลียจึงได้ส่งกองกำลังทหารไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อทำการกวาดล้างนกอีมูให้สิ้นซาก (ที่สำคัญก็คือรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียในขณะนั้น ยังประกาศสงครามกับนกอีมูอีกด้วย!?)
2
แต่ปรากฏว่าปฏิบัติการณ์ดังกล่าวก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า คาดการณ์ว่านกอีมูที่มีจำนวนมากกว่าแสนตัวนั้น กลับล้มตายเพียงแค่พันกว่าตัวเท่านั้น
ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน ทางการออสเตรเลียจึงยุติการกวาดล้างนกอีมู และปล่อยให้พวกมันอยู่อาศัยตามธรรมชาติเหมือนเดิม เรียกได้ว่านกอีมูเป็นฝ่ายชนะสงครามเหนือออสเตรเลียอย่างแท้จริง...
3
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา