22 ส.ค. 2021 เวลา 12:10 • ความคิดเห็น
เล่าประสบการณ์สัมภาษณ์งานครั้งแรกกับคุณพี่ HR จอมโหด เด็กจบใหม่อย่างเรานั่งตัวสั่นหงึก ๆ เลยค่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราได้สัมภาษณ์งานครั้งแรกกับบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่งที่ให้บริการเกี่ยวกับการสอบบัญชี/ภาษีและกฎหมายย่านสาทร จำได้ว่า พอสอบข้อเขียนผ่านแล้ว (เป็นข้อสอบที่ทางบริษัทจัดทำขึ้นมาเอง ไม่มีซ้ำกับที่อื่นแน่นอน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะสอบประมาณสองชั่วโมง แบ่งเป็นพาร์ททดสอบความรู้ภาษาอังกฤษแล้วก็ความรู้เฉพาะทาง)
หลังจากนั้น ก็จะมีพี่ HR โทรมาติดต่อให้เข้าสู่ process ถัดไป นั่นก็คือ การสัมภาษณ์งานกับ HR manager ถ้าผ่านก็จะได้สัมภาษณ์กับพาร์ทเนอร์และพี่ๆ ในทีม
ความจริง เราอยากรีวิวจนจบ process นะ แต่เราไปไม่ถึงฝันจ้า เราจำได้ว่า ตอนนั้นเราตื่นเต้นมากๆ เพราะเป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรก (ไม่รวมฝึกงาน) แถมยังเป็นการสัมภาษณ์งานออนไลน์ที่พี่ HR มากันสองคนแต่พี่เค้าไม่เปิดกล้อง เราเลยไม่รู้ว่าพี่เค้ารู้สึกยังไงกับคำตอบของเรา
การสัมภาษณ์ช่วงแรกก็ค่อนข้างจะเป็นคำถามทั่วไป แต่บรรยากาศกดดัน (มากกกกกกกกก) แล้วก็เน้นภาษาอังกฤษมากๆ สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ช่วงแรกก็จะเป็นคำถามเบสิกทั่วไป เช่น ให้เราแนะนำตัว, ให้เราเล่าประสบการณ์โปรเจคต่างๆให้ฟัง, เรา contribute อะไรในโปรเจคนั้นบ้าง, เราเป็น leader หรือ follower มากกว่ากัน, เรามีข้อดีข้อเสียอะไร, ที่บ้านทำงานอะไร และ เพื่อนเรามองเราเป็นคนยังไง เป็นต้น
มันก็ผ่านมาด้วยดีนะ ถึงแม้ว่าบรรยายกาศมันจะกดดันแปลกๆ แต่มันมาพังตรงที่พี่เค้าบอกว่า ให้อธิบายกฎหมายภาษี XXX เป็นภาษาอังกฤษให้ฟังหน่อยสิ ซึ่งตอนนั้นเราทำไม่ได้ค่ะ เพราะมันมีศัพท์เฉพาะเยอะมากประกอบกับการที่เราไม่ได้เตรียมอธิบายกฎหมายมาเป็นภาษาอังกฤษเลย เราเลยอธิบายแบบตะกุกตะกักสุดๆ จนพี่เค้าบอกว่า “น้องคะ พี่ฟังน้องไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ถ้าน้องไม่ comfortable กับการพูดภาษาอังกฤษ จะพูดเป็นภาษาไทยก็ได้นะคะ” ตอนนั้น บอกเลยว่า ตกใจกับคำพูดของพี่เค้ามากๆ แต่ก็พยายามเก็บอารมณ์ ยิ้มเข้าไว้ ฮึบๆ (แต่ความจริง หนูนั่งขาสั่นหงึก ๆแล้วววค่า แต่ดีนะที่สัมภาษณ์ออนไลน์ ;_;)
หลังจากนั้นก็มีคำถามโหดๆ ตามมาอีก เช่น น้องบอกว่าน้องไม่รู้จักรุ่นพี่ที่ทำงานสาย XXX ที่บริษัทของเราเลย แสดงว่าน้องไม่ค่อยได้คบกับใครเลยเหรอ น้องมีเพื่อนที่มหาลัยบ้างไหมคะ, น้องแข่ง business case มาเยอะ แสดงว่า น้องชอบการแข่งขัน ถ้าพี่รับน้องมา น้องจะคอยแข่งกับเพื่อนร่วมรุ่นหรือคนในทีมไหมคะและก็น้องคาดหวังเงินเดือนที่เท่าไหร่คะ สมมติเราบอก XXX (เรารู้อยู่แล้ว เพราะพี่ HR ที่คุยทางโทรศัพท์เคยบอก) พี่เค้าก็จะบอกว่า ถ้าทางเราให้เท่านั้นไม่ได้ น้องยังจะทำที่บริษัทเราอยู่ไหม ประมาณนี้ค่ะ
หลังสัมภาษณ์ครั้งนั้น เรา self-esteem ตกไปหลายสัปดาห์เลยจ้า ไม่อยากไปสัมฯที่ไหนอีก ไม่อยากพูดอังกฤษแล้วด้วย กลัวคนฟังฟังไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องนี้ก็ให้บทเรียนเราหลายอย่างเลยนะคะ อย่างแรก คือการเตรียมตัวค่ะ ตอนนั้นเราประมาทเองที่ไม่ได้เตรียมตัวอธิบายกฎหมาย version ภาษาอังกฤษไป คิดว่ารอบพี่ HR คงไม่ถามยากขนาดนั้นมั้ง ทั้ง ๆ ที่มันก็ครอบคลุมการทำงานของเรา มันจึงเป็นคำถามที่อาจถูกยกมาถามได้ เราเลยจำเป็นบทเรียนแม่นเลยค่ะ พอไปสัมฯกับที่อื่น เราเลยเตรียมอธิบายกฎหมาย version อังกฤษไปเยอะมาก (แต่พี่เค้าไม่ถามเลยหน่ะสิ5555)
รวมๆแล้ว พี่ HR ไม่ได้โหดเหมือนกันทุกคนนะคะ พี่ HR บางคนก็ใจดี สัมภาษณ์ด้วยแล้วเหมือนได้เปิดโลก ได้แลกเปลี่ยนมุมมอง รู้สึกอยากทำงานที่นั่นทันทีเลย
ใครอยากให้เรารีวิวประสบการณ์สัมภาษณ์งานอีกบอกได้นะคะ ลืมบอกไป เราเป็นเด็กจบใหม่ค่ะ ยื่นไปหลายที่มาก (เกือบร้อย) สัมฯไปประมาณสิบกว่ารอบ เหนื่อยมากกก กว่าจะเจอที่ ๆ เค้าเลือกเราแล้วเราก็เลือกเค้า
จากที่กลัวการสัมภาษณ์งานสุดๆ ขนาดที่เราต้องนั่งฟังเพลงลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ดั่งดอกไม้บาน ~~ แล้วเอายาดมมาป้ายจมูกก่อนเข้าสัมภาษณ์งานตลอด หลังๆ เริ่มชิน ไม่ตื่นเต้นแล้วค่ะ ไม่รู้สึกไรเลย ชิวมากพี่สาว เราว่าการสัมภาษณ์งานมันเหมือนเข้าไปสร้างความประทับใจบวกทำความรู้จักคนใหม่ๆ มากกว่า ถ้าคลิ๊กกันและมันเป็นที่ของเรา ทุกอย่างมันจะง่ายแล้วก็เร็วไปหมดเลยค่ะ
เพื่อนๆ ที่กำลังหางานอยู่ก็อย่าพึ่งท้อนะคะ เราเข้าใจว่ามันกดดันและก็เครียดมากๆ เพราะเราก็โดนปฏิเสธมาเยอะมากเหมือนกันแต่ Just because you’re struggling, doesn’t mean you’ re failing na ka.
#เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังหางานทำอยู่น้า :)
โฆษณา