23 ส.ค. 2021 เวลา 08:15 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น : IF'Worlds ถ้าหากโลก...บท เอาชีวิตรอด
แนว : ระทึกขวัญ, จำลองสถานการณ์
ตอนที่ 1 ถ้าโรคระบาด...(ตอนต้น)
เรื่องย่อ เรื่องราวสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้น ถ้าวันนึงคุณตื่นขึ้นมาในวันที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
ตอนที่ 1 ถ้าโรคระบาด...(ตอนต้น)
ทุกคนมีเหตุผลในการที่ไม่ตื่นเช้าต่างกัน อาจจะเหนื่อยล้า หรือเกียจคร้าน ตัวผมเองก็เช่นกัน เพียงแค่เหตุผลนั้นทำให้อยากหลับไปโดยไม่ตื่นจะดีกว่า.
ยิ่งเวลาสาย แสงแดดก็ยิ่งสาดส่องเข้ามาเหมือนกับจะลากคนที่ยังไม่ตื่นให้ลุกขึ้นมารับความจริงอันโหดร้าย
ผมถูกปลุกขึ้นมาด้วยแสงอันเจิดจ้าราวกับได้รับคำสั่งจากพระเจ้า ว่าจงลุกขึ้น
"อาา ลุกแล้วครับท่าน"
ผมลุกขึ้นจากที่นอนในห้องของตัวเอง ชั้นสองในบ้านสองชั้นขนาดเล็ก
ผมเดินออกจากห้องนอนพลางมองไปรอบข้างที่รู้สึกเงียบกว่าที่เคย บรรยากาศที่ไม่รู้สึกถึงวี่แววของผู้คนภายในบ้าน ผมไม่รู้สึกแปลกใจมากนัก
ซึ่งในเวลาปกติ จะได้ยินเสียงของคนในครอบครัวจากข้างล่าง ถ้าในสถานการณ์ปกติน่ะนะ
ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้ผู้คนติดเชื้อและตายไปเกือบ 20% อีก 50% ของคนบนโลกก็กลายผู้ติดเชื้อและรักษาตัวในโรงพยาบาล
การแก้ไขปัญหาแบบขอไปทีของคนใหญ่โต บวกกับโรคที่พัฒนาขึ้นทุกวัน จนระบาดมาเป็นเวลานานผมพอจะเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตอนนี้ได้แล้วล่ะ
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จและเปลี่ยนร่างจากวัยรุ่นขี้เกียจเป็น นักศึกษามหาลัยคนขยัน ผมก็เดินลงมาชั้นล่างพร้อมแว่นตาคู่ใจ
ซึ่งไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่มีแม้แต่เงาของผู้คนในบ้าน ไม่สิ แม้แต่เสียงรถที่ควรจะวิ่งผ่านหน้าบ้านก็ไม่มีสักคัน ราวกับเวลาถูกหยุดหรือผู้คนหายไปเหมือนกับในหนังแนวไซไฟระทึกขวัญ
ผมจึงหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาสมาชิกในบ้านคนนึงที่คงจะออกไปก่อนผมตื่นแน่ๆ สักครู่ปลายสายก็รับตามด้วยเสียงเหนื่อยและร้อนรน
"พี่เหรอ? สถานการณ์ตอนนี้ แย่มากเลยค่ะ โรงเรียนหนู มีคนเสียสติบุกเข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ เหมือนกับซอมบี้แต่พวกเขามีอาวุธและ ฆ่าทำร้ายทุกคนแบบไร้เหตุผล.."
"อามิ! ได้ทำตามที่พี่บอกหรือเปล่า เธอทำได้ใช่มั้ย"
ผมตอบน้องสาวที่ตอนนี้คง กำลังหนีตายอยู่ที่โรงเรียน ม.ต้น อย่างร้อนรน ผมเองก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ แต่จากนี้ไปคงมีแต่ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ หนูต้องวางสายแล้ว หนูจะรอดไปให้ได้ค่ะ!"
หลังจากนั้นสายก็ตัดไป แล้วมีอีกสายนึงโทรเข้ามาทันที ผมจึงรับทันที
"นาย ตื่นสายอีกแล้วสินะ แต่ช่างเถอะ จะบอกสถานการณ์ตอนนี้ให้สั้นๆ ผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวในโรงบาลเกิดเสียสติคลั่งไล่เลี่ยกัน ก็เลยเกิดความวุ่นวายขึ้นไปทั่วเลยล่ะ ทุกคนเรียกมันว่า 'โรคฆาตกร' ชื่อดูดีนะ ที่เหลือก็ไปดูข่าวเอา ถ้าสัญญาณมือถือกับไฟฟ้ายังใช้การได้ ฉันต้องไปแล้ว"
เจ้าของเสียงนั้นคือ อากิโกะ เพื่อนผมเอง เป็นคนที่แปลกพอสมควร เลยดูไม่ค่อยกลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก
แต่ลองสถานการณ์เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืนแบบนี้ จะปรับตัวยังไงให้เร็วที่สุด ในสถานการณ์ที่มีฆาตรกรเดินไล่ฆ่าคนปกติไปทั่วเมือง มันแย่กว่าซอมบี้ในหนังซะอีก
คุณไม่สามารถเชื่อเหตุการณ์ในหนังได้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง
สัญญาณมือถือถูกตัดไปแล้ว คงเพราะมีการบุกโจมตี ตอนนี้เป้าหมายของผมต้องไปให้ถึงโรงเรียนที่น้องอยู่ มีเวลาอีกสักพัก
ส่วนพ่อกับแม่ พ่อคงอยู่ที่ทำงาน แม่ดูเหมือนจะไปซื้อของอยู่แถวๆนี้ ทันทีที่พูดจบก็มีเสียงคนเปิดประตูบ้านวิ่งเข้ามา
ผมจึงหลบในมุมที่มองเห็นอีกฝ่ายได้ก่อน การหยิบอาวุธหรือต่อสู้นั้นเป็นการกระทำที่มีแต่เสีย ถ้าเรายังไม่รู้ตัวอีกฝ่าย
คนที่เข้ามาใส่หน้ากากปิดครึ่งหน้า แต่ผมสังเกตเห็นคนนั้นเป็นคนที่คุ้นเคย จึงออกมาจากที่ซ่อน
"แม่ ?"
"อากิ ลูกรู้สถานการณ์จาก อามิ แล้วใช่มั้ย? เราต้องรีบไปช่วย อามิ นะ!! ลูกคิดว่ายังไง"
แม่พูดด้วยเสียงที่ตกใจและร้อนรน แต่ยังคงสติไว้ได้
"ครับ สถานการณ์เราตอนนี้เสี่ยงน้อยกว่า พวกนั้นเลือกโจมตีในที่ๆมีคนที่ไม่ติดเชื้ออยู่เป็นจำนวนมาก"
พวกเราต้องแข่งกับเวลา โชคดที่การเดินทางไปยัง โรงเรียน ม.ต้นนั้น ระยะทางไม่ใกลมากเราจึงใช้ทางลัดและเดินเลี่ยงตามตรอกซอกซอย ระหว่างทางก็คอยสังเกตและมองการกระทำอันโหดร้ายของพวกนั้น
สภาพตามถนนนั้นเต็มไปด้วยรอยเลือดที่ถูกลาก และข้าวของที่ถูกทำให้แตกหัก และเสียหาย ดูราวกับสถานที่เกิดเหตุฆาตรกรรม ที่ยังมีฆาตรกรเดินวนไปมา
"แม่คิดว่า พวกนั้นฆ่าทุกคนที่ไม่ติดเชื้อ อยู่ๆก็เข้าโจมตีทันทีด้วยอาวุธในมือ ท่าทางเหมือนกับคนที่กำลังโกรธมากกว่า"
"พวกนั้นดูมีเป้าหมายชัดเจน"
การเดินผ่านสถานที่ใหญ่โตที่มีคนเยอะๆนั้นอันตรายมาก เพราะพวกนั้นแทบไม่ต่างจากคนปกติมีสัมผัสมีความคิดเพียงแค่ใบหน้ายังคงโทรมซีดเหมือนคนป่วยไข้ แต่การเคลื่อนไหวและการทรงตัวนั้นตรงข้ามกัยคนป่วย เหมือนพวกเขาเป็นสัตว์ป่าที่กำลังบ้าคลั่ง..
ผมและแม่เดินทางด้วยความระมัดระวัง เราไม่สามารถรับมือกับพวกนั้นโดยตรงได้ การเข้าไปสู้นั้นคือเข้าหาความตาย
ใช้เวลาเกือบ 20 นาที เบื้องหน้าเราทั้งสองคนที่มองจากตรอกแคบๆ คือโรงเรียน ม.ต้น ที่ บัดนี้ เป็นนรกความวุ่นวายที่ถูกย้อมด้วยสีแดงของเลือด เศษกระจก ซากศพของนักเรียน ผู้คนที่หนีตาย ตำรวจและทหารที่ตั้งด่านยิงต่อสู้ และเหล่าฆาตรกร...
จบตอนที่ 1 ถ้าโรคระบาด...(ตอนต้น)
ติดตามตอนต่อไป
อ่านมาถึงตรงนี้ : ขอบคุณมากที่อ่านนะ
ฝากกดติดตาม : เป็นกำลังใจให้ตอนต่อไป
เราหัดเขียน สามารถแนะนำ ติชม เพื่อผลงานที่ดีขึ้น
โฆษณา