• 5 การประหารชีวิตสุดโหดในประวัติศาสตร์
ในบทความนี้ แอดมินได้ทำการรวบรวมวิธีการประหารชีวิตที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายทารุณมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์มาทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน ขอเชิญทุกท่านพบกับเรื่องราวสยองขวัญปนเสียวไส้ได้เลยครับ
• Impalement เสียบกับเสาไม้ทั้งเป็น
การเสียบทั้งเป็น (Impalement) คือหนึ่งในวิธีการประหารชีวิตและทรมาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายมากวิธีหนึ่ง ว่ากันว่าวิธีการนี้ถูกคิดค้นมาตั้งแต่ราว 1,800 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยของกษัตริย์ฮัมมูราบี (Hammurabi) แห่งบาบิโลน (Babylon)
แต่ทว่ามันกลับมีชื่อเสียงอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 15 เมื่อวลาดที่ 3 แห่งวัลลาเซีย (Vlad III of Wallachia) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ วลาดจอมเสียบ (Vlad the Impaler) ได้นำวิธีการนี้ในการสังหารและทรมานศัตรูของเขา ด้วยชื่อเสียงด้านความโหดร้ายและทารุณของวลาด จึงทำให้เขากลายเป็นต้นแบบสำคัญของปีศาจดูดเลือดอย่างเคาท์แดรกคูล่า (Dracula) อีกด้วย
วิธีการประหารนี้ มีขั้นตอนที่ง่าย ๆ และไม่ซับซ้อน เพียงแค่นำเอาไม้แหลนแหลม ๆ มาเสียบทะลุร่างกายของผู้เคราะห์ร้าย โดนแทงทะลุจากก้นไปจนถึงปาก จากนั้นก็นำไปปักประจานไว้เพื่อให้เกิดความเกรงกลัว โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่จะไม่ตายลงในทันที่ แต่พวกเขาจะทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก เป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือหากโชคร้ายหน่อย พวกเขาจะทรมานอยู่อย่างนั้นนานเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว
ท้ายที่สุดมีการบันทึกว่า วิธีการเสียบทั้งเป็นเช่นนี้ ยังคงถูกนำไปใช้จนถึงช่วงทศวรรษที่ 1920 ในเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวอาร์เมเนีย (Armenian Genocide) โดยฝีมือของชาวตุรกี
• Blood Eagle อินทรีเลือดแห่งชาวไวกิ้ง
นี่คือวิธีการทรมานและประหารชีวิตที่โหดร้ายและทารุณที่สุดของชาวไวกิ้ง (Viking) วิธีการนี้เป็นวิธีที่ชาวไวกิ้งใช้ทรมานรวมถึงประหารนักโทษที่ทำคดีอุกฉกรรจ์ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น การสังหารบุพการีของตนเอง หรือก่อกบฎภายในเผ่า เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นวิธีการบูชายัญให้แก่เทพเจ้าของพวกเขาอีกด้วย
สำหรับขั้นตอนในการทรมานนั้น เริ่มจากจับตัวของนักโทษแล้วตรึงไว้กับแท่น จากนั้นเพชรฆาตจะใช้ขวานศึกผ่าหลังของนักโทษทั้งเป็น พวกเขาจะง้างกระดูกซี่โครงออกมาให้มีลักษณะคล้ายกับปีกของนกอินทรี จากนั้นควักปอดและหัวใจออกมา นักโทษจะทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัญ จากนั้นนักโทษจะถูกปล่อยเอาไว้อย่างนั้น จนกว่าจะสิ้นใจตาย
• Flaying ถลกหนังทั้งเป็น
การถลกหนังทั้งเป็น (Flaying) เป็นหนึ่งในวิธีการประหารชีวิตที่มีความเก่าแก่มากที่สุด เชื่อกันว่าวิธีการนี้ถูกคิดค้นขึ้นในราว 900 ปีก่อนคริสตกาล ในจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ (Neo Assyrian) วิธีการนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุโรปช่วงยุคกลาง นอกจากนี้ยังถูกนำใช้ในจีน รวมถึงยังเป็นวิธีการบูชายัญของชาวแอซเทค (Aztec) ในเม็กซิโกอีกด้วย
การประหารจะเริ่มจาก มัดนักโทษไว้กับที่นอนหรือเสาไว้ จากนั้นเพชรฆาตที่มีความชำนาญเกี่ยวกับมีด จะค่อย ๆ เฉือนผิวหนังของนักโทษออกช้า ๆ กระบวนการดังกล่าวจะค่อยเป็นค่อยไป เพราะต้องการไม่ให้นักโทษตายในทันที พวกเขาต้องการให้นักโทษทรมานและตายลงอย่างช้า ๆ
เมื่อทำการถลกหนังเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะนำผิวหนังของนักโทษไปแขวนประจานไว้ ส่วนนักโทษจะถูกปล่อยทิ้งเอาไว้อย่างนั้นจนกว่าจะตาย ซึ่งส่วนใหญ่จะตายเพราะการติดเชื้อและเสียเลือด โดยนักโทษและเหยื่อส่วนใหญ่ที่ถูกทรมานด้วยวิธีการนี้ มักจะโดนในข้อหาแข็งข้อต่อทางการ รวมถึงพวกนอกรีต อีกด้วย
• Ling Chi หั่นทั้งเป็น
หลิง ฉือ (Ling Chi : 凌遲) คือวิธีการประหารชีวิตที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายและทารุณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน ถ้าแปลความหมายแบบตรงตัวแล้ว หลิง ฉือ แปลว่า "ความตายโดยการหั่นเป็นพันชิ้น" หรือ "ความตายอย่างช้า ๆ" วิธีการที่สุดแสนโหดร้ายนี้มีการบันทึกว่า ถูกคิดค้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) ในราวศตวรรษที่ 7 นอกจากนี้ยังได้รับการเผยแพร่ไปยังดินแดนรอบ ๆ ข้าง อาทิ เกาหลี และเวียดนามอีกด้วย
โดยนักโทษที่จะต้องถูกโทษอันแสนทรมานนี้ จะเป็นผู้กระทำผิดในข้อหาที่ร้ายแรงมาก อาทิ วางแผนปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ก่อกบฏต่อแผ่นดิน รวมถึงเข่นฆ่าบุพการีของตนเอง เป็นต้น เหตุนี้เองที่ทำให้ชาวจีนเชื่อว่า พวกเขาเรานั้นจะต้องได้รับโทษที่โหดร้ายสาสมกับสิ่งที่พวกเขากระทำ
การประหารจะเริ่มจาก แห่ประจานนักโทษไปยังลานประหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะทำการประหารต่อหน้าสาธารณชน จากนั้นนำตัวนักโทษมัดกับเสาไว้
จากนั้นเพชรฆาตก็จะเริ่มนำมีดหั่นและเฉือนร่างกายของนักโทษทั้งเป็น เพชรฆาตจะเริ่มตัดมือ แขน เท้า และขาของนักโทษ จากนั้นจึงค่อยๆ เฉือนอวัยวะส่วนต่าง ๆ ก่อนปิดท้ายด้วยการตัดศีรษะ และควักหัวใจของนักโทษออกมา เป็นการปิดฉากวิธีการแสนทารุณนี้
(เป้าหมายสำคัญของ หลิง ฉือ คือการทำให้นักโทษตายให้ช้าที่สุด บางครั้งเพชรฆาตจะให้นักโทษเสพฝิ่น เพื่อให้นักโทษเจ็บปวดน้อยที่สุด)
การประหารด้วยวิธีการนี้ ชาวจีนยังเชื่อว่าจะทำให้นักโทษไม่ได้ผุดได้เกิดอีกด้วย เพราะ ตามความเชื่อของลัทธิขงจื๊อแล้ว ร่างกายของมนุษย์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิ่งที่พ่อแม่ให้มา ดังนั้นการถูกตัดอวัยวะออกมา หรือตายโดยอวัยวะไม่ครบ จะทำให้นักโทษไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย
มีการบันทึกว่า หลิง ฉือ ถูกยกเลิกและถูกนำไปใช้เป็นครั้งสุดท้ายในราวปี 1905 ซึ่งเหยื่อรายสุดท้ายคือ ทาสรับใช้ที่สังหารเจ้าชายมองโกลผู้ซึ่งเป็นเจ้านายของเขาเอง ซึ่งการประหารดังกล่าวมีการบันทึกเป็นภาพถ่ายไว้ด้วย (ไม่แนะนำให้ไปหาดู เพราะภาพจะติดตา)
• Hanged Drawn and Quartered
แขวนคอ ควักไส้ และผ่าสี่
นี่คือโทษประหารชีวิตที่โหดร้ายและทารุณที่สุดของอังกฤษ โดยมีการบันทึกว่าเริ่มต้นขึ้นในราวศตวรรษที่ 13 โดยใช้สำหรับนักโทษที่ก่อคดีร้ายแรงมาก เช่น ก่อกบฏและวางแผนปลงพระชนม์กษัตริย์ เป็นต้น วิธีการประหารดังกล่าวถูกนำไปใช้ที่อังกฤษยาวนานกว่า 500 ปี จนกระทั่งได้ยกเลิกลงในราวศตวรรษที่ 18
การประหารด้วยวิธีนี้ จะแบ่งขั้นตอนประหารออกเป็น 3 ขั้นตอนย่อย โดยขั้นตอนแรกเพชรฆาตจะนำนักโทษไปแขวนคอ (Hanged) แต่จะยังไม่ให้นักโทษตายก่อน หลังจากนั้นจะนำขวานผ่านักโทษทั้งเป็น และควักอวัยวะภายในของนักโทษออกมา (Drawn : ส่วนใหญ่นักโทษจะสิ้นใจตายตั้งแต่ขั้นตอนนี้แล้ว)
หลังจากนั้น เพชรฆาตจะนำขวานผ่าแยกร่างกายของนักโทษออกเป็น 4 ส่วน (Quartered) เป็นการสื้นสุดวิธีการประหารแบบ 3 ขั้นตอนอันโหดร้ายนี้ (บางครั้งอาจจะมีการใช้ม้า ในการแยกร่างของนักโทษแทน)
โดยเหยื่อที่มีชื่อเสียง ซึ่งโดนประหารด้วยวิธีการนี้มีอยู่มากมายหลายคน อาทิ วิลเลียม วอลเลซ (William Wallace) วีรบุรุษชาวสกอตที่ต่อสู้กับอังกฤษ , กาย ฟอกซ์ (Guy Fawkes) ผู้วางแผนปลงพระชนม์พระเจ้าเจมส์ที่ 6 (James VI)
รวมถึง โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ (Oliver Cromwell) ผู้นำฝ่ายรัฐสภาในช่วงสงครามกลางเมือง ผู้ลงนามให้สำเร็จโทษพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 (Charles I) ที่ศพของครอมเวลล์ถูกขุดขึ้นมาจากสุสาน แล้วนำไปประหารด้วยวิธีการนี้ เป็นต้น
*** Reference
#HistofunDeluxe
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
