24 ส.ค. 2021 เวลา 09:32 • ประวัติศาสตร์
สตรีผู้เลอโฉม ธิดาเจ้า(พ่อ)เมืองเพชร
เจ้าจอมสกุลบุนนาค พระสนมผู้เลอโฉม
ธิดา เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์
หลานปู่ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์
เจ้าจอมแส บุนนาค ..
1
รูปเจ้าจอมแส บุนนาค
สกุลบุนนาค มีบทบาทด้านการเมืองการปกครองในเพชรบุรีอย่างยาวนานถึง 60 ปี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 5 สกุลบุนนาคทรงอิทธิพล ต่อทอดอำนาจอย่างยาวนาน แม้ว่ารากเหง้าเดิมของคนสกุลบุนนาค มาจากแหล่งอื่น แต่ได้มาอยู่เพชรบุรีอย่างยาวนาน บุตรหลานจึงได้กลายเป็นคนเพชรบุรีโดยชาติกำเนิด เรียกว่า “สกุลบุนนาคสายเพชรบุรี”
“ อนึ่งการต่อท่อในทำนองสืบทอดอำนาจในสกุลบุนนาค ต้องเข้าใจก่อนว่าห้วงเวลานั้น อยู่ในห้วงการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิ์ราช
เจ้าเมืองในขณะนั้นมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีข้อยกเว้นก็เพียงสั่งประหารชีวิต และนี่คือผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองเพชรตัวจริงเสียงจริงในสมัย ร.5
(เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์) เป็น เจ้าเมืองเพชรบุรี เป็นเวลาถึง 26 ปี “
บุตรชายและธิดาจำนวนหนึ่งของ เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ ได้นับเนื่องเป็นชาวเพชรบุรี เพราะถือกำเนิดที่จวนเจ้าเมือง เติบโตได้รับการศึกษาขั้นแรกที่เมืองเพชรบุรี
ธิดาและหลานของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ ที่ได้ทรงโปรดฯ เป็นพระสนม มีทั้งสิ้น 8 ท่านด้วยกัน (ลูก7คน) (หลาน1คน)
1
เจ้าจอมแส บุนนาค คือ 1 ใน 7คน ของธิดาเจ้าเมืองเพชร สกุลบุนนาค (ทั้ง7คนเป็นธิดาเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์) (เป็นหลานปู่ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ดิศ บุนนาค) และที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ “เจ้าจอมสกุลบุนนาค” สร้างความสะท้อนสะเทือน เป็นที่กล่าวขานจากตำหนักฝ่ายในและข้าราชบริพารตำหนักฝ่ายใน โดยเรียกเจ้าจอมกลุ่มนี้ว่า “เจ้าจอมก๊กออ”
1
“เจ้าจอมก๊กออ”
เป็นชื่อที่ใช้เรียกพระสนมเอกทั้งห้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีนามขึ้นต้นด้วยอักษร อ. อ่าง อันได้แก่ เจ้าจอมมารดาอ่อน, เจ้าจอมเอี่ยม, เจ้าจอมเอิบ, เจ้าจอมอาบ, และ เจ้าจอมเอื้อน ซึ่งทั้งหมดเป็นบุตรีของ เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์
“ เจ้าจอมแส บุนนาค เป็นน้องสาวต่างมารดาของเจ้าจอมก๊กออ ”
เป็นที่ยอมรับประจักษ์แก่คนทั่วไปว่า เจ้าจอมแส งดงาม สง่า เลอโฉมยิ่งนัก ทว่า ความงามภายในของท่านยิ่งสะอาด ปราศจากมลทินใดๆ จริยา จริยวัตร ปฏิบัติของท่านเป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีชาววัง สมเกียรติยศในฐานะเจ้าจอมพระสนมของพระเจ้าแผ่นดินสยาม (รัชกาลที่ 5) ทุกประการ
2
ประวัติ เจ้าจอมแส บุนนาค
เจ้าจอมแส บุนนาค ท่านเกิดที่เมืองเพชรบุรี เมื่อวันที่15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2435 เป็นบาทบริจาริกาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าจอมแสเกิดจากหม่อมทรัพย์ เป็นชาวลาวโซ่ง อยู่ที่บ้านท่าโล้ อ. ท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ด้วยเหตุนี้เจ้าจอมแสจึงมีสมญาว่า เจ้าจอมโซ่ง ตามชาติพันธุ์ของมารดา
1
บรรพชนลาวโซ่งนี้ถูกกวาดต้อนจากเมืองแถง และเมืองลอ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศเวียดนาม) ตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี จนถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งโปรดเกล้าให้ชาวโซ่งตั้งหลักแหล่งที่เมืองเพชรบุรี มีเรื่องราวเล่าขานต่อๆกันมาว่าเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าเมืองเพชรบุรี เกิดจิตพิศวาสอยากได้หม่อมทรัพย์ ลูกสาวกำนันลาวโซ่งบ้านท่าโล้ไปทำเมีย จึงเอ่ยปากขอกำนันลาวโซ่งเสียดื้อ ๆ กำนันจึงบ่ายเบี่ยงและต่อรองว่า ให้เอาวัวคู่งามไปแทน แต่อย่าเอาลูกสาวไปเลย และเมื่อการร้องขอไม่สำเร็จ เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์จึงส่งคนในสังกัดจับลูกสาวกำนันขึ้นเกวียน นำตัวเข้ามายังจวนของตน ครอบครัวกำนันลาวโซ่งท่าโล้จึงได้แต่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่หลายวันหลายคืน
2
เมื่อเจ้าจอมแส มีอายุถึงวัยสาว จึงเข้ามาอยู่กับเจ้าจอมเอิบ (เจ้าจอมก๊กออ) ที่พระราชวังสวนดุสิต วันหนึ่งเจ้าจอมแสกำลังอาบน้ำอยู่ที่หน้าเรือนเจ้าจอมเอิบ เป็นเวลาพอดีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5 ทรงเสด็จผ่านมาถึงหน้าเรือนเจ้าจอมเอิบ จึงทรงทอดพระเนตรเห็นเจ้าจอมแสที่กำลังอาบน้ำอยู่ ทรงพอพระทัยในความงามของเจ้าจอมแสในเวลาต่อมาจึงทรงตรัสขอเจ้าจอมแสจากเจ้าจอมเอิบ ซึ่งในขณะนั้นเจ้าจอมแสมีอายุได้ 16 ปี เจ้าจอมเอิบจึงนำตัวเจ้าจอมแสขึ้นถวายตัวต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลานั้นเป็นช่วงปลายรัชกาล เจ้าจอมแสจึงมีโอกาสถวายงานไม่นานนัก (และไม่มีลูก) อย่างไรก็ตามท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าจอมผู้ติดตามใกล้ชิด ในตำแหน่งนางพระกำนัล
3
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 ชีวิตของเจ้านายในวังก็เปลี่ยนแปลงไป เจ้าจอมแสจึงได้ย้ายออกมาพำนักอยู่นอกพระราชวังดุสิต มีบ้านพักผ่อนที่ย่านสนามเป้า หลังจากนั้นจึงซื้อที่ปลูกบ้านที่ซอยนรอุทิศ ย่านราชวัตรเมื่อ พ.ศ. 2475 โดยอยู่กับอินทิรา บุนนาค ซึ่งเป็นหลานชาย และเลี้ยงดูลูกหลานของอินทิราตลอดมา
เจ้าจอมแส ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2521 เมื่ออายุ 86 ปี ตรงกับรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อัฐิของท่านถูกบรรจุในเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ในสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ติดกับเจดีย์ของเจ้าจอมเอิบ และมีสถูปบรรจุอัฐิที่วัดสวัสดิ์วารีสีมาราม ที่ลูกหลานของท่านสร้างไว้เป็นอนุสรณ์ใกล้บ้านที่ท่านอยู่จนวาระสุดท้ายของชีวิต
ชีวิตส่วนตัว
เจ้าจอมแส เป็นผู้ที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อย พูดจาไพเราะ ไม่เคยโกรธขึ้งหรือเกรี้ยวกราดผู้ใดเลย รักการทำบุญ ใส่บาตรทุกวันพระ และทุกวันที่ใส่บาตรจะห่มสไบหรือผ้าห่มทับเสื้อตัวนอกอีกที ในเรือนของเจ้าจอมแสจะมีห้องที่ถวายแก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านจะทำความสะอาดห้องนี้ด้วยตนเอง และในบางคราเจ้าจอมแสตั้งเครื่องเสวยถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ่าจอมแสท่านชอบสีไวโอลินและตีขิม ชอบเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะสุนัขและนกพิราบ ปลูกต้นมะลิมาร้อยเป็นพวงมาลัยถวายพระและถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทุกวัน
1
เว็บไซต์
#เพชรบุรีรีวิว
#PhetchaburiReview
1
กลุ่ม เพชรบุรี รีวิว
โฆษณา