25 ส.ค. 2021 เวลา 02:00 • บ้าน & สวน
“บ้านหน้าจั่ว” หลังงามที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง ตัวบ้านดูทันสมัยด้วยความไม่สมมาตรของหลังคา พร้อมคงเอกลักษณ์ความเป็นบ้านต่างจังหวัดไว้ด้วย “ชาน” เพื่อสะท้อนรูปแบบความสุขของการได้ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และแมกไม้เขียวชอุ่ม อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านดูกลมกล่อมขึ้นคือพื้นไม้สักที่สามารถหาได้ง่ายในพื้นที่และหาซื้อได้ในราคาถูก
ไม่ว่าจะเข้ามาทำงานที่เมืองกรุงนานแค่ไหนความคิดถึงคะนึงหาช่วงเวลาและความทรงจำในวันวานยังคงอบอวลอยู่ที่บ้านเกิดเสมอมา คุณแนน - เปรมจิตร  ซาเนียร์  ฟอร์เซลล่า จึงตัดสินใจสร้างบ้านหลังที่สองสำหรับเป็นบ้านตากอากาศที่ภูมิลำเนาเดิมในจังหวัดแพร่ จังหวัดเล็กๆ ในภาคเหนือที่ยังเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันเรียบง่าย
เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์และคงความรู้สึกของการไปมาหาสู่เหมือนการกลับไปเยี่ยมบ้านในครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา บ้านหลังใหม่จึงเลือกตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับบ้านหลังเดิมที่คุณแนนอยู่อาศัยและเติบโตมาตั้งแต่เด็กกับครอบครัว ซึ่งตอนนี้คุณพ่อคุณแม่และพี่สาวยังอยู่อาศัยในบ้านหลังเดิมโดยวางใจให้สถาปนิกจาก JAI Architect&Interior มาเป็นผู้รังสรรค์ความต้องการให้กลายเป็นบ้านสุดอบอุ่น
เนื่องจากตำแหน่งของบ้านเดิมตั้งอยู่ค่อนข้างกลางที่ดิน ทำให้เมื่อแบ่งที่ดินออกเป็นสองผืนตามกรรมสิทธิ์ของพี่น้อง ที่ดินที่ได้จึงมีลักษณะแคบและยาว ผู้ออกแบบจึงเลือกวางตัวอาคารติดกับกำแพงในแนวขนานกับทิศตะวันออกและตะวันตก ซึ่งด้านที่ติดกับบ้านหลังเดิมนั้นกลับเป็นด้านทิศตะวันตก กลายเป็นความท้าทายที่ต้องจัดวางพื้นที่ใช้สอยหลักของบ้านให้มีปฏิสัมพันธ์กับบ้านเดิม
ไปพร้อมๆ กับแก้ปัญหาเรื่องแสงแดดในช่วงบ่ายที่มักเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน
หลังจากสำรวจบริบทประกอบกับความต้องการ ผลลัพธ์ที่ได้จึงออกมาเป็น“บ้านหน้าจั่ว” ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง แต่ยังเจือกลิ่นอายของความทันสมัยด้วยความไม่สมมาตรของหลังคา ทั้งยังคงเอกลักษณ์ความเป็นบ้านต่างจังหวัดไว้ด้วย“ชาน” เพื่อสะท้อนรูปแบบความสุขของการได้ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และแมกไม้เขียวชอุ่มในบริเวณโดยรอบบ้านเดิมไว้อย่างเด่นชัด
อีกประเด็นที่ขับความเป็นไทยให้ชัดยิ่งขึ้นคือการจัดลำดับการเข้าถึงความเป็นส่วนตัว โดยไล่จากพื้นที่ชานขนาดใหญ่ทำหน้าที่เชื้อเชิญผู้มาเยือน ซึ่งในที่นี้ยังทำหน้าที่เป็นชานอเนกประสงค์เชื่อมพื้นที่ใช้ชีวิตหลักของบ้านเข้ากับบ้านหลังเดิมอีกด้วย เมื่อเข้ามาภายในบ้านขนาด 150 ตารางเมตรหลังนี้ ส่วนแรกจะพบกับโถงสูงโปร่งโล่ง ทำหน้าที่เป็นห้องนั่งเล่นที่สามารถเชื่อมต่อมุมมองไปยังส่วนต่างๆ ของบ้านได้โดยรอบ ซึ่งในส่วนนี้สถาปนิกได้ออกแบบฟาซาดในรูปแบบของบานเลื่อนเกล็ดไม้ขนาดใหญ่ 3 บานบริเวณขอบชานคอนกรีตที่สามารถเลื่อนสลับไป-มาระหว่างโถงกลางบ้าน กับห้องนอนได้เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวหรือบังแดดในเวลาที่ต้องการ
พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือพื้นที่ดับเบิลสเปซเป็นพื้นที่กึ่งพับลิกอย่างโถงนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และอีกฝั่งที่มีความสูงชั้นครึ่งตามความลาดเอียงของหลังคาจัดให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัว โดยครัวถูกวางไว้หน้าสุดของบ้านใกล้กับชานอเนกประสงค์หน้าบ้านเพื่อสะดวกต่อการใช้งานในยามมีแขกเหรื่อมาบ้าน
นอกจากความโปร่งของสเปซแล้ว บ้านหลังนี้ยังออกแบบมาให้อยู่สบาย สังเกตได้จากช่องแสงจรดฝ้าเพดานเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติจากด้านบนการกั้นพื้นที่ภายนอกกับภายในด้วยบล็อกช่องลมที่ยอมให้อากาศไหลผ่าน ส่งผลให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ตลอดทั้งวัน สามารถอยู่อาศัยได้แบบไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ ประกอบกับรูปทรงหลังคาจั่วแบบไม่สมมาตรที่ทิศตะวันตกทำด้าน
หลังคาทอดมายาวกว่า เพื่อแก้ปัญหาความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านดูกลมกล่อมและอบอุ่นคือพื้นไม้สักที่สามารถหาได้ง่ายในพื้นที่และยังสามารถหาซื้อได้ในราคาถูก รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่คุณแนนชื่นชอบและเลือกเองกับมือทุกชิ้น ช่วยแสดงตัวตนของการเป็นบ้านในใจของคุณแนนได้ชัดเจนและลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ
เจ้าของ : คุณเปรมจิตร  ซาเนียร  ฟอร์เซียร่า
สถาปัตยกรรม : JAI Architect & Interior 
วิศวกรโครงสร้าง : คุณนาถปรัชญ์  ปิ่นปราณี
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3rejvGK
 
เรื่อง : foryeah!
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล
คลังสาระความรู้เรื่องบ้านและพรรณไม้ยังมีอีกมากมาย
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ www.baanlaesuan.com
โฆษณา