25 ส.ค. 2021 เวลา 08:12 • ท่องเที่ยว
Blausee .. ใบไม้เริงระบำที่ Bern, Switzerland
ก่อนเดินทางมาที่สวิสต์เซอร์แลนด์ .. ฉันไม่ได้มีความคาดหวังอะไรมากไปกว่าการได้ออกเดินทางไกลอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเยียวยาตัวเองจากเวลาที่มีเหลือเฟือ หวังเพียงจะได้บันทึกความแตกต่างผ่านเลนส์กล้อง แล้วเก็บไว้ในความทรงจำ
หลังจากหลายวันที่ระหกระเหินไปตามเส้นทางที่ยาวไกล ฉันได้พบกับดินแดนที่สวยงามอย่างยิ่ง ได้มองเห็นดวงตาดวงใหม่ ได้แบ่งปันความยินดีและความฝัน ในดินแดนแห่งความสวยงามของธรรมชาติที่แฝงไว้ด้วยพลังเต็มเปี่ยม
Love to travel … travel to love … การเดินทางทุกครั้ง จึงซึ่งอาจจะมิได้หมายถึงการเก็บข้าวของลงเป้แล้วออกเดิน … หากแต่เป็นการเดินทางของชีวิต การบรรลุความปรารถนาและชะตากรรมของตนเอง การเดินทางจึงได้ขยายความเข้าใจ และแน่นอนมันได้ช่วยหล่อหลอมจิตวิญญาณของเราด้วย
สวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศในฝันอันดับต้น ๆ ในยุโรป .. ด้วยสภาพภูมิประเทศที่โดดเด่นแปลกตา การเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัย ผู้คนที่น่ารัก รวมถึงธรรมชาติที่เปี่ยมเสน่ห์ งดงามเกินกว่าคำบรรยาย เหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย
Blausee .. “เบลาเซ” .. เป็นจุดหมายในการเดินทางไปเยือนของเราในวันนี้ค่ะ
“เบลาเซ” .. แปลว่าทะเลสาบสีฟ้า ตั้งอยู่ใกล้ๆกับแม่น้ำ Kander บนความสูงราว 887 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในเขต Berner Oberland ระหว่าง Kandersteg และ Frutigen ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ไกลจากเมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง Interlaken มากนัก
ที่นี่เป็นทะเลสาบเล็ก ๆ ห้อมล้อมด้วยป่าที่ได้รับการดูแลและจัดการอย่างดี .. มีชื่อเสียงโด่งดังก้องโลกจาก น้ำในทะเลสาบ ที่มีสีฟ้าใสมากๆ เหมือนผลึกอัญมณี จนมองเห็นเงาสะท้อน สีสันของต้นไม้ที่แปรเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล และปลา Trout ที่แหวกว่ายอยู่ในภายในทะเลสาบขนาดย่อมแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน จนในปี 1887 ได้ชื่อว่า "jewel of a landscape immersed in magical forest solitude"
เราไปเยือน Blausee ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง .. ด้านหลังป้ายทางเข้า คือ จุดหมายที่เราเฝ้าคอยว่าจะสวยงามขนาดไหน และจะประทับใจอย่างที่เราเห็นในภาพก่อนเดินทางมาเยือนหรือไม่
ทางเดินเล็กๆขนาบด้วยหินหลายขนาด ที่ปกคลุมด้วยมอสสีเขียวสวยมากๆ เป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ ความชุ่มชื้นของพื้นที่ ซึ่งอาจจะหายากมากในบ้านเรา ..
ทั้งสองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ที่ทะยานนำละต้นพุ่งตรงสู่เบื้องบน และสิ่งที่ทำให้เราตื่นตา ตื่นใจมากมาย คือ ใบไม้สีแดง ส้ม เหลืองทองที่โดดเด่น .. พลังที่ส่งมาจากธรรมชาติรอบข้าง .. เราสัมผัสได้ไม่ยาก
สุดทางเดิน เรามาถึงบริเวณที่เปิดเข้าสู่ด้านในของ Blausee .. คาดคะเนจากสายตา พื้นที่นี้เราสามารถเดินได้รอบพื้นที่แบบสบายๆ เพราะขนาดไม่ใหญ่โตนัก พอดีๆกับคนในวัยนี้สามารถเดินลัดเลาะชมทัศนียภาพ และถ่ายรูปได้สบายๆ
เราเดินไปตามทางเดิน และไปยืนบนสะพานที่เชื่อมสองฝั่งของลำธาร .. ณ จุดกึ่งกลางของสะพาน ภาพที่ ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้น คือ ความงดงามอย่างที่หาไม่ได้จากที่อื่น .. ทะเลสาบเล็กๆที่ไม่ลึกนัก (ส่วนที่ลึกที่สุด ก็พียง 10 เมตรเท่านั้น) สามารถมองเห็นพื้นทะเลสาบผ่านน้ำที่ใสมากได้โดยง่าย
น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าเทอร์คอยส์ สะดุดตา ต้องใจมากๆ .. สีฟ้าที่สวยแบบฟ้าเข้มจนเกือบจะเหมือนสีน้ำเงินใสๆ รายล้อมเป็นป่าใบไม้สีแดง ส้ม เหมือนกรอบสวยๆที่ขับให้ทะเลสาบโดดเด่น โดยเฉพาะเมื่อผ่านภาพถ่าย
สวยมากมาย เกินกว่าจะบรรยายให้ใกล้เคียงกับภาพที่เห็นในสายตา .. เราจึงตกหลุมรักทะเลสาบแห่งนี้ตั้งแต่แรกพบ ชนิดที่ไม่ต้องพยายามเลยค่ะ
ว่ากันว่า .. Blausee ตังอยู่ใกล้ๆตาน้ำใน Kander Valley ที่พุ่งขึ้นมาจากใต้พื้นดิน ที่ทำให้น้ำเมื่อกระทบกับแสงจึงมีสีฟ้าเข้มดังที่เห็น
อย่างไรก็ตาม ยังมีตำนานพื้นบ้านที่ได้เล่าขานต่อๆกันมา
ตำนานพื้นบ้านเล่าขานเอาไว้ว่า .. สีเทอร์คอยส์ของน้ำมาจาก น้ำตาของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่สูญเสียคนรักไป
Once upon a time .. หนุ่มสาว คู่รักคู่หนึ่ง มักจะมาเจอกันที่ทะเลสาบแห่งนี้เป็นประจำ แต่อยู่มาวันหนึ่งฝ่ายชายได้ตายจากไป หญิงสาวจึงมาร้องไห้คร่ำครวญ คนึงหาถึงคนรักที่จากไป ณ ทะเลสาบแห่งนี้ จนน้ำในทะเลสาบกลายเป็นสีฟ้าจากน้ำตาของนาง .. ความรักที่มั่นคง ลึกซึ้ง และรันทดใจของทั้งคู่ ยังอยู่คู่กับทะเลสาบแห่งนี้มาเนิ่นนาน
ภาพของกลุ่มคนในเรือลำน้อยพื้นกระจก ที่มีหนุ่มร่างกายกำยำค่อยๆจ้วงน้ำเพื่อเคลื่อนนำนักท่องเที่ยวเข้าไปชมธรรมชาติที่งดงามรอบตัวช้าๆ เหมือนภาพวาดในโปสการ์ดที่เราเคยเห็น และจินตนาการได้ไม่ยากว่า คงเปี่ยมความสุขอย่างยิ่ง
เราเดินวนรอบทะเลสาบได้โดยลัดเลาะตามทางเดินเล็กๆ ดื่มด่ำกับภาพวิวทิวทัศน์ของใบไม้หลากสีสันไปเรื่อยๆ .. ความงามในมุมต่างๆมีความสวยงามแปลกตา แทบจะไม่ซ้ำกันในแต่ละมุม จึงเป็นความรื่นรมย์มากมายในการเดินชมและถ่ายภาพ
ฤดูกาลใบไม่เปลี่ยนสี เนรมิตให้ภาพพืชพรรณรอบๆ สีแดง ส้ม ชมพู เหลือง สลับเขียวอ่อน ในช่วงที่เราไปเดินนั้นสวย .. อีกทั้งแสงแดดใสๆในวันฟ้าเปิด ทำให้ริ้วน้ำบนพื้นผิวทะเลสาบเปล่งแสง เป็นประกายระยิบระยับ
ภูเขาสูงด้านหลัง ขับให้อาคารขนาดย่อมบนฝั่งริมทะเลสาบโดดเด่น .. ภาพสะท้อนน้ำล้อกับป่าสีสวย งดงามไร้คำบรรยาย หากแต่เหมือนฉากจินตนาการในเทพนิยายที่มีป่าสวยๆ จนอยากจะแปลงกายเป็นนางในจินตนาการ แล้วเข้าไปค้นหาความหัศจรรย์ในป่าปริศนาแห่งนี้
ใบไม้สีน้ำตาลทอง .. เป็นความงามที่ประสานกันได้อย่างลงตัวกับทะเลสาบสีฟ้า จนเราต้องก้าวเข้าไปเก็บภาพประทับใจให้ไหลช้าๆผ่านเลนส์กล้อง
สวรรค์บนดิน … เป็นคำเปรียบเปรยที่คนเรารู้สึกและนึกขึ้นมาได้วูบหนึ่ง ในขณะที่ได้เห็นหรือสัมผัสกับอะไรก็ได้ที่มันสวยงาม .. นี่คือหนึ่งในพื้นทีที่โดดเด่นและงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ให้ความรู้สึกของความไม่สิ้นสุด ความเป็นหนึ่งเดียว และความสมดุล
ภูเขาสูงตระหง่านที่อาบไล้ด้วยแสงอาทิตย์ส่องสาด แลเห็นหลืบเงามืดและด้านสว่างของภูเขาที่ปกคุมด้วยต้นไม้สีสดหลายสี .. ภาพวิวทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้า ตามสายตาที่ทอดยาวไปกว้างไกล สร้างความรู้สึกโปร่งโล่งและเป็นอิสระ สร้างความรู้สึกสดชื่นไร้ขอบเขตที่ส่องสะท้อนเข้ามาในใจของเรา ผู้พิศมอง
พื้นที่ที่จัดไว้ให้ผู้คนเข้ามาเก็บเกี่ยวความรื่นรมย์ได้แบบทั้งครอบครัว .. บรรยากาศเหมือนพื้นที่ปิกนิก มีเตาปิ้งย่างพร้อมฟืนครบครัน สำหรับประกอบอาหาร หรือปิ้งปลาเทร้าต์ที่ตกได้ในทะเลสาบ เป็นฉากธรรมชาติที่เปี่ยมสีสัน ในจังหวะสบายๆ
.. มีพื้นที่สันทนาการสำหรับเด็กๆ หรือผู้ใหญ่ที่ยังมีหัวใจเป็นเด็ก ได้เข้ามาทำกิจกรรมสนุกๆ สันทนาการ
ลึกเข้าไปในพื้นที่ระหว่างภูเขาโอบล้อม .. มีธารน้ำหลากไหลพัดพาสรรพชีวิตให้เคลื่อนไหวเหมือนบทเพลงที่มากมายด้วยท่วงทำนองและจังหวะแห่งชีวิต ... มีสะพานขนาดเล็ก ที่เติมให้ภาพในสายตาสมบูรณ์แบบ
หากทิวทัศน์สวยงามช่วยให้จิตใจของคนเราเบาสบายขึ้นจริง ฉันก็อยากให้เวลาหยุดนิ่งไว้เนิ่นนาน ณ ตอนนี้ … เพระใจฉันกำลังสบายกับการชื่นชมคงามงดงามของธรรมชาติรอบๆตัว จนลืมภาพวันธรรมดาๆที่แสนวุ่นวายในเมืองใหญ่ มาเดินแบบสบายๆในสไตล์นักท่องเที่ยวเต็มขั้น
Blausee ยังเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลาเทราต์ออร์แกนิค ปลอดสารพิษ และเป็นขนาดที่โตเต็มวัยแล้ว คุณภาพดีเยี่ยมแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ และเปิดให้ตกปลาได้ด้วยค่ะ ..
ในช่วงที่เราไปเยือน บรรยากาศของ Blausee รื่นรมย์มาก .. เราจึงเห็นคนสวิสส์ค่อนข้างมาก ที่มาใช้ช่วงเวลาดีๆในการตั้งแคมป์ และทำกิจกรรมครอบครัวกันที่นี่
เมื่อมาถึงแห่งเลี้ยงปลาปลาเทราต์ออร์แกนิคที่มีชื่อเสีง เราจึงแวะเข้าไปทานอาหารกันที่ภัตตาคารที่อยู่ติดกับทะเลสาบ .. และแน่นอนค่ะ หนึ่งในเมนูที่ไม่พลาด คือ ปลาเทร้าส์ค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง .. เป็นฤดูที่โรแมนติก
ฉันจึงไม่เคยเบื่อที่จะกลับไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ … มองดูกลีบสีทองของต้นไม้รูปทรงระเหิดระหง ปลิวตามสายลมอ่อน ร่วงหล่นลงมาที่ตัก … เป็นความงดงามของสัจจะธรรมที่ว่า มีเกิด มีพบ ก็ต้องมีพลัดพราก
ความงดงามของ Blausee ในฤดุใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้เราอดคิดและฉงนใจ จนต้องถามตัวเองว่า .. Blausee ในฤดูอื่นๆจะงดงามแบบนี้ไหมหนอ
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา