25 ส.ค. 2021 เวลา 10:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
บนโลกของเราเต็มไปด้วยสถานที่ทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจมากมาย บางสถานที่โด่งดังจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่กลับกันบางสถานที่บางแห่งก็ถูกซ่อนไว้ซึ่งน้อยคนนักที่จะมีคนรู้จัก
6
หนี่งในนั้นก็คือ Rhythmic Spring บ่อน้ำพุที่ไหลเป็นจังหวะตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองอัฟตัน ในบริเวณหุบเขาสวิฟต์ครีก รัฐไวโอมิง ประเทศสหรัฐอเมริกา
3
โดยบ่อน้ำพุแห่งนี้มีจุดเด่น คือ น้ำจะไหลออกมาจากช่องแคบในหุบเขาประมาณ 15 นาที จากนั้นน้ำก็จะหยุดไหลจนแห้งไปอีก 15 นาที และจะกลับมาไหลใหม่อีกครั้งวนเวียนต่อไปไม่รู้จบ จนมันได้ฉายาว่า “บ่อน้ำพุที่หายใจได้”
วันนี้พาเพลินจะมาไขข้อสงสัย ถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติของบ่อน้ำพุแห่งนี้กัน
ใครเป็นผู้ค้นพบบ่อน้ำพุแห่งนี้..?
แต่เดิมทีไม่มีใครเคยสังเกตความผิดปกติของบ่อน้ำพุแห่งนี้มาก่อน จนกระทั่งมีคนตัดไม้รายหนึ่งมาพบมันเข้าในขณะเข้ามาทำงานในพื้นที่นี้ เขาเพียงแค่ต้องการไปหาน้ำดื่มและก็พบว่าน้ำพุขนาดใหญ่แห่งนี้ จู่ ๆ ก็หยุดไหล จากนั้นมันก็เริ่มไหลอีกครั้งในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
วัฏจักรการไหลของน้ำพุแห่งนี้เหมือนกับการเปิด-ปิดสวิตช์ตัวเองอยู่แบบนั้น ซึ่งมันถือว่าเป็นบ่อน้ำพุที่มีความแปลกแตกต่างจากบ่อน้ำพุธรรมดาทั่วไป
(SOURCE : https://www.youtube.com/watch?v=_wo-GRoVSO4)
ถึงแม้ว่าบนโลกของเราจะมีบ่อน้ำพุในลักษณะนี้อยู่บ้าง แต่ Periodic Spring ในไวโอมิง คือ บ่อน้ำพุแบบหยุดไหลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับสาเหตุการไหลของน้ำพุที่ผิดปกติยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัด 100% แต่ก็มีทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับในขณะนี้โดยระบุว่า การก่อตัวทางธรณีวิทยาภายในถ้ำใต้ดินที่มีลักษณะคล้ายกับ “กาลักน้ำ” เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การไหลของน้ำพุมีความผันผวน
กระบวนการเกิดของบ่อน้ำพุแห่งนี้..
1
เริ่มต้น : น้ำจากแหล่งน้ำที่อยู่ใต้ดินจะไหลมารวมกันบริเวณถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ (Cave - Reservoir) แต่น้ำจะไหลออกมาภายนอกได้ จะต้องผ่านอุโมงค์แคบ ๆ (Siphon) ที่อยู่สูงกว่าปากทางบ่อน้ำพุ
2
(SOURCE : www.shorturl.at/guKQX)
เมื่อน้ำไหลเข้ามาเรื่อย ๆ จนถึงระดับสูงสุด ก็จะทำให้เกิดภาวะกาลักน้ำ (Siphon) ที่ดูดน้ำจากถ้ำใต้ดินออกมาทางบ่อน้ำพุ จนกระทั่งระดับน้ำลดลงจนถึงจุดที่อากาศไหลเข้าไปสู่อุโมงค์ทางออก น้ำก็จะหยุดไหลจนกว่าระดับน้ำภายในถ้ำใต้ดินจะกลับขึ้นมาสูงอีกครั้ง
ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-18 นาทีต่อรอบ หรือโดยเฉลี่ยแล้วก็คือ 15 นาทีนั่นเอง
“เราไม่สามารถนึกถึงทฤษฎีอื่น ๆ ได้เลย ยกเว้นเพียงแค่ทฤษฎีนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น” ศจ.คิป โซโลมอน (Professor Kip Solomon) อุทกวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยยูทาห์กล่าว
1
ศจ.คิป โซโลมอน (SOURCE : https://loop.frontiersin.org/people/410305/overview)
“ตอนนี้ปริมาณก๊าซของน้ำพุได้รับการตรวจสอบจากทางมหาวิทยาลัยแล้ว ข้อมูลแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าน้ำมีการสัมผัสกับอากาศใต้ดิน ซึ่งสนับสนุนทฤษฎีกาลักน้ำอย่างมาก”
2
ส่วนใครที่วางแผนจะไปชมน้ำพุแห่งนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต คุณอาจต้องเดินทางไปในช่วงปลายฤดูร้อนจนไปถึงฤดูใบไม้ร่วง เพราะมันเป็นช่วงระดับน้ำใต้ดินลดลงและทำให้เกิดน้ำพุที่ไหลออกเป็นครั้งคราวแบบนี้เท่านั้น
(SOURCE : www.shorturl.at/guKQX)
ทริคน่ารู้
กาลักน้ำ (syphon หรือ siphon) เป็นวิธีการถ่ายเทของเหลวจากที่สูงลงไปสู่ที่ต่ำอย่างต่อเนื่องโดยผ่านตัวกลางคือ ท่อ หลอดหรือสาย โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าช่วยแต่อย่างใด ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกันที่เกิดกับบ่อน้ำพุแห่งนี้
ลองไปชมคลิปบ่อน้ำพุแห่งนี้กัน แล้วคุณจะได้เห็นภาพของมันมากขึ้น : https://www.youtube.com/watch?v=_wo-GRoVSO4
ที่มา : www.shorturl.at/hpsE5
ภารกิจของเรา : คือการเติมความอยากรู้ของคุณด้วยการแบ่งปันข้อเท็จจริง หากคุณมีหัวข้อที่ต้องการให้เราพูดถึงและพูดคุย คอมเม้นท์ส่งข้อความถึงเราได้ตลอดเวลา
1
โฆษณา