บทความนี้มาพูดถึงเรื่องการสมัครงานว่ามีวิวัฒนาการไปถึงไหนกันแล้ว เรายังยึดติดกับการที่ต้องทำเรซูเม่แบบเดิม ๆ อยู่หรือเปล่า
ทุกวันนี้องค์กรไหนไม่ปรับตัวถือว่าอยู่ยากขึ้นทุกวัน เพราะตั้งแต่มีโรคโควิด-19 เข้ามาทำให้เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตใหม่ไปเกือบทั้งหมด (New Normal)
หมายความว่าการใช้ชีวิตในแบบเก่า ๆ จะค่อย ๆ ถูกกลืนหายไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำธุรกรรมต่าง ๆ เราไม่จำเป็นต้องเดินเข้าไปชำระเงินด้วยตัวเอง แต่แค่ใช้โทรศัพท์มือถือก็สามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นได้แบบสะดวกสบาย
การรับสมัครเข้าทำงานในองค์กรใดองค์กรหนึ่งก็เช่นกัน ถ้าเป็นในยุคก่อนจะประกาศทางหนังสือพิมพ์หรือส่งประกาศไปตามที่ต่าง ๆ ผู้สมัครส่งจดหมายสมัครงาน ส่งประวัติส่วนตัว
บัณฑิตจบใหม่บางคนก็ส่งข้อมูลกิจกรรมที่เคยได้ทำสมัยเรียนแนบไปด้วย เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะแสดงทักษะของผู้สมัคร
(SOURCE : https://www.hhcpa.com)
รู้หรือไม่? ...การกรอกใบสมัครแบบนี้มีช่องโหว่ในการที่จะรับพนักงานเข้ามาทำงานอย่างมากเพราะอาจทำให้ผู้สัมภาษณ์งานรับพนักงานเข้ามาทำงานมีความลำเอียงและมีการใช้ความรู้สึกของตัวเองรับเข้าทำงาน
นั่นอาจทำให้รับพนักงานเข้ามาแบบไม่มีประสิทธิภาพ และยังทำให้การทำงานเป็นทีมในองค์กรเสียหายไปด้วย
ทว่ายุคนี้การสมัครงานเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป มีเว็ปไซต์การจัดหารงานมากมายเป็นสื่อกลางในการหางาน เช่น Job108, jobbkk มีข้อมูลของผู้สมัครงานเป็นล้าน ๆ คนมีความสะดวกต่อผู้ใช้งานและไม่ต้องเสียเวลาในการยื่นเอกสาร หรือเดินทางมาสมัครงานด้วยตัวเองให้เสียค่าใช้จ่าย
การสมัครงานในยุคดิจิทัลนี้มีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพราะองค์กรจะมีการพัฒนาโดยใช้โปรแกรมที่ถูกเขียนและพัฒนาให้มีความฉลาด มีความสามารถ คิดวิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้
จากการประมวลผลของฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และยังสามารถดัดแปลงการประมวลผล ประยุกต์ให้เป็นไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ หรือเราอาจคุ้นหูกันโดยที่เรียกว่าระบบ AI (Artificial Intelligence)
AI (Artificial Intelligence) คือ ระบบที่จะเข้ามามีบทบาทและมีความสำคัญในการทำงานในยุคดิจิทัล เป็นโปรแกรมที่ประมวลผลข้อมูลที่แม่นยำ และโปรแกรม AI แลจะเข้ามาช่วยตัดสินใจแทนผู้สัมภาษณ์งานได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น
เช่น ที่ญี่ปุ่นเริ่มคัดเลือกบุคลากรโดยใช้ AI เพื่อให้ได้คนตามที่ต้องการ
โดยที่ประเทศญี่ปุ่นพัฒนาไปอีกขั้นเพราะหลายบริษัทเริ่มใช้ AI เข้ามาในการรับสมัครงาน การใช้ AI ในการคัดกรองเรซูเม่ของผู้สมัครนับหมื่นจะช่วยให้ HR ลดเวลาทำงานได้มากถึง 75%
(SOURCE : https://www.marketingoops.com/tech-2/japan-firms-use-ai-to-recruit-talent)
แต่การใช้ AI เป็นการใช้งานเพียงบางส่วน สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ HR ยังเป็นผู้ตัดสินใจที่จะเลือกพนักงานเข้าทำงาน เนื่องจากการรับสมัครงานจะมีเรื่องของนโยบายและมาตรฐานการสรรหาบุคลากร
เพื่อช่วยให้เกิดความเป็นกลางในการจ้างงาน AI จึงถูกนำมาใช้เฉพาะงานที่ต้องทำซ้ำและทำในปริมาณมาก
แต่ถึงกระนั้น AI ก็ยังมีข้อเสียในเรื่องของการประเมินอุปนิสัยของผู้สมัครงาน ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรได้
สรุป
ระบบ AI มีส่วนช่วยลดอคติในการคัดเลือกผู้สมัครได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก AI คัดเลือกผู้สมัครจากข้อกำหนดตามที่องค์กรตั้งไว้ โดยไม่มีอารมณ์เหมือนมนุษย์มาเกี่ยวข้อง จึงเป็นการเพิ่มความชัดเจนและความยุติธรรมให้กับผู้สมัครงาน
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลว่าหากใช้ AI ในการคัดกรองพนักงาน จะทำให้ได้พนักงานที่ขาดลักษณะความเป็นมนุษย์และเหมือนกับหุ่นยนต์มากเกินไป ดังนั้น จึงยังมีความจำเป็นต้องใช้มนุษย์ในการคัดสรรด่านสุดท้าย ซึ่งจะช่วยลดความกังวลดังกล่าวได้
- 34
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
