26 ส.ค. 2021 เวลา 15:41 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง : มนต์รักข้ามภพ
เขียน : CORDIA
หมวด : นิยายรักผู้ใหญ่
ตอนที่ 8
เข็มฉีดยา
**หมายเหตุ อาจมีการตัดเนื้อหาที่ล่อแหลม18+ ออก
เดือนแรมนอนหอบหายใจเหนื่อย มันทั้งสุข ทั้งเหนื่อย หมื่นทิศล้มตัวฟุบหน้าลงซอกคอขาว เม็ดเหงื่อผุดขึ้นกับแผ่นหลัง เขาเบาลมใส่ใบหูขาว ทำให้เดือนแรมย่นคอหนี เธอนึกถึงวันข้างหน้าที่อาจจะเกิดเรื่องหนักอกหนักใจให้ต้องลำบาก เธอกำลังมีสัมพันธ์สวาทกับคู่หมั้นของพี่สาว ช่างสารเลว เนรคุณยิ่งนัก กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา
เธอจะไม่ถูกตราหน้าว่าแย่งคนรักพี่สาวหรอกหรือ มารดาของเธอก็เป็นเมียรองแย่งความรักท่านพ่อจากท่านหญิงเทียน หญิงสาวคิดมากจนผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
หมอธาดาปล่อยให้แม่ปรางเมียเด็กนั่งรอนอนรอในห้องผู้ป่วยที่เธอเคยพักรักษาตัว เขาไม่ใช่เจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้แต่ก็เป็นหุ้นส่วนที่ถือหุ้นมากกว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์  ทุกคนในโรงพยาบาลจึงเกรงใจและให้ความเคารพนับถือเขา
"พยาบาลน้ำฝน" ธาดาเรียกหาพยาบาลสาว ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของห้องตรวจ มีผนังกั้นระหว่างห้องตรวจกับห้องพบหมอ
พยาบาลน้ำฝนหน้าเปื้อนยิ้มเดินเข้ามาวันนี้พอรู้ว่ามีเวรตรงกันกับหมอหนุ่มเธอจึงเลือกใส่เสื้อที่ตัวเล็กกว่าปกติ กับกระโปรงสั้นเหนือเข่า
"อยากได้อะไรหรือคะหมอ" น้ำฝนส่งสายตาที่สื่ออารมณ์ความต้องการให้หมอหนุ่ม ธาดามองอย่างไม่ใส่ใจนัก เขาไม่ตอบรับคำเชิญชวนทางสายตาของเธอ
"ฟู๊ดคอร์ดโรงพยาบาลมีอะไรอร่อยบ้างครับ"
"แล้วคุณหมออยากกินอะไรล่ะคะ น้ำฝนจะได้บอกถูก"
"อืม งั้นผมขอสุกี้น้ำทะเลที่หนึ่ง แล้วก็ต้มยำกุ้งน้ำข้นกับข้าวเปล่า นี่ครับไม่ต้องทอน" ธาดายื่นธนบัตรสีเทาหนึ่งใบส่งให้
น้ำฝนถึงแม้จะแปลกใจที่ธาดาสั่งอาหารหลายอย่าง สั่งมากินกับใคร อีกอย่างเขาไม่เคยทานข้าวที่โรงพยาบาลเลย แต่ก็ยอมรับเงินแล้วไปซื้อมาให้ เธอสั่งราดหน้าหมี่กรอบของชอบให้ตัวเอง ไม่วายป่าวประกาศในหมู่เพื่อนพยาบาลของตนเองว่าหมอธาดาเลี้ยงข้าวด้วย ทุกคนพอได้ยินต่างอิจฉาน้ำฝนที่ได้ใกล้ชิดกับหมอหนุ่มรูปหล่อ แถมรวยอีก มากกว่าพยาบาลคนอื่น
​           น้ำฝนเดินออกจากห้องไปสักพัก ธาดาจึงลุกขึ้นหยิบถาดสเตนเลสที่มีหลอดฉีดยาเดินออกจากห้องไป เขาปล่อยให้ปรางอยู่ตามลำพังตั้งแต่บ่ายสอง จนเวลาล่วงเลยมาเกือบห้าโมงเย็น เธอคงจะหิวมากแล้ว
ตั้งใจว่าจะว่าจะเข้ามาฉีดยาให้เธอตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาลแต่คนไข้รอตรวจเยอะกว่าที่คิด ธาดาจึงปล่อยให้เธอรอเขาไปก่อน ธาดาเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยที่มีเมียเด็กของเขานอนคลุมโปงอยู่บนเตียง อุณหภูมิในห้องเย็นเฉียบเขาคาดเดาว่าหญิงสาวคงหนาวและไม่รู้วิธีปรับเพิ่มอุณหภูมิ เขาจึงเดินไปหยิบรีโมทแอร์และจัดการปรับอุณหภูมิให้เธอใหม่
"ปราง" ธาดาหย่อนก้นลงที่ข้างตัวเธอ ที่นอนขดใต้ผ้าห่มผืนบางของโรงพยาบาล
"ตัวเย็นขนาดนี้เลยหรือ ทำไมไม่ออกไปหาผมที่ห้องตรวจ" เขาเอ่ยถามขณะเลิกผ้าห่มที่คลุมศีรษะเธอออก
"พี่หมอหนูออกไปแล้วค่ะ แต่เห็นคนเยอะเลยกลับเข้าห้อง" เขาแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดู เธอคงรู้สึกเกรงใจเขาที่กำลังตรวจอาการคนไข้อยู่จึงไม่อยากรบกวน คุณหมอหนุ่มขยับและล้มตัวลงนอนเคียงข้างกายสาว ดึงรั้งร่างบางมากอดซุกอกให้ความอบอุ่นกับเธอ
"หายหนาวหรือยัง" กระซิบถามข้างหู
"ค่ะ"
"หิวไหม ผมสั่งอาหารไว้เดี๋ยวทานข้าวที่นี่นะ"
"ค่ะ" เธอเขินอายทุกครั้งที่ใกล้ชิดเขา และยิ่งเขาทำตัวอ่อนโยนใส่เธอ เธอยิ่งใจอ่อนยอมสนองเขาอยู่ร่ำไป
ธาดานอนกอดเธออยู่ชั่วครู่ เขาเองก็เหนื่อยและปวดเมื่อยจึงถือโอกาสได้นอนพักสายตาชั่วครู่ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง เอื้อมมือหนานุ่มหยิบถาดยามาวางที่ตักกว้าง ปรางมองมันอย่างสนใจ เมื่อครั้งที่เธอนอนอยู่โรงพยาบาลเขาจับเธอฉีดยาแค่วันแรกที่เธอนอนหมดสติ หลังจากนั้นจึงให้เป็นยาทาน
"เข็มฉีดยา" เขาบอก แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่ม จับลำแขนเรียวกางออกยื่นมาทางเขา แล้วชูเข็มฉีดยาขึ้นใช้นิ้วโป้งกดดันให้น้ำพุ่งเล็กน้อยเพื่อไล่อากาศ
"ท่านจะทำอะไรหรือคะ" เธอรู้สึกกลัว และสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เจ้าแท่งกระบอกใสที่มีเข็มแหลมตรงปลายนั้น ให้ความรู้สึกวูบวาบในร่างกาย เธอไม่ชอบมันเลย อยากจะชักแขนกลับแต่ก็ถูกมือใหญ่รั้งไว้
"ฉีดยาให้หนูไงครับ เจ็บเหมือนมดกัดแค่นิดเดียวเองนะ" หมอธาดาพูดกับเธอเหมือนพูดกับเด็กสี่ห้าขวบที่แม่พามาให้หมอฉีดยาให้
ปรางมองทุกการเคลื่อนไหวของเขา ปลายแหลมนั้นกำลังจิ้มลงมาที่แขน แม้จะดูธรรมดามากเมื่อเทียบกับมีดบาด แต่ทำไมเธอถึงไม่สามารถทนดูได้ ลอบกลืนน้ำลายที่หนืดเหนียวลงคอ หลับตาปี๋ อื้อ.....
"ท่านหมอปดข้า" เธอร้องครางเสียงดัง ตอนจิ้มเจ็บดังมดกัด หากแต่ตอนฉีดยาเข้าไปเจ็บคล้ายมีดกรีด
"เดี๋ยวก็หาย ผมไม่ได้โกหกหนูนะ เดี๋ยวนอนรอข้าวไปก่อนนะ ผมขอเอาอุปกรณ์ไปเก็บก่อน" เธอพยักหน้าอย่างเกี่ยงงอน ล้มตัวลงนอนตะแคงข้างหันหลังให้เขา "ทำตัวน่ารักแบบนี้ กลับบ้านไปเดี๋ยวจะเจอเข็มใหญ่"
ธาดามันเขี้ยวขโมยหอมแก้มนิ่มจากด้านหลัง พร้อมแกล้งพูดให้เธอกลัว หญิงสาวหันขวับกลับมามองด้วยสายตาไม่พอใจ ธาดายักไหล่แย้มยิ้มไม่ใส่ใจเดินถือถาดอุปกรณ์ไปเก็บและรออาหารจากน้ำฝน
ธาดาเข้ามาอยู่ในห้องทำงานของตนเอง เอื้อมมือเปิดลิ้นชักที่ข้างโต๊ะ หยิบผ้าแพรสีเปลือกข้าวกับผ้าถุงสีเขียวเข้ม เป็นผ้าที่ปรางใส่ในวันแรกที่เขาเจอเธอ เข็มขัดเงินลายถักแปลกตาที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เคยถ่ายรูปส่งให้เพื่อนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับเงิน ได้ความว่าเป็นของหายากในปัจจุบัน ลายถักของเข็มขัดมีมาตั้งแต่สมัยโบราณหรือในยุคกรุงศรีอยุธยา หญิงสาวชนชั้นสูงจะนิยมมีเครื่องประดับแบบนี้
และนี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เขาเชื่อว่าปรางหญิงสาวแสนประหลาดที่ข้ามภพข้ามชาติมาอยู่ในอนาคต และหมอธาดายังใช้เวลาว่างอันน้อยนิดค้นหาเรื่องมหัศจรรย์ของมนุษย์ที่สามารถทะลุมิติจากอีกภพชาติหนึ่ง ไปอีกภพชาติได้หรือไม่ เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบและยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนใดออกมายืนยัน เป็นไปได้หรือที่คนจะสามารถทะลุมิติได้ เคยแต่เห็นในหนัง ทวิภพเอ่ย บุพเพสันนิวาสเอ่ย ถ้าเกิดขึ้นในชีวิตก็โคตรปาฏิหาริย์แล้ว
ผ่านไปเกือบสามสิบนาที พยาบาลน้ำฝนก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง เธอส่งยิ้มหวานละลายใจหนุ่ม แต่มันไม่ละลายใจหมออย่างเขาแน่นอน เพราะคนที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของเขานอนรอมื้อเย็นที่ห้องข้าง ๆ น้ำฝนเดินอ้อมมานั่งบนโต๊ะในท่าไขว้ท่าด้วยความที่กระโปรงมันสั้นเกินพอดีต้นขาอวบอั๋นของเธอจึงโผล่ออกมาให้ธาดาได้มองเห็น เขาเบือนสายตา
"เย็นนี้หมอว่างไหมอ่ะคะ" น้ำฝนใส่จริตยั่วหมอ ลากเสียงหวานที่แอ๊บเสียงจนเกินงาม หมอหนุ่มยิ้มไม่เต็มใบหน้า
"ผมมีนัดแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับที่ลงไปซื้อของอร่อยมาให้กิน" ธาดาหมอหนุ่มรูปหล่อโปรยเสน่ห์ให้พยาบาลสาว
"หือ หมอขา น้ำฝนคิดถึงหมอมากเลยนะคะ ติดใจจนอยากต่อกับหมออีก" เธอย้ายก้นตัวเองไปหาตักกว้าง ธาดาผละออกเล็กน้อยทิ้งแผ่นหลังพิงแนบกับพนักเก้าอี้
"วันนี้มีคนมาด้วย โทษทีนะครับผมคงไปกับคุณไม่ได้ ทานข้าวเย็นให้อร่อยนะครับ"
ธาดาจับเธอลุกขึ้น แล้วเขาก็ลุกตามไม่ปล่อยให้น้ำฝนเป็นต่อหรือท้วงติงอะไร เขารีบเลือกหยิบถุงอาหารที่เป็นของตนเอง แล้วเดินออกจากห้องไปเพราะมีคนรอกินข้าวอยู่ เธอมองตามหลังอย่างสงสัยและอยากรู้ว่าใครที่มากับหมอ
ปรางยืนเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ริมหน้าต่าง ป่านนี้ท่านพ่อท่านแม่จะเป็นอย่างไร คงทุกข์ใจแสนสาหัสที่เธอหายตัวไป และตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะหาทางกลับบ้านได้หรือไม่ หากกลับไปแล้วการแต่งงานจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่ ในเมื่อเธอไม่ใช่สาวพรหมจรรย์แล้ว เธอมีสามีแล้ว การแต่งงานระหว่างเธอกับหมื่นทิศไม่ได้เกิดจากความรักแต่จำต้องแต่งงานตามที่ผู้ใหญ่ได้พูดคุยกันไว้แต่ต้น เธอเป็นลูกที่อยู่ในโอวาทจึงไม่สามารถจะขัดคำสั่งของบิดาและมารดาได้
"อุ๊ย!" ปรางโดนสวมกอดจากด้านหลัง เธออุทานออกมาเบา ๆ เธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเขา จึงหันไปส่งยิ้มให้
"ทำตัวน่ารักอีกแล้ว เดี๋ยวได้จับกินแทนข้าวเสียหรอก" ฉกหอมแก้มนิ่มอย่างอดใจไม่ไหว การมีเมียเด็กก็ทำให้หมอธาดาวัยสามสิบปลายรู้สึกกระชุ่มกระชวยมาก ปรางเอียงหน้าหลบแก้เขินถึงแม้จะไม่พ้นก็ตาม
"หนูหิวแล้วค่ะ"
"หือ หิวผมเหรอ" ธาดาเย้าแหย่เมียเด็ก เขาอยากมีปรางข้างกายแบบนี้ไปตลอดเลย
"ข้าวค่ะ หิวข้าว มีอะไรกินบ้างหรือคะ ข้าวผัดหมูมีไหมคะ"
"กินทุกวันไม่เบื่อหรือไง วันนี้มีต้มยำ กับสุกี้" หมอถามยิ้ม ๆ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเกือบสองสัปดาห์เธอกินข้าวผัดหมูแทบทุกวัน
"ต้มยำ กับสุกี้ มันหน้าตาเป็นเยี่ยงไรหรือคะ"
เธอมองเขาแกะถุงอาหารเทใส่ถ้วย สีของอาหารแดงแจ๋จนดูไม่น่ากินเสียเลย แต่กลิ่นของมันทำให้น้ำย่อยในกระเพาะของเธอร้องเสียงดังให้อับอาย หมอธาดายิ้มขำดึงตัวหญิงสาวมานั่งลงที่เตียงหว่างขาของเขา เธอมองดูแล้วไม่น่าจะใช่ท่าที่จะสามารถนั่งกินข้าวได้ถนัดพยายามจะลุกไปนั่งอีกด้านแต่เขาไม่ยอม ยังบังคับอ้อนให้เธอป้อนข้าว
"อร่อยไหมครับ ต้มยำกุ้งน้ำข้นที่โน่นมีไหมครับ" ที่โน่นของหมอน่าจะหมายถึงยุคที่เธอจากมา
"ไม่มีค่ะ มีแต่ต้มยำไก่ใส่ใบมะขามอ่อน ต้มยำขาหมู สิ่งนี้ก็ไม่มีค่ะ" นิ้วเรียวชี้ไปที่ถ้วยสุกี้น้ำสีแดงมีเส้นใส ๆ ลอยบวมเบ่งในน้ำดูน่ากลัว แต่ถ้าไม่มองตรงนั้นก็เป็นอาหารที่อร่อยมาก
การได้ซดน้ำร้อน ๆ ทำให้คลายความเหน็บหนาวในร่างกายไปได้บ้าง ปรางทำหน้าที่ป้อนข้าวให้เขาอย่างเอาใจ แม้จะได้มอบจูบเป็นรางวัลบ้างก็ตาม ความเปรี้ยวแซ่บของอาหารถูกความหวานเลี่ยนของหมอธาดากลบจนหมด แม้จะกินข้าวกันจนอิ่มแต่หมอธาดาก็ไม่ยอมปล่อยปรางไปไหน ถึงแม้เธอจะเก็บถ้วยชามเข้าไปล้างในห้องน้ำ ธาดากระซิบบอกข้างใบหูว่าขอกำลังใจก่อนไปทำงานหน่อย
​​​           เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อบีบเคล้นทรวงอกที่ยังมียกทรงห่อหุ้มอุ้มเต้างามทั้งสอง เธอไม่ได้ปัดป้องหรือขัดขืนกลับยอมให้เขาทำตามอำเภอใจ เพราะธาดาคือสามีเธอจึงต้องปรนนิบัติ ธาดาจูบชอนไซร้ซอกคอขาวขบเม้มติ่งหูน้อย ๆ ให้เธอจั๊กจี้เล่น เธอเริ่มมีอารมณ์คล้อยตามไปกับเขาที่เป็นผู้ชักชวนเธอ ชายหนุ่มบีบจับคลึงเต้านมให้แรงขึ้นตามอารมณ์ปรารถนา หญิงสาวหันมาเผยอปากรับจูบเร่าร้อนของเขา เธอเรียนรู้ไวใช้ลิ้นเกี่ยวตวัดหยอกเอินกับเขา
ธาดาส่งเสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจในตัวเมียเด็ก หัวไวใช้ได้แถมยังชื่นชมที่เธอสามารถปรับตัวเข้ากับยุคสมัยใหม่แม้จะเงอะงะตัดขัดไปบ้าง ดูไปก็น่ารักดี
"พี่หมอไม่ต้องทำงานแล้วหรือคะ" เธอคุยกับเขาขณะเอนตัวลงนอนมีเขาคร่อมทับอยู่ด้วยบน ถูกจูบจนปากบวมขึ้นสีแดงระเรื่อ ดูเซ็กซี่ยั่วยวนใจเขานัก
"ก็บอกว่าขอกำลังใจไงครับ ตัวหนูหอมไม่ต่างจากวันแรกที่เราเจอกันเลยนะ" นิ้วเรียวยาวของหมอหนุ่มเริ่มทำการปลดกระดุมเสื้อของคนใต้ร่างออกทีละเม็ด
"หนูใช้น้ำปรุงค่ะ น้ำปรุงที่ทำขึ้นมาเอง ท่านแม่เป็นคนสอนค่ะ"
"น้ำปรุง ไม่เคยได้เห็นฮะ น้ำปรุงกับน้ำหอมที่ผมใช้เหมือนกันไหม"
"น้ำปรุงกับน้ำอบคล้ายกัน ใช้เหมือนกับน้ำหอมของฝาหรั่งค่ะ แต่น้ำหอมของฝาหรั่งมีกลิ่นแรงฉุนสูดดมแล้วเวียนหัว"
"อ๋อ เข้าใจแล้วครับ" เหมือนได้คำตอบที่พึงพอใจแล้ว ธาดาโน้มตัวแนบริมฝีปากเข้าด้วยสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก สำรวจด้านในอย่างที่เคยทำ แล้วดูดลิ้นเธอเข้ามาในปากตนเอง อยากให้เธอทำเหมือนที่เขาสอนบ้าง เขาชอบที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกเหมือนเราได้แลกเปลี่ยนความสุขซึ่งกันและกัน ปล้ำถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายของเขาและเธอ ปรางเขินอายที่ร่างกายไร้อาภรณ์ปกปิด แม้แต่ผ้าห่มก็ถูกเหวี่ยงลงข้างเตียง
"สวยมาก เป็นทุกอย่างที่เพอร์เฟคมากครับ" เขามองสำรวจร่างกายของคนตรงหน้า ใช้นิ้วสะกิดยอดอกเธอเล่นจนมันแข็งชันเป็นไต ปรางมองเขาด้วยสายตาดุเธอยังไม่พอใจนักที่ถูกกลั่นแกล้ง
"หนูปรางคือเมียของหมอธาดา ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หนูเป็นเมียผม" เขาย้ำเตือนเธออีกครั้งก่อนจะมอบจูบแสนหวานให้เธอ เนิ่นนาน
น้ำฝนเดินตามหาหมอธาดาทั่วทั้งชั้นแต่ไม่พบ ถามใครก็ไม่มีใครเห็น หายไปไหน ขณะเดินผ่านห้องผู้ป่วยที่แขวนป้ายห้ามรบกวน เธอนึกเอะใจว่าห้องนี้ไม่มีผู้ป่วยนอนรักษาตัวนี่นา ใครมาแขวนป้ายเล่น น้ำฝนเอื้อมมือปลดป้ายห้อยนั้นออกกำลังจะเปิดประตูเอาป้ายเข้าไปเก็บ
แต่ช่องกระจกของประตูที่อยู่ระดับสายตาทำให้น้ำฝนมองเห็นอะไรบางอย่าง เหมือนเตียงมันสั่นขยับไปมา พอเอาหูแนบกับประตูเพื่อตั้งใจฟัง ได้ยินเสียงครวญครางพร้อมกับเสียงกระแทกของเตียง เธอตัดสินใจค่อย ๆ เปิดแง้มประตูเข้าไปดูว่าสองคนที่กำลังร่วมรักกันเป็นใคร
"หมอธาดา" เธออุทานออกมาเบา ๆ แม้จะเห็นเพียงด้านข้างเธอก็จำได้ดีว่าใคร พยายามมองให้เห็นใบหน้าของผู้หญิงที่นอนอยู่
"นี่มัน" คนไข้ที่คุณหมอช่วยไว้นี่เอง
น้ำฝนเดินออกจากห้องด้วยความขุ่นเคืองหมองใจ ที่แม่สาวสติไม่ดียังอยู่ในความดูแลของธาดา เธอนึกว่าผู้หญิงคนนี้กลับบ้านไปนานแล้วไม่คิดว่าจะได้กลับมาเจอกันอีก แถมยังมานอนอ้าให้หมอเอาอีก เธอนึกแค้นว่าเพราะผู้หญิงบ้าคนนี้ทำให้หมอธาดาปฏิเสธเธอ
น้ำฝนเข้ามานั่งรอในห้องตรวจของหมอธาดาเพื่อรอพบเขา เธอไม่ยอม ผู้หญิงในโรงพยาบาลทุกคนต่างอิจฉาเธอที่ได้ใกล้ชิดกับเขา แต่ถ้าคนพวกนั้นรู้ว่าเธอโดนปฏิเสธแล้วล่ะก็ เธอจะถูกนินทาและเยาะเย้ยว่าไม่เด็ดพอทำให้หมอธาดาสุดฮอตเบื่อได้
"อ้าว พยาบาลน้ำฝน" เขาเดินเข้ามาในห้อง ขณะติดกระดุมที่ข้อมือทั้งสองข้าง
"หมอไปไหนมาคะ น้ำฝนตามหาซะทั่วเลย"
"ทานข้าวไงครับ" เขารู้ว่าเธอคนนี้ต้องการอะไร โน้มตัวเข้าไปใกล้กระซิบบอกเธอ วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ มิฉะนั้นน้ำฝนไม่มีทางได้มานั่งเก้าอี้ทำงานของเขาและมาเซ้าซี้เขาแบบนี้แน่นอน
"ไม่จริง น้ำฝนเห็นนะคะว่าหมออยู่กับใคร" เธอคว้าเนกไทของเขาแล้วดึงเข้าตัว ธาดาจ้องมองตาเธอนิ่งราวกับวัดใจ
"หึ" เขายิ้มหยันให้กับแววตาริษยาของคนที่นั่งอยู่ เธอคงไปรู้ไปเห็นอะไรมาสินะ เธอเผยอปากแลบลิ้นเลียฟันตัวเองเพื่อยั่วราคะในกายเขา ธาดาใช้มือหนาบีบปลายคางเธอเบา ๆ
"จะไม่ให้ผมพักเลยหรือไง" น้ำฝนยิ้มรับดีใจที่ยั่วเขาสำเร็จ ธาดาขยับเข้ามายืนตรงหน้าเธอ แม่สาวร้อนแรงของเขา
"น้ำฝนอยากกินหมอนี่คะ"
"จัดการมันซะ" เขาบอก เธอไม่รีรอรีบปลดเข็มขัดและกางเกงของเขาออก ควักท่อนเนื้อที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ น้ำฝนมองมันด้วยความกระหายอยากราวกับว่ามันคืออาหารรสเลิศที่ต้องลิ้มลอง
น้ำฝนเปิดประตูออกมา เป็นจังหวะที่ปรางก็กำลังเดินเอาโทรศัพท์ที่เขาลืมไว้ที่ห้องมาคืนให้ เธอมองพยาบาลสาวหุ่นดีเดินออกมาด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยไม่เรียบร้อย เธอจำพยาบาลคนนี้ได้คนที่ร่วมรักกับหมอธาดาในห้องนั้น
ปกใหม่ค่ะ
โฆษณา