28 ส.ค. 2021 เวลา 09:31 • สุขภาพ
1 กันยายนนี้ จะปลดล็อก ให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้ แต่มีข้อแม้ดังนี้
ลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ 2 เข็ม หรือมีผลตรวจ ATK เป็นลบภายใน 7 วัน
หากดูข้อมูลการฉีดวัคซีนในประเทศ ยังได้ไม่เท่าไหร่เลย การฉีดครบ 2 เข็ม ประมาณ 7,000,000 คน (ข้อมูล 28 สิงหาคม 2564)
ยกตัวอย่าง….
ถ้าเพื่อนชวนไปกินข้าวร้านอาหาร สิ่งแรกที่พวกเขาจะต้องคุยกันคือ..
- เธอ ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือยัง ถ้าฉีดยังไม่ครบ นั้นหมายความว่า เราจะไม่ได้ชวนเพื่อนคนนั้นไปกินข้าวด้วย นั้นหมายความว่าต้องเลือกเพื่อนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เท่านั้น
- เริ่มเห็นความเลื่อมล้ำ เพราะว่าเพื่อนบางคนยังต้องรอการฉีดวัคซีน เพราะยังไม่ถึงเกณฑ์ หรือ ยังไม่ใช่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จึงยังไม่ได้ฉีด ถึงแม้บุคคลนั้นๆ ต้องการฉีดก็ตาม
(แนวคิดนี้มันดี แต่ต้องกลับมาดูว่า เรากระจายวัคซีน เข้าถึงคนในประเทศได้แค่ไหน ความแตกต่างระหว่างประเทศเรากับต่างประเทศ ในการเข้าถึงวัคซีนมีข้อจำกัดที่แตกต่าง
สรุป มันคือการส่งเสริม หรือ ทำให้คนเกิดความเลื่อมล้ำยิ่งขึ้น)
(ผู้ประกอบการ จะได้เข้าถึงเฉพาะคนที่วัคซีนครบ 2 เข็ม ส่วนคนที่ยังได้วัคซีนไม่ครบก็อาจจะไม่ได้มาใช้บริการ ผู้ประกอบการก็ต้องลุ้นว่าจะมีลูกค้ามาใช้บริการที่ร้านอาหารของพวกเขาได้แค่ไหน ?)
- ถ้าบ้าน หรือ ครอบครัวไหน ที่ยังได้วัคซีนไม่ครบ 2 เข็ม ก็อาจจะไม่ไปใช้บริการที่ร้านอาหาร เพราะว่าในบางครอบครัวหรือบางบ้าน วัฒนธรรมของเขาคือเวลาไปทานข้าวก็ไปกันทั้งครอบครัว  ถ้ามีคนในครอบครัวยังได้รับวัคซีนไม่ครบมันก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาจะตัดสินใจไม่ไปทานอาหารนอกบ้านที่ร้านอาหารเพราะว่าครอบครัวนั้นไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ครบทุกคน 
- ถ้าคู่สามีภรรยา หรือ แฟน หรือ คนรัก ที่มีหนึ่งคนยังได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 เข็ม ก็อาจใช้แนวคิดเหมือนกับครอบครัวที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบ คือเลือกที่จะไม่ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารเลย
แต่.. มันก็ยังมีทางออกเพราะว่าบุคคลที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 เข็ม หรือ ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ก็สามารถซื้อชุดตรวจ ATK  มาตรวจด้วยตนเองแล้วนำผลนั้นไปแสดงที่ร้านอาหาร ซึ่งผลที่ออกมานั้นต้องไม่เกิน 7 วัน
สิ่งที่ต้องคิดต่อ สมมุติ…. ครอบครัวนั้น มีสมาชิกในบ้าน 7 คน และต้องการไปทานอาหารนอกบ้านที่ร้านอาหาร พวกเขาต้องซื้อชุดตรวจมาทั้งหมด 7 ชุด X 300 บาท = 2,100 บาท  นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องลงทุนก่อนไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ยังไม่รวมเรื่องของค่าเดินทางและค่าอาหารที่จะไปรับประทานอาหารที่ร้าน
นั้นหมายความว่าถ้าเป็นแบบนี้ การไปรับประทานอาหารนอกบ้าน 1 ครั้ง ก็ทำให้หลายคนต้องคิดเป็นต้นทุนที่หนักพอสมควร
ด้วยความเคารพ ผมคิดในมุมมองของผม เท่านั้น ครับผม
โฆษณา