28 ส.ค. 2021 เวลา 15:09 • สุขภาพ
ไวรัสสายพันธุ์ Delta รุนแรงกว่าสายพันธุ์ Alpha ถึง 2 เท่า ทำให้ป่วยเป็นโควิดจนต้องนอนโรงพยาบาล
Cr.picture Inn news
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ไวรัสก่อโรคโควิด-19 เป็นไวรัสโคโรนาลำดับที่เจ็ด ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมเดี่ยวอาร์เอ็นเอ ( RNA ) จึงมีการกลายพันธุ์ได้ง่ายโดยธรรมชาติ
ปัจจุบันกลายพันธุ์ไปแล้วมากกว่า 39 สายพันธุ์ โดยมีสายพันธุ์หลักที่เรียกว่า VOC : Variant of Concern รวม 4 สายพันธุ์ คือ อัลฟ่า เบต้า
แกมม่า และเดลต้า
แต่สายพันธุ์ที่เป็นประเด็น ทั้งความสามารถในการแพร่ระบาด และการก่อให้เกิดอาการรุนแรง คือ สายพันธุ์อัลฟ่าและเดลต้า
ในประเด็นเรื่องความสามารถในการแพร่ระบาด ได้ข้อยุติเป็นที่เรียบร้อยว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลต้ามีความสามารถในการแพร่ระบาดมากกว่าสายพันธุ์อัลฟ่ามากทีเดียว ( 40-60%)
จึงปรากฏในประเทศต่างๆว่า เมื่อสายพันธุ์เดลต้าไประบาดในประเทศที่มีสายพันธุ์อัลฟ่าเป็นหลักอยู่ก่อนแล้ว ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน สายพันธุ์เดลต้าก็จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักแทน และสายพันธุ์อัลฟ่าก็จะจางหายไป
พบได้ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ตลอดจนในประเทศไทยในปัจจุบัน
แต่ก็ยังมีคำถามที่จะต้องตอบต่อไปว่า แล้วความรุนแรงในการทำให้เกิดอาการของโรค สายพันธุ์อัลฟ่ากับเดลต้า จะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด
มีงานวิจัยเพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet Infectious Diseases ซึ่งทำโดย PHE : Public Health England และ MRC : Medical Research Council ของประเทศอังกฤษ
ได้ติดตามผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสจำนวน 43,338 ราย ในช่วงระยะเวลา 29 มีนาคมถึง 23 พฤษภาคม 2564
1
ในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่าเป็นหลักก่อน แล้วจึงค่อยมีสายพันธุ์เดลต้ามาเบียดแทรกในภายหลัง
โดยพบสายพันธุ์อัลฟ่า 80% (34,656 ราย) สายพันธุ์เดลต้า 20% (8682 ราย) แต่ในสัปดาห์สุดท้ายของการรวบรวมคือวันที่ 17-23 พฤษภาคม พบสายพันธุ์เดลต้ามากถึง 65% ( 3973 รายจาก 6090 ราย)
เมื่อทำการศึกษาเปรียบเทียบอาการป่วยที่รุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ( Hospitalization ) พบว่าผู้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า มีจำนวนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลมากเป็นสองเท่าของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่า
1
จึงทำให้ได้ผลสรุปในเบื้องต้นที่ชัดเจนว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลต้ามีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อัลฟ่า
ในขณะเดียวกันก็พบว่า กลุ่มที่มีการติดเชื้อไวรัสเป็น
1) ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเป็นส่วนใหญ่ คือ 74% ( 32,078 ราย )
2) ได้รับวัคซีนครบถ้วนสองเข็มเพียง 1.8% ( 794 ราย )
3) ได้รับวัคซีนหนึ่งเข็ม ยังมีภูมิคุ้มกันไม่พอ 24% ( 10,466 ราย )
1
นอกจากนั้นยังพบว่า วัคซีน Pfizer สามารถป้องกันหรือมีประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้าไม่ให้เจ็บป่วยหนักได้ 96% ส่วนวัคซีน AstraZeneca มีประสิทธิผล 92%
จึงพอสรุปได้ในภาพรวมดังนี้
1) ไวรัสสายพันธุ์เดลต้า แพร่ระบาดได้รวดเร็วกว้างขวางกว่าไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่า
2) ไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ก่อให้เกิดอาการรุนแรง จนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่าไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่า
3 ผู้ที่ฉีดวัคซีนสองเข็ม มีประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสได้ดีทั้งสายพันธุ์อัลฟ่าและเบต้า แม้ จะมีประสิทธิผลลดลงเป็นลำดับเมื่อเวลาผ่านไปก็ตาม
1
4) วัคซีนของ Pfizer มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการหนักได้ 96% วัคซีนของ AstraZeneca มีประสิทธิผล 92%
Reference
โฆษณา