Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ห้วงมหรรณพกำลังภายใน
•
ติดตาม
29 ส.ค. 2021 เวลา 08:24 • นิยาย เรื่องสั้น
......ลี้คิมฮวง
.
ฤทธิ์มีดสั้น
สุรา 🍶 นารี 👩💻 และเซี่ยวลี้ปวยตอ🗡
🌺 🌺
“ จับตามองท่านสร้างห้องหอ
จับตามองท่านเลี้ยงมิตรสหาย
จับตามองหอห้องท่านพังทลาย ”
🌺 🌺
เป็นบทกลอนที่สะท้อนหัวใจของชายผู้หนึ่ง นามว่า #ลี้คิมฮวง...
เซี่ยวลี้ถ้ำฮ้วย ลี้คิมฮวง เป็นชายวัยกลางคน ลักษณะซอมซ่อ
ดูซูบซีดอิดโรย คล้ายดั่งอมโรค หากทุกท่านมองภายนอก
มันเป็นคนที่อมทุกข์โศกไว้ชั่วนาตาปี ว้าเหว่เดียวดายอย่างยิ่ง
บ่อยครั้งที่มันก้มลงไอ.. ไอครั้งแล้วครั้งเล่า...
ไอจนเอวบิดตัวงอ กระทั่งไอออกมาเป็นลิ่มเลือด 🩸
แม้ลี้คิมฮวงจะมีโรคไอที่ห้ามดื่มสุรา แต่มันเป็นปีศาจสุรา
ดังนั้นข้างกายมันจึงมีไหสุรา มันยังคงร่ำสุรา
ยามที่ได้ร่ำสุรากับมิตรสหายสุรายิ่งหอมหวานเป็นพิเศษ
เหตุที่ลี้คิมฮวงเป็นปีศาจสุรา เนื่องเพราะมันมีอดีตที่เจ็บช้ำรันทดยิ่ง
มันจึงชมชอบดื่มสุราเพื่อราดรดทุกข์ของมัน
รอจนไหสุราว่างเปล่า มันจึงหยิบมีดสั้นน้อยขึ้นมาเล่มหนึ่ง
เริ่มแกะสลักรูปจากท่อนไม้ในมือ
แกะเป็นรูปของสตรีนางหนึ่ง นามของนางคือ
...ลิ่มซีอิม 👩🦰
ผู้เคยเป็นยอดดวงใจของมัน
ตอนลี้คิมฮวงพบลิ่มซีอิมคราแรก ต่างยังเป็นทารกด้วยกัน👶👧
ตอนนั้นมาตรแม้นเป็นเรื่องนานอย่างยิ่งแล้ว
แต่ในความทรงจำของลี้คิมฮวง
กลับคล้ายเมื่อวานนี้เอง
วันนั้นกำลังหิมะตก ดอกเหมยในอุทยานเบ่งบานสะพรั่ง🌸🌸
หิมะใต้ต้นเหมยก็คล้ายขาวสะอาดเป็นพิเศษ
วันนั้นลี้คิมฮวงกำลังสร้างหุ่นหิมะใต้ต้นเหมย
หาถ่านหินดำเป็นประกายแวววาวได้สองก้อน
จะฝังเป็นนัยน์ตาของหุ่นหิมะ⛄️ นั่นเป็นเวลาที่ลี้คิมฮวงเบิกบานใจเป็นที่สุด
ลี้คิมฮวงเป็นคนพอใจการเสริมสร้าง เกลียดการทำลายอยู่เสมอมา...
ขณะที่กำลังปั้นหุ่นหิมะนั้นเอง ☃️
มารดาก็ได้นำทาริกาน้อยสวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีแดงฉาน
สีแดงสดใสยิ่งกว่าดอกเหมย ใบหน้าทาริกากลับขาวอย่างยิ่ง
ขาวกว่าหิมะขาวกับแดงเป็นสิ่งที่ลี้คิมฮวงชื่นชอบเสมอมา
ขาวเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์🌕
🍁 แดงเป็นสัญลักษณ์ของหัวใจอันร้อนระอุ🔥
นับแต่นั้นความรักของทั้งสองของค่อยก่อตัวช้าๆ
ตามกาลเวลาเป็นความรักที่ลึกซึ้งยิ่ง
มิว่าลี้คิมฮวงมีสิ่งไร เป็นต้องแบ่งปันกับนางเสมอ
มีคนเอาลูกพลับแห้งให้🍑 ลี้คิมฮวงจะซ่อนไว้ รอจนพบนาง
ก็จะแบ่งให้นางคนละครึ่ง
ขอเพียงได้เห็นประกายตาของนางวูบขึ้น
เป็นความเบิกบานที่ไม่มีเรื่องราวใดสามารถทดแทนได้ตลอดกาล
กระทั่งชีวิตตนเองยังไม่เสียดาย สามารถแบ่งให้นางได้เช่นกัน….
🍃🍃
กาลเวลาผ่านมาสิบปีเมื่อลี้คิมฮวงกลับจากนอกกำแพงใหญ่
ได้ผจญกับ ..กวนงั่วซาเอียง ( #สามอำมหิตนอกกำแพงใหญ่)
ที่มีชื่ออำมหิตชั่วร้ายที่สุดในยุคนั้นมากลุ้มรุมจู่โจม
มาตราว่าลี้คิมฮวงฆ่าศัตรูไป 19 คนแล้ว
แต่สุดท้ายยังคงบาดเจ็บสาหัสไม่อาจต้านทาน
เห็นชัดว่าต้องเสียชีวิตกับดาบอาบยาพิษของอำมหิตใหญ่
นาม ต๊กป้า แน่แล้วเสี้ยวนาทีเป็นตายแห่งชีวิต
เป็น ...เล้งโซ่วฮุ้น มาถึงเล้งโซ้วฮุ้นใช้ทวนเงินเพียงเล่มเดียว
ปลิดชีวิตต๊กป้า ช่วยชีวิตลี้คิมฮวงไว้ได้
และยังทุ่มเทรักษาอาการ คุ้มกันจนส่งถึงบ้าน
เหล่านี้จึงเป็นที่มาของฝันร้ายรักสามเส้า😢😢😢
ที่เล่าลือกันต่อมาในยุทธภพ
เพราะเล่งโซ่วฮุ้นรักลิ่มซีอิม
มันถึงกับป่วยเพราะลิ่มซีอิม ชายฉกรรจ์เข้มแข็งปานเหล็กไหล
ถูกความรักบีบคั้นคุกคาม ถึงกลับกลายเป็นโรคหัวใจไป
ด้วยความมิรู้ว่าลี้คิมฮวงและลิ่มซีอิมหมั้นหมายกันมาแต่เยาว์วัย
มันจึงวิงวอนลี้คิมฮวงยกเปียม่วยให้แก่มัน
มันรับปากลี้คิมฮวงจะดูแลนางอย่างดีไปชั่วชีวิต
ลี้คิมฮวงไหนเลยจะรับปากมันได้ ⁉️
แต่ลี้คิมฮวงไหนเลยจะเบิ่งตาดูผู้มีพระคุณตรอมใจตายทั้งเป็นได้
ลี้คิมฮวงยิ่งไม่อาจไปวิงวอนลิ่มซีอิมวิวาห์กับผู้อื่น
ลิ่มซีอิมก็ไม่ยอมรับปากแน่นอน....
...
ในที่สุดมันจึงตัดสินใจ เริ่มปล่อยตัวเองเข้าเกลือกกลั้วสุรานารี
กระทั่งเป็นเดือนๆยังมิกลับบ้าน
เนื่องจากลี้คิมฮวงต้องการสร้างโอกาส
ให้เล้งโซ่วฮุ้นกับลิ่มซีอิมได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน
ตอนลิ่มซีอิมหลั่งน้ำตาตักเตือน มันกลับหัวร่อเย้ยหยัน
แล้วสะบัดแขนเสื้อไป‼️ ถึงกับพาคณิกามีชื่อกลับมาบ้านด้วย
🎋🎋
สองปีให้หลัง หัวใจลิ่มซีอิมแหลกสลาย💔 นางสิ้นหวังจนในที่สุด
นางจึงเลือกเล้งโซ้วฮุ่นที่ลุ่มหลงนางอย่างจริงใจเป็นคู่ครอง
หัวใจมันก็สิ้นหวัง แหลกสลายเช่นกัน💔 แต่ใครเล่าจะเข้าใจมัน!!!
มันกระทั่งเงินทองทรัพย์สิน คฤหาสน์ลี้ฮึง (อุทยานตระกูลลี้)
ยังยกให้ลิ่มซีอิมและเล้งโซ้วฮุนจนหมดสิ้น
เป็นอันจบตำนานคฤหาสน์ตระกูลลี้
🕍
“หนึ่งคฤหาสน์มีเจ็ดบัณฑิต
บิดากับบุตรสามถ้ำฮวย ”
กาลต่อมาคฤหาสน์ตระกูลลี้จึงเปลี่ยนนามเป็น
" เฮ็งฮุ้นจึง (หมู่ตึกเมฆโรจน์) "
ทรัพย์สิน อำนาจ ชื่อเสียง และศักดิ์ฐานะ
ต่างพอทอดทิ้งได้ง่ายดาย แต่มีความทรงจำบางประการ
ความทรงจำที่ปวดร้าวขมขื่น มากกว่าหวานชื่นดื่มด่ำ
กลับคล้ายเป็นแคร่อันหนักอึ้ง สลัดไม่หลุด
ตัดไม่ขาด ลืมเลือนมิได้ตลอดกาลนาน....
🌹🌹
ความรักนับเป็นเรื่องพิสดารที่สุด
บางครั้งบันดาลให้คนโง่เขลากลายเป็นฉลาดปราดเปรื่องที่สุด
แต่บางครั้ง กลับสามารถบันดาลให้คนฉลาด
กลายเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาได้
🌹🌹
เมื่อยกทรัพย์สิน ลาภยศชื่อเสียง สาวงามสะคราญให้เพื่อนรักจนหมดสิ้น
มันจึงไปใช้ชีวิตอยู่นอกกำแพงใหญ่เป็นเวลาเนิ่นนานเกือบสิบปี
กระทั่งมันกลับเข้าด่าน
.
บัดนี้ มันเป็นบุรุษหนุ่มวัยฉกรรจ์ แม้อายุเกือบสี่สิบปีผู้นี้
ยามเดินลี้คิมฮวงหลังยังเหยียดตรงดั่งปลายทวน
แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวอย่างยิ่งทระนงอย่างยิ่ง
.
ลี้คิมฮวงมักชมชอบคบหามิตรสหาย ไม่ว่าคนเหล่านั้น
จะดูต่ำช้าหรือดูเถื่อนเพียงใด
.
เพราะมันพลันคิดว่าคนต่ำทรามในสายตาชาวโลก
ไม่แน่ว่าล้วนต่ำทรามทั้งสิ้น
.
แต่วิญญูชนในสายตาคนชาวโลก จะมีสักกี่คนเป็นวิญญูชนที่แท้จริง❓
“ แม้เป็นคนเสเพล ปีศาจสุรา มิเห็นมีที่ใดไม่ดี
ยังประเสริฐกว่าวิญญูชนจอมปลอมสวมหน้ากากหลอกลวงมากมายนัก ”
เป็นลี้คิมฮวงบอกต่อทิท่วงกะ…
ทิท่วงกะแม้เรียกลี้คิมฮวงว่า #เซี่ยวเอี๊ย (นายเล็ก) แต่มันก็นับเป็นสหายรักของลี้คิมฮวงเช่นกัน
นอกจากนั้นลี้คิมฮวงยังมีสหายผู้ดูภายนอกคล้ายคนเถื่อนผู้หนึ่ง
นามว่า อาฮุย
...
แม้ดูคล้ายป่าเถื่อนแต่ความคิดอาฮุยแหลมคมยิ่ง
ที่สำคัญยิ่งกว่า
คือเพลงกระบี่ของอาฮุยเร็วยิ่ง และคมยิ่ง ‼️
รวดเร็วปานสายฟ้า⚡️ พิฆาตศัตรูในชั่วพริบตา นี่คือกระบี่ของอาฮุย
คราแรกที่มันพบกับอาฮุยนั้น
มันเห็นร่างโดดเดี่ยวท่ามกลางหิมะ อาฮุยเดินช้ายิ่ง
แต่มิยอมหยุดเด็ดขาด อาฮุยไม่มีทั้งร่ม
ไม่มีหมวก หิมะละลายไหลลงจากศีรษะสู่ใบหน้า
เข้าไปในซอกคอ ทั้งร่างสวมเสื้อผ้าบางเบาอยู่ชั้นเดียว
แต่หลังของมันยืดตรงดั่งปลายทวน ร่างของมันคล้ายหลอมขึ้น
จากเหล็กไหล อาฮุยพกแผ่นเหล็กเพียงสามเชียะเศษ
ทั้งไม่มีคม ไม่มีโกร่ง กระทั่งด้ามก็ไม่มี
แต่ใช้ไม้บางๆสองแผ่นตอกไว้สองฟากข้าง
อาฮุยก็นับเป็นด้ามกระบี่แล้ว
ชาวยุทธหลายคนเห็นกระบี่อาฮุยล้วนดูถูก บางคนถึงกับขำขัน
แต่เมื่อคนเหล่านั้นเห็นอาฮุยใช้กระบี่ ส่วนใหญ่ขำไม่ออก
เนื่องเพราะพวกมันไม่เคยเห็นกระบี่ที่รวดเร็วปานนี้มาก่อน
สะท้อนให้เห็นหลักแห่งกระบี่ว่า กระบี่แม้นมีสภาพเช่นไร แต่เปล่งอานุภาพได้สะท้านสะเทือนแค่ไหน อยู่ที่ผู้ใช้เป็นใครนั่นเอง‼️
เเละเเน่นอนหากอยู่ในมือของคนชื่อ ...อาฮุย
ก็ไม่ต้องจำเป็นต้องมีคำถามอีกต่อไป
ว่ากระบี่เยี่ยงนั้น พิฆาตคนตายได้หรือไม่
อาฮุยภายนอกแม้ดูเป็นคนเถื่อนไม่มีการศึกษา
แต่อาฮุยกลับมีความคิดปัญญาที่เฉียบคม
ดั่งคำวิจารณ์ของอาฮุยที่มีต่อแป๊ะเฮี่ยวเซ็งผู้จัดทำบันทึกตำราอาวุธว่า
“ วิญญูชนจอมปลอมแม้น่าชัง แต่สัพพัญญูรอบรู้ทุกสิ่งล้วนน่าชังกว่า
คนประเภทนี้อวดอ้างว่าฉลาดปราดเปรื่อง
ประโคมตัวเองสูงส่งเหนือธรรมดา เข้าใจว่ามันรอบรู้ทุกเรื่องราว
1
อาศัยคำพูดของพวกมันก็ระบุชะตาชีวิตผู้อื่น
ความจริงแล้ว เรื่องราวที่พวกมันรู้อย่างแท้จริงกลับมีอยู่สักเท่าใด...?? ”
“ เนื่องเพราะผู้อื่นต่างว่ามันรอบรู้ทุกศาสตร์สาขาเปรื่องปราดในทุกหลักวิชา พอถึงตอนหลัง มันก็มีแต่ต้องหลอกตัวเองอาศัยความนึกคิดไปยืนกรานระบุเรื่องราว...”
ข้าพเจ้า(อาฮุย) ยินยอมเชื่อถือคนที่ไม่รู้เรื่องราวใดๆเสียเลย... ”
นี่เป็นความคิดของอาฮุยที่มีต่อแป๊ะเฮี่ยวเซ็ง
ผู้ตั้งตนเป็นสัพพัญญูรอบรู้ทุกเรื่องราว
เเละเป็นผู้จัดทำบันทีกตำราอาวุธเเห่งยุทธภพ
ลี้คิมฮวงชั่วชีวิตผ่านศึกมาไม่น้อยกว่า 300 กว่าครั้ง
มีคนตายภายใต้มีดสั้นเซี่ยวลี้ปวยตอทั้งสิ้น 76 คน
ทำให้ชาวยุทธ ทุกคนขนานนาม
เซี่ยวลี้ปวยตอ มีดบินไม่พลาดเป้า
มีเกียรติภูมิกระเดื่องเลื่องลือทั่วแผ่นดิน
แป๊ะเฮียวเซ็งจึงจัดอันดับตำราอาวุธโดยให้เซี่ยวลี้ปวยตอ
อยู่ในลำดับสาม ดังคำกล่าวที่ว่า
🗡“เซี่ยวลี้ซิ้งตอ (มีดเทวดาของลี้น้อย) เลิศล้ำในต่ำใต้
🗡มีดแรกที่ซัดออกจากฝ่ามือ ไม่เคยผิดเป้ามาเลย ”
ลิ่มเซียนยี้โฉมสะคราญแห่งบู๊ลิม แม้เคยได้ยินวลีดังกล่าว
เมื่อคราวที่ช่วงชิง #กิมซีกะ🎽 (เกราะใยทอง) กับลี้คิมฮวง
เคยถามลี้คิมฮวงว่า
.
“ ทุกคนผู้คนต่างว่า มีดสั้นของท่านพอหลุดจากมือ
ไม่เคยผิดเป้ามาเลยมิทราบว่าเป็นวาจาประโคมเกินความจริงหรือไม่ "
“ เมื่อกาลก่อน ก็มีคนมากหลายที่สงสัยต่อวลีสองประโยคนี้”
“ ตอนนี้เล่า ”
ดวงตาลี้คิมฮวงมีประกายวาวขึ้นวูบหนึ่งกล่าวช้าๆ
“ ตอนนี้พวกประดานั้นต่างตายหมดสิ้นแล้ว”
แต่แน่นอนย่อมมีบางคนมิยอมเชื่อ
แม้แต่ แป๊ะเฮี่ยวเซ็ง ผู้แต่งบันทึกตำราอาวุธ
แป๊ะเฮี่ยวเซ็งผู้รอบรู้กล่าวตอนที่ลี้คิมฮวงบุกวัดเสี่ยวลิ้มยี่
(วัดเส้าหลิน)ว่า
“ เซี่ยวลี้ป้วยตอแม้มิเคยผิดเป้าแต่ท่านจะมีมีดอยู่กี่เล่ม ”
ในใจมันยังคงประเมินเซี่ยวลี้ปวยตอตามภูมิความรู้ของมัน
อย่างไรก็ดีแป๊ะเฮี่ยวเซ็งก็ไม่มีความมั่นใจที่จะหลบมีดแรกของลี้คิมฮวงพ้น
กาลต่อมาเมื่อความแตกว่าตนเองเป็นผู้บงการซิมก่ำไต้ซือ
ให้ขโมยคัมภีร์ของวัดเสี่ยวลิ้มยี่
แป๊ะเฮี่ยวเซ็งยังนำร่างเจ้าอาวาสวัดเสี่ยวลิ้มยี่มาเป็นโล่กำบังตน
คอหอยของมันก็อยู่ข้างๆคอหอยของซิมโอ้วไต้ซือเจ้าอาวาสวัดเสียวลิ้มยี่ คอหอยของมันเพียงแต่เหลื่อมออกมาเล็กน้อยไม่ถึงครึ่ง
และคอหอยของมันพร้อมที่จะหลบหลังซิมโอ้วไต้ซือทุกเวลา!!
เพื่อมิให้ลี้คิมฮวงกล้าซัด
เซี่ยวลี้ป้วยตอ ‼️
“ มิว่าท่านกล่าวกระไร พวกมันต่างต้องไม่กล้าใช้ชีวิต
ท่านเป็นเครื่องเล่นแน่นอน
ชีวิตของเจ้าสำนักเสียวลิ้มยี่ ยังมีคุณค่ากว่าชีวิตคนอื่นๆ
เป็นจำนวนพันๆ...
แป๊ะเฮี่ยวเซ็งกล่าวถึงตอนนี้ รอยยิ้มบนใบหน้ามันพลันชาค้างไป
ประกายมีดวูบขึ้น ‼️☄️
มีดสั้นได้บินเข้าคอหอยของมัน !
มันคล้ายแม้ตายก็ไม่เชื่อว่า มีดสั้นลี้คิมฮวงจะทะลวงคอหอยของมันได้
“เราผิดแล้ว ....เราผิดแล้ว...” ❌
แป๊ะเฮี่ยวเซ้งแม้รอบรู้ทุกเรื่องราว กระจ่างในทุกศาตร์สาขา
แต่มีข้อผิดพลาดเพียงเรื่องเดียว
‼️ เซี่ยวลี้ปวยตอยังเร็วกว่าที่มันคิดหมายไว้มากนัก ‼️
“ แป๊ะเฮี่ยวเซ็งจัดสร้างตำราอาวุธ วิจารณ์อาวุธทั้งแผ่นดิน
กล่าวได้ว่าเป็นผู้ทรงปัญญาของบู๊ลิ้ม
ผู้ใดคาด ในที่สุดยังคงต้องตายกับอาวุธที่ตัวเองวิจารณ์ไว้ ”
ลี้คิมฮวงพลันถอนหายใจรำพึง...
…………………..
🍁🍁
ในยุทธจักรแม้มีคำกล่าวว่า มีดแรกของเซี่ยวลี้ปวยตอมิเคยพลาดเป้า
แม้ประจักษ์แก่สายตาชาวยุทธ
แต่ก็ยังมียอดยุทธผู้หนึ่งคิดทดลองว่า
ไม่พลาดจริงหรือไม่ ❓
เหตุใดเล่ามันจึงกล้าลิ้มลอง!!
อาจเนื่องเพราะมันเป็นประมุขพรรคกิมจี๊ปัง (เหรียญทอง) 🌟
อาจเนื่องเพราะอาวุธของมันอยู่ในลำดับสอง
แห่งตำราอาวุธของแป๊ะเฮี่ยวเซ็ง
อาจเนื่องเพราะนามของมันคือ #เซี่ยงกัวกิมฮ้ง
ฉายา 🐉เล่งหงส์ฮ้วง 🦢 ใช้ห่วงมังกรหงส์คู่เป็นอาวุธ
และอาจเป็นเพราะมันมิเคยเห็นผู้ใดอยู่ในสายตา!!!
เพราะสองห่วงหงส์มังกรของเซี่ยงกัวกิมฮ้ง
สยบแผ่นดินจนระย่อตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีก่อนนั้นแล้ว
!! อันดับของอาวุธของห่วงหงส์มังกรยังสูงกว่าเซี่ยวลี้ปวยตออีกอันดับหนึ่ง!!
มาตรแม้นทุกผู้คนต่างทราบ สองห่วงของมันน่าสะพรึงกลัว
แต่ไม่มีผู้ใดทราบว่าน่ากลัวถึงระดับไหนแน่
บัดนี้ห่วงของมันอยู่ในมือหรือไม่ ❓
ในที่สุด มือเซี่ยงกัวกิมฮ้งก็ถูกชักออกจากแขนเสื้อ
เป็นมือเปล่า🙌
ลี้คิมฮวงกล่าว
“ห่วงของท่านเล่า”⭕️
“ห่วงอยู่”
อยู่ที่ใด ❓
“ อยู่ในหัวใจ.. ในมือเราไม่มีห่วงแต่ในใจกลับมีห่วง..”
เซี่ยงกัวกิมฮ้งบรรลุถึงขั้น
“ ในมือไร้ห่วง ในใจมีห่วง ”
นี่คือจุดสุดยอดของหลักวิชาบู๊ นี่เป็นระดับเทพยดาแล้ว
“ ตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อน ในมือเราก็ไม่มีห่วงแล้ว ”
“นับถือ”
“ท่านเข้าใจ”
“ เลิศล้ำปานเนรมิต 🪐ไร้ห่วงไร้เงา
ไม่มีร่องรอยพอสืบสาว ไม่มีความแกร่งกร้าวพอทนทานได้ ”
“ ประเสริฐมากนับว่าท่านเข้าใจจริงๆ ”
“เชิญท่านใช้กระบวนท่าออกมา”
เซี่ยงกัวกิมฮ้งกล่าว
“กระบวนท่ามีอยู่แล้ว” ลี้คิมฮวงตอบ
เซี่ยงกัวกิมฮ้งต้องโพล่งโดยไม่รู้ตัว
“อยู่ที่ใด” ❓
ลี้คิมฮวงกล่าวราบเรียบ
“🤍 อยู่ในหัวใจ มีดข้าพเจ้าแม้ไม่มีกระบวนท่า
แต่หัวใจกลับมีกระบวนท่าอยู่ " !!!
ทุกคนต่างไม่เห็นห่วงอยู่ที่ใด
และไม่เห็นกระบวนท่าจู่โจมของลี้คิมฮวงอยู่ที่ใด
แต่ห่วงอยู่แล้ว กระบวนท่าก็ใช้ออกแล้ว
ทุกคนต่างคล้ายรู้สึกว่ามันมีอยู่จริงๆ
...ยอดคนแห่งยุคสองคนนี้ ถึงขั้นไร้ห่วงในใจมีห่วง
และไร้กระบวนท่า เพราะกระบวนท่าอยู่ที่ใจ..
ภายหลังเซี่ยงกัวกิมฮ้งด้วยความอยากทดสอบวลีที่ว่า
* เซี่ยวลี้ปวยตอ มีดแรกที่ซัดออกจากฝ่ามือ ไม่เคยผิดเป้า *
ยามประลองกับลี้คิมฮวงมันจึงตัดสินใจพนันดูว่าจริงหรือไม่ ⁉️
แม้ในมือมันไร้ห่วง ในใจมีห่วง
แต่คอหอยมันกลับมีมีดบินของลี้คิมฮวงปักอยู่☠️
เพราะเหตุใด❓
“มันไม่เชื่อ..มิว่าผู้ใดต่างไม่เชื่อ
ในโลกไม่มีเรื่องราวใดที่เซี่ยงกัวกิมฮ้งสามารถเชื่อถือได้
ซุนเซี่ยวอั้งถาม
“ แล้วผลเป็นอย่างไร ”❓❓
ลี้คิมฮวงกล่าวเสียงราบเรียบ
“มันแพ้แล้ว”..
เป็นการพนันที่เซี่ยงกัวกิมฮงแพ้แล้ว
โดยไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกต่อไป
อาฮุยเดินเข้าไปในประตูสถานที่แห่งการประลอง
ปราดแรกอาอุยก็เห็นมีดสั้นเล่มนั้น
🗡เซี่ยวลี้ปวยตอ ‼️
มีดสั้นมิได้ปักเข้าในคอเซี่ยงกัมกิมฮ้งจนหมดเล่ม
แต่ก็พอปลิดชีวิตมันได้แล้ว..
คมมีพุ่งเข้าใส่ใต้ลูกระเดือก ชอนลึกขึ้นเบื้องบน
แสดงว่ามีดนี้ถูกซัดเข้าไปในตำแหน่งที่ต่ำอย่างยิ่ง
ตอนที่เซี่ยงกัวกิมฮ้งผู้เหี้ยมหาญแห่งยุคตาย
ก็มิได้ผิดไปกว่าบรรดาผู้คนที่มันหยามเหยียดดูแคลน
ก็มีความแตกตื่นลนลาน หวาดหวั่นพรั่นพรึงเช่นกัน!!
สมดังคำของลี้คิมฮวงซึ่งเคยกล่าวว่า
“ ตอนนี้พวกประดา (ที่สงสัย) นั้นต่างตายหมดสิ้นแล้ว☠️ ”
เมื่อเซี่ยงกัวกิมฮ้งพลันสงสัย บทสรุปนี้จึงเป็นบทพิสูจน์
นับแต่นั้นมายุทธภพก็ไม่มีใครสงสัยในวลีสองประโยคนี้อีกต่อไป
หากแต่ถึงระดับในมือไร้ห่วงในใจมีห่วง
หรือไร้กระบวนท่าหากกระบวนท่าอยู่ที่ใจแล้ว
สุดยอดวิชาบู๊ในแดนดินแท้จริงมีหลักหรือมรรคาที่สูงส่งกว่านี้หรือไม่ ??
คำตอบนี้โกวเล้ง มังกรเมรัย ได้บอกผ่านทัศนะของซุนเล่าซิงแซว่า
“ ต้องให้ในมือไร้ห่วง หัวใจก็ไร้ห่วง
เมื่อถึงระดับห่วงก็คือเรา เราก็คือห่วง จึงนับจะพอใช้ได้
ถ้าแค่นี้พอใช้ได้ แล้วอันใดคือสุดยอด ???
💥 💥
“ สุดยอดหลักวิชาบู๊ที่แท้จริง จะต้องสามารถเลิศพิสดารปานปาฏิหาริย์
ถึงระดับไร้ห่วงไร้เรา ลืมห่วงลืมเราไป
นั่นจึงจะบรรลุในทุกสรรพสิ่ง ทำลายในทุกสรรพสิ่งได้ ”
💥 💥
🌾🌾
นี่เป็นหลักธรรมชาติในตำนานเซน
กล่าวว่าศิษย์เอกของปัญญาบารมีภิกขุ (เซี่ยงจง) มหาสมณะที่ 5
ได้เขียนโศลกธรรมว่า
“ สังขารดุจต้นโพธิ์ 🌲
หัวใจดุจกระจกใส
หมั่นเพียรเช็ดถูไว้
ไม่ให้มีธุลีติดได้ ”
นับเป็นหลักธรรมที่ลึกซึ้งยิ่ง
แต่มหาสมณะที่หก ฮุ่ยเล้ง (เว่ยหลาง)
กลับสาธยายธรรมอันเลิศกว่า โดยท่านให้คนเขียนโศลกธรรมของท่านว่า
“ต้นโพธิ์ความจริงหามีไม่
ทั้งไม่มีกระจกเงาใส
ความจริงว่างเปล่าไร้วัตถุใด
ไยปรากฎเถ้าธุลี ”
นอกจากเป็นแก่นของธรรมแล้ว นี่จึงเป็นแก่นของวิชาบู๊อีกด้วย
มิว่ากระทำเรื่องราวใด จะฝึกจนถึงระดับไร้คนไร้เรา
ลืมอาวุธลืมเรา ทั้งสองประการ
จึงนับว่าถึงระดับสุดยอดแห่งมรรคาวิชาบู๊
🍁🍁
นับว่าเป็นเรื่องที่สามของโกวเล้ง มังกรเมรัย
ที่ข้าพเจ้านำขึ้นมาหยิบยก นำมาเล่าเพื่อเป็นการเปลี่ยนอรรถรสของชาวยุทธทุกท่าน ให้ท่านได้เพลิดเพลินทางใจในยามที่หลายคนประสบห้วงทุกข์แห่งภัยโรคระบาดนี้
🍁🍁
.
ขอให้บทความนี้ช่วยเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำของหลายๆท่าน
.🥀🥀🥀
ขอคารวะชาวยุทธผู้มีใจหาญกล้าทุกท่าน🙏
อนันตทวิ☯️
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตครับ
🌿🌿🌿
1 บันทึก
6
12
1
6
12
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย