29 ส.ค. 2021 เวลา 09:16 • นิยาย เรื่องสั้น
อึ้งย้งภาคปัจฉิมบท🐲🐲
กลับมาต่อกันในภาคสุดท้ายของอึ้งย้ง บุตรีแห่งภูตบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ
และประมุขพรรคกระยาจกรุ่นที่ 19 กันครับ
หลายท่านทราบว่าอึ้งเอี๊ยะซือถือเป็นปราชญ์ผู้รอบรู้แห่งยุค
ดังนั้นจึงมีภูมิรอบรู้กว้างขวาง สรรพศาตร์ล้วนเจนจบ
แต่เมื่อมาถึงบุตรีโทนเล่า❓ จักเป็นเช่นใด❓
อึ้งย้งนั้นได้รับการถ่ายทอดวิชาจากอึ้งเอี๊ยะซือ ซึ่งเป็นบิดามากมายหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นวรยุทธ
เช่น วิชาฝ่ามือเทพกระบี่บุบฝาร่วง หรือแม้เเต่วิชาปรุงอาหาร
พิชัยสงคราม ค่ายกล ลำนำบทเพลง
แม้กระทั่งปรัชญายังได้รับการถ่อยทอดจากอึ้งเอี๊ยะซือด้วย ..
#พานพบเทพคำนวณ👩‍💼
..อึ้งย้งด้วยความเข้าใจผิดในตัวฮิ่มโชยตึ๋งกับฮิ้วโชยยิ่ม
จึงถูกฝ่ามือทรายเหล็กฮิ้วโชยยิ่มซัดทำร้ายได้รับบาดเจ็บ
ก๊วยเจ๋งพาหลบหนีออกมาจากพรรคมือเหล็ก
ก๊วยเจ๋งหลบหนีมาถึงหนองมหากาฬ
ซึ่งเป็นที่อยู่ของอดีตหญิงคนรักของเฒ่าทารกจิวแป๊ะทง
ฉายานาม ซิ้งซึ่งจื้อ เทพคำนวณ เอ็งโกว👩‍🦳
ก๊วยเจ๋งพลันเห็นสตรีผมหงอกขาว ส่วมใส่เสื้อปอนางหนึ่ง
กำลังเพ่งตามองดูไม้ติ้วที่ทำจากไม้ไผ่จำนวนมากมายบนพื้น
แสดงว่าใช้ความคิดอย่างจดจ่อ มาตรว่ามีคนเข้ามา ยังไม่เงยหน้าขึ้น
อึ้งย้งพักผ่อนครู่หนึ่ง จึงมีสติแจ่มใส
เห็นไม้ติ้วบนพื้นล้วนมีความยาวสี่นิ้ว กว้างประมาณสองหุน
ทราบว่าเป็นไม้ติ้วสำหรับคำนวณ เมื่อมองดูไม้ติ้วเหล่านั้นจัดเรียง
ตามหลัก ซิก.. ฮวบ... เจียะ ....
ซึ่งเป็นวิชาคำนวณสมัยโบราณรวมสี่แถว
เมื่อลอบนับจำนวนทราบว่า นางกำลังคำนวณมูลตารางเหลี่ยม
(รูทกำลังสอง) ของ 55,225
ยามนั้นตำแหน่งเซียง คำนวณถึงค่า 230 เห็นสตรีชรากำลังปัดไม้ติ้ว
หาตัวเลขหลักที่สามอยู่ อึ้งย้งจึงร้องโพล่งว่า
“ห้า สองร้อยสามสิบห้า”
เมื่อเอ็งโกว ปัดไม้ติ้วอยู่ครู่หนึ่ง ผผลลัพธ์ คือ “#ห้า” จริงๆ
..
อึ้งย้งได้รับการอบรมสั่งสอนจากบิดาตั้งแต่เล็ก แตกฉานวิชา
" คณิตศาสตร์”🔢*️⃣
พอเห็นอักษรเครื่องหมายบนพื้น
ล้วนเป็นโจทย์ที่ยากลำบากในวิชาคำนวณ เรียกว่าวิชา
“เทียนง้วนจือซุก” มาตรแม้นสลับซับซ้อน
แต่ขอเพียงล่วงรู้วิธีการ หามีความยากลำบากไม่
เอ็งโกวถึงกับมิอาจเชื่อว่าสตรีน้อยวัยดรุณีแรกรุ่นนี้
กลับเป็นคนที่เก่งคำนวณกว่าตนถึงกับตะลึงตะลาน
พลันถามว่า
“เจ้าเป็นมนุษย์หรือ⁉️ ”
อึ้งย้งยิ้มเล็กน้อยพลัยกล่าวว่า
“วิชาเทียนง้วนสี่นับเป็นอย่างไร้ได้ ❓
ในวิชาคำนวณมีทั้งสิ้น 49 ง้วนน เหนือคำ “นั้ง”
เป็น เซียน เม้ง เซียว ฮั่น ลุ่ย จั้ง เกา เสียง เทียน ใต้คำ
“นั้ง”
เป็น ตี่ เหีย ตี เกี้ยม เลาะ ซี่ จั๊ว อ้ำ กุ้ย
เมื่อคำนวณถึงง้วนที่ 19 ค่อยยากลำบากกว่าเดิม”
ซึ่งความจริงอึ้งเอี๊ยะซือสร้างเกาะดอกท้อ
ตามหลักห้าธาตุสะกดข่ม เป็นความล้ำลึกถึงเพียงไหน
เอ็งโกวเพียงแต่ใช้วิชาคำนวณเก้าเก็ง (เก้าปราสาท)
เป็นรากฐานเท่านั้น
อึ้งย้งจึงขยายความหมายของวิชานางว่า
“ความหมายของเก้าปราสาท แบบแผนเช่น เต่าวิเศษ
สองหกเป็นไหล่ สี่แปดเป็นขา
ซ้ายเก้าขวาหนึ่ง ทูนเจ็ดเหยียบสาม ห้าดำรงอยู่กลาง"
" แต่ละปราสาทของเก้าปราสาท สามารถแปลงเป็น โป๊ยข่วย (ยันต์แปดทิศ)
เป็นจำนวนแปดเก้าเจ็ดสิบสอง เริ่มจากหนึ่งถึงเจ็ดสิบสอง แวดล้อมเก้าปราสาทเป็นวง
แต่ละวงมีอักษรแปดตัว รอยเชื่อมต่อมีอีกสี่วง รวมเป็นสามสิบวง
ตัวเลขแต่ละวงพอบวกกัน
ล้วนเป็นสองร้อยเก้าสิบสอง ความพิสดารของแผ่นภาพลกจือนี้ คาดว่าท่านยังไม่ล่วงรู้ ”
เอ็งโกวเห็นอึ้งย้ง ยังเยาว์วัยแต่ฉลาดปราดเปรื่องกว่านางจึงไม่กล้าเอ่ยอ้างฉายาเทพคำนวณ ต่อหน้าอึ้งย้งอีกต่อไป
ถกปรัชญา ประชันลำนำเพลง👩‍🎤
…ยามเมื่อทั้งก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง
สองคู่รักฝ่าด่านของชาวประมง คนตัดฟืน กสิกร และนักศึกษา
อึ้งย้งยังได้แสดงถึงความสามารถทางด้านขับขานบทเพลงของนาง
เมื่อคนตัดฟืนร้องเพลงว่า
“แนวโขดเขินเนินไศล
ระลอกคลื่นรุกไล่ดังโกรธา
เส้นทางท่งกวนในเขตขัณฑสีมา
ทอดมองไซโตวนคร (นครเชี่ยงอัน) จิตอ่อนล้าละล้าละลัง
....อึ้งย้งพลันร้องเพลงแพะเนินภูเขาตอบว่า
“ขุนเขาเขียวคงเคียงคู่ 🏔
🌥หมู่เมฆขาวเคล้าเคลียครอง
ฐานันดรศักดิ์มุ่งหมายปอง
ครองสันโดษกระท่อมน้อย🏚
🌼ดอกไม้ป่าตูมย้อยห้อยบาน🥀
ไม่นำพารุ่งเรืองล้มเหลวไม่ยืนนาน
พอประมาณประทังชีพก็สำราญ
แม้นยากไร้...ไม่แปรฮึกหาญ
ยามสิ้นหวัง...ไม่เปลี่ยนปณิธาน"
ซึ่งบทเพลงที่บรรยายความสุขของการละทิ้งชื่อเสียง ลาภยศ
แสวงหาความสันโดษในป่าเขา
ดั่งคำพังเพยว่าไว้ “#พันทะลวงหมื่นมิสู้คำเยินยอ”
บทเพลงนี้เป็นที่สบอารมณ์ของคนตัดฟืนศิษย์ของอิดเต็งไต้ซือพอดี
ยามได้ฟังพลันปลอดโปร่งโล่งใจ
จึงไม่ถามไถ่มากความ ให้ก๊วยเจ๋งอึ้งย้ง ผ่านด่านไป..
นอกจากอึ้งย้งจะชำนาญบทเพลงแล้ว
แม้แต่หลักปรัชญาของเมธีโบราณก็มีความสามารถ
โต้แย้งกับจอหงวนอย่างจูจื้อลิ้วเช่นกัน
เมื่อขึ้นเขาไปเจอกับนักศึกษา (จูจื้อลิ้ว)
เมื่อจูจื้อลิ้วเห็นก๊วยเจ๋งแบกอึ้งย้ง
จึงพยายามสกัดทั้งคู่ไม่ให้ผ่านด่านโดยยกเรื่อง
“ จริยะความประพฤติ” ขึ้นว่า
“ในตำราเม่งจื้อสอนไว้ บุรุษสตรีไม่อาจสนิทชิดใกล้ทั้งการให้และรับ “
นั่นคือ “มารยาท” โกวเนี้ยเป็นดรุณีในห้องหอ
หาได้เป็นสามีภรรยากับเซี่ยวกอ(ก๊วยเจ๋ง)ผู้นี้ไม่
เหตุใดปล่อยให้เขาแบกหลัง ปราชญ์เม่งจื้อเพียงบอกว่า
พี่สะใภ้ตกน้ำ ผู้เป็นอายื่นมือช่วยเหลือ
โกวเนี้ยเมื่อไม่ได้ตกน้ำ ทั้งมิใช่ซ้อจื้อ (พี่สะใภ้) ของเซี่ยวกอท่านนี้
แบกอุ้มกันเช่นนี้ออกจะขัดกับจารีตประเพณีไปบ้าง”
อึ้งย้งพลันแบะปากกล่าวว่า
“เม่งจื้อชมชอบกล่าวเหลวไหล ถ้อยคำที่กล่าวไหนเลยเชื่อถือได้ ? ”
นักศึกษาพลันโกรธกล่าวว่า😡
“เม่งจื้อเป็นปราชญ์เมธีผู้ยิ่งใหญ่
ถ้อยคำที่กล่าวไหนเลยเชื่อถือไม่ได้❓ ”
อึ้งย้งพลันเอื้อนเอ่ยว่า
“ขอทานไหนเลยมีคู่
บ้านอยู่ข้างเคียงไยมีไก่มากหลาย🐓
ก่อนนั้นแผ่นดินยิ่งใหญ่ไม่เสื่อมคลาย
เหตุใดปวารณาต่อแคว้นงุ่ยฉี่ ❓ ”
นี่เป็นบทกลอนที่แต่งโดยภูตบูรพา อึ้งเอี๊ยะซือ เนื่องจาก
เม่งจื้อเคยเล่านิทานเรื่องหนึ่งว่า
แคว้นฉีมีคนผู้หนึ่ง มีหนึ่งภรรยาหนึ่งนางบำเรอ
ดังนั้นออกภิกขาจรขอเศษอาหารข้าวเย็น
ทั้งยังบอกว่ามีคนผู้หนึ่งขโมยไก่จากบ้านใกล้เรือนเคียง
เป็นประจำทุกวัน
อึ้งเอี๊ยะซือโต้แย้งว่า นิทานทั้งสองเรื่องนี้หลอกลวงคน
ส่วนสองประโยคสุดท้ายของบทกลอนระบุว่า
ในสมัยเลียดก๊ก กษัตริย์ราชวงศ์จิวยังคงครองแผ่นดิน
เหตุใดเม่งจื้อไม่ช่วยทำนุบำรุงราชวงศ์จิว
กลับขอรับราชการจากเนี่ยหุยอ๋อง แห่งแคว้งงุ่ย
และฉี่ซวงอ๋องแห่งแควนฉี่
นี่ออกจะขัดกับวิถีปฏิบัติของปราชญ์เมธี
ทำให้จูจื้อลิ้วยากโต้แย้งกับอึ้งย้ง พลางครุ่นคิดขึ้นว่า
“เรื่องของคนแคว้นฉี้กับการขโมยไก่
ความจริงเพียงเป็นสิ่งสมมติไม่ควรแก่การสืบสาวล่วงลึก
แต่สองประโยคสุดท้ายนี้ เกรงว่าเม่งจื้อในปรภพก็ยากที่จะโต้แย้งได้”
พลางกวาดตามองอึ้งย้งครุ่นคิดขึ้นว่าดรุณีน้อยเยาว์วัย
เหตุใดเจ้าเล่ห์แสนกลถึงเพียงนี้
หากจูจื้อลิ้วนักศึกษาทราบว่าดรุณีน้องนางนี้มิเพียงฉลาดปราดเปรื่องหากแต่ยังดำรงตำแหน่งประมุขพรรคกระยาจก
พรรคอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดินคงตื่นตระหนกยิ่งกว่านี้
ประยุกต์ใช้พิชัยสงครามงักบู๊มก🦸‍♀️
เนื่องเพราะคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง อาวเอี้ยงฮงจึงตามล่าอึ้งย้งเพื่อให้ตีความข้อความในคัมภีร์ อึ้งย้งจึงต้องหนีจากเงื้อมมือขออาวเอี้ยงฮงมาถึงเขตแดนมองโกล…
ขณะนั้นโจจิบุตรชายคนโตของเจงกีสข่า กับชาเฮอไต ทะเลาะวิวาทต่างนำกำลังพลอันเข้มแข็งของตนเข้าไปประหัตประหารกัน เป็นอึ้งย้งใช้ให้ลู่อู่คานำกระดาษไปให้ก๊วยเจ๋งในกระดาษเขียนว่า
“ใช้ขบวนพยุหงูวนขนด🐍 แยกสองทัพออกจากกันใช้พยหุปีกพยัคฆา🐅ล้อมคร่ากุมผู้ที่ไม่ยอมรับนับถือ
นี่เป็นขบวนพยุหจากพิชัยสงครามงักบู๊มก ซึ่งเป็นของจูกัดเหลียง ขงเบ้ง ดัดแปลงจากตำราโบราณ เมื่อถึงงักฮุย ก็ได้เพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงอีกบางประการ มีทั้งหมด 8 ขบวนพยุหะได้แก่
1. ขบวนพยุหเทียนฮก (พลิกคว่ำนภา)
2.ขบวนพยุหตี่ไจ่ (พสุธาถล่ม)
3. ขบวนพยุห ฮวงเอี้ยง (ลมหอบพัดคล้อย)
4. ขบวนพยุหฮุ้นซุ้ย (เมฆย้อยอัมพร)
5. ขบวนพยุหเล้งปวย (มังกรเวหา)
6. ขบวนพยุห โฮ้วเอก (ปีกพยัคฆา)
7. ขบวนพยุห เจี๊ยวเซียง (ปักษาบินร่อน)
8. ขบวนพยุห จั้วพัว (งูวนขนด)
เมื่อหลานชายของคนตาย เจงกีสข่านออกคำสั่งให้แม่ทัพทุกคนตีเมือง
...ซามากานต์🕌 เป็นอึ้งย้งที่ชี้แนะก๊วยเจ๋งจนตีเมืองซามากานต์แตกได้
โดยดัดแปลงจากวิธีการของอาวเอี้ยงฮงที่ใช้เสื้อผ้าของตนผูกเป็นวัตถุลูกกลมขนาดสองลูกใหญ่ร่อนลงมาจากหน้าผา 🪂🪂
โดยอึ้งย้งใช้ร่มหนังแทนเสื้อผ้า ทำให้ก๊วยเจ๋งมีผลงานการรบเป็นที่ประจักษ์ในคราวนี้เอง
🦢🦢อยู่เรียงเคียงคู่👩‍❤️‍👨
.
ก๊วยเจ๋งนั้นเคยรับปากที่จะแต่งงานกับวาเจนกงจู้
ด้วยสัจจะวาจาที่รับปากไป แต่ก๊วยเจ๋งนั้นมิได้รักวาเจนกงจู้
.
อึ้งเอี๊ยะซือเห็นดังนั้นจึงคิดปลิดชีพวาเจนกงจู้
แต่เป็นอึ้งย้งที่ลงมือขัดขวาง
อึ้งเอี๊ยะซือคาดคิดไม่ถึงว่าธิดารักจะขัดขวางตน
.
เมื่อมองดูธิดารัก เห็นนางสีหน้าละห้อย
ทั้งกอรปด้วยความรัดรึงตรึงใจ
อาลัยอาวรณ์อย่างสุดซึ้ง อดใจหายวูบมิได้
.
นี่เป็นสีหน้าของภรรยาตนก่อนตาย อึ้งย้งมีใบหน้าประพิมพ์ประพายคลับคล้ายมารดาผู้ล่วงลับ บัดนี้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าธิดา แสดงว่านางบังเกิดความรักต่อก๊วยเจ๋งอย่างลึกล้ำ อึ้งเอี๊ยะซือเห็นว่านี่เป็นรักอันงมงายที่สืบทอดนิสัยใจคอจากบิดามารดา ไม่สามารถคลี่คลายแก้ไขได้
ยามนั้นทอดถอนใจยาว เอื้อนว่า
.
“ประหนึ่งฟ้าดินเป็นเตาหลอม🌍
.
พรหมลิขิตเป็นแรงงาน
💔
ความร้อนเย็นเป็นเชื้อเพลิง🔥
สรรพวัตถุเป็นโลหะทองเหลือง⭐️ ”
พลันน้ำตาอึ้งเอี๊ยะซือต้องไหลออกมา..😢
บทความที่อึ้งเอี๊ยะซือเอ่ย เป็นบทความสมัยราชวงศ์ฮั่นแต่โดยคนแซ่เกี้ย กล่าวถึงผู้คนและส่ำสัตว์อยู่ในโลกนี้ เฉกเช่นบรรจุอยู่ในเตาหลอมมหึมา
ถูกเคี่ยวกรำลำบาก ได้รับความคับข้องขุ่นเคือง....
พลันอึ้งย้งกล่าวตอบบิดาตนว่า
“บิดา เขาคิดตบแต่งผู้อื่น ข้าพเจ้าก็จะแต่งงานกับผู้อื่น
ในใจของเขามีข้าพเจ้าคนเดียว
อย่างนั้นในใจข้าพเจ้าก็มีแต่เขาคนเดียว "
อึ้งเอี๊ยะซือถามธิดารักว่า
“..นั่นก็ไม่เลว หากแม้นคนที่เจ้าแต่งงานด้วย ไม่ยอมให้เจ้าดีต่อมันเล่า❓
อึ้งยงแค่นเสียงดังเฮอะ กล่าวว่า “ ผู้ใดกล้าขัดขวางข้าพเจ้า
“ ข้าพเจ้าเป็นธิดาของท่าน‼️ ”
อึ้งเอี๊ยะซือพลันตอบอย่างเอ็นดูว่า
“เอียเท้าโง่งม บิดามีชีวิตอีกไม่กี่ปีก็ต้องลาโลกไปแล้ว”
.
อึ้งย้งกล่าวว่า “#บิดาเขาปฏิบัติต่อข้าพเจ้าเช่นนี้
ข้าพเจ้าสามารถมีชีวิตยืนยาวหรือ”😭
อึ้งเอี๊ยะซือพลันถามว่า
“อย่างนั้นเจ้าจะอยู่ร่วมกับเด็กน้อยไร้น้ำใจไร้คุณธรรมผู้นี้อีก ”❓
อึ้งย้งพลันตอบบิดาว่า
“ ข้าพเจ้าอยู่ร่วมกับเขาหนึ่งวัน จะเพิ่มความปีติยินดีอีกหนึ่งวัน
ขณะที่กล่าว สีหน้ารันทดหดหู่ ราวกับหัวใจแหลกสลายแล้ว💔
คำถามคำตอบนี้ มาตรแม้นหกประหลาดกังหนำมีนิสัยประหลาดพิกล
ยังรับฟังจนตะลึงตะลาน
เพราะยุคสมัยราชวงศ์ซ้องยึดถือจารีตประเพณีที่สุด
อึ้งเอี๊ยะซือกลับเป็นบุคคลที่ไม่ยอมรับ ทึงบู๊เพิกเฉยต่อจิวขง
(ทึงบู๊หมายถึงเซียงทงแห่งราชวงศ์ซ้อง และจิวบู๊อ๋องแห่งราชวงศ์จิว ผู้ถือลัทธิคล้อยตามฟ้าและตอบสนองคน
จิวขง หมายถึงจิวกงกับขงจื้อ ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งประเพณีและมารยาทธรรมเนียม)
เเต่ก็เป็นคำถามคำตอบที่เเสดงถึงความรักที่อึ้งย้งมีต่อก๊วยเจ๋งได้เป็นอย่างดี
....
...ต่อมาเพราะคัมภีร์เก้าอิมจินเก็งอาวเอี้ยงฮงยังไล่ตามจับอึ้งย้ง
อย่างไม่ลดละ
อึ้งย้งจึงหนีอาวเอี้ยวฮงจากแดนไซซกกลับสู่ตะวันออก
ทำให้บังเกิดความท้อแท้อาลัย
อึ้งย้งเดินทางเพียงเดียวดายในใจเพียงคิดกลับเกาะดอกท้อ
ไปอยู่ร่วมกับบิดา
เมื่อถึงมณฑลชานตุงอึ้งย้งกลับล้มป่วยลง
ระหว่างนอนป่วยไม่มีผู้คนเหลียวแล ยิ่งวิเวกหดหู่
ขณะอยู่บนเตียงนึงถึงก๊วยเจ๋งทรยศขบถรัก
นึกแค้นบิดามารดาไม่สมควรให้กำเนิดนางออกมา
ทำให้จิตใจเกิดความเศร้าหมอง😞
กอรปกับอาวเอี้ยงฮงไล่ตามอึ้งย้งทันที่มณฑลชานตุงตอนใต้
อึ้งย้งจึงถูกบังคับให้ติดตามมายังภูเขาฮั้วซัว
ยามคับแค้นเมื่อได้พบก๊วยเจ๋งที่เข้าช่วยตนจากอาวเอี้ยงฮงอีกครั้ง
จึงกล่าวว่า “ท่านติดตามข้าพเจ้ามาทำอะไร❓ ”
อึ้งย้งด้วยความรันทดบวกด้วยความแง่งอน จึงต่อว่ากระทบก๊วยเจ๋งว่า
“ วันนี้ท่านดีต่อข้าพเจ้า วันพรุ่งนี้วาเจนม๊วยจื้อ วาเจนเจ๊อะไรนั่นพอมาถึง
ก็สลัดลืมเลือนข้าพเจ้า นอกจากท่านตายในบัดดล
ข้าพเจ้าจึงเชื่อคำพูดท่าน ‼️”
ก๊วยเจ๋งพลันผงกศีรษะรับ เลือดลมพลุ่มพล่าน หันกายก้าวยาวๆ
เตรียมโดด #ผาสละสังขาร
ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลที่หวาดเสียวอันตรายที่สุดในภูเขาฮั้วซัว
อึ้งย้งทราบดีว่าก๊วยเจ๋งเมื่อกล่าวกระไรแล้วต้องกระทำให้ได้
อึ้งย้งจึงรีบกระโดดมาขวางหน้าก๊วยเจ๋ง
ก๊วยเจ๋งเห็นดังนั้น ก๊วยเจ๋งกลับเกรงกลัวว่า
อึ้งย้งจะตกหน้าผาไปจึงกล่าวว่า
“ท่านถอยกลับมา”
เมื่ออึ้งย้งได้ยินเสียงก๊วยเจ๋งแสดงความอนาทรต่อตนจึงกล่าวว่า
🤬
“ผู้ใดต้องการให้ท่านแสร้งแสดงน้ำใจกล่าววาจาเหล่านี้
ข้าพเจ้าถูกอาวเอี้ยงฮงเสาะพบ ต่อให้ใช้วิธีการต่างๆนาน
ยังไม่อาจหนีรอดจากเงื้อมมือเขา
ท่านไยไม่มาช่วยเหลือข้าพเจ้า มารดาข้าพเจ้าไม่ต้องการข้าพเจ้า
จึงทอดทิ้งข้าพเจ้าลงสู่ปรภพ บิดาข้าพเจ้าไม่ต้องการข้าพเจ้า
ดังนั้นไม่มาหาข้าพเจ้า ทั่วทั้งแผ่นดินไม่มีผู้ใดต้องการข้าพเจ้า
ไม่มีผู้ใดรักข้าพเจ้า...”‼️
อึ้งย้งพลันระบายด้วยความคับแค้นเสียใจ
ในขณะที่สถานการณ์ก๊วยเจ๋งกำลังย่ำแย่
เป็นเฒ่าทารกจิวแป๊ะทงมาอย่างทันท่วงที
“ผู้ใดบังอาจถึงเพียงนี้ กลับกล้าข่มเหงรังแกอึ้งโกวเนี้ยของพวกเรา❓”
.
อึ้งย้งชี้มือไปที่ก๊วยเจ๋ง กล่าวว่า “มิใช่เขาจะเป็นผู้ใด❓”
จิวแป๊ะทงเพียงต้องการประจบเอาใจอึ้งย้ง
ดังนั้นไม่กล่าวมากความ ตวัดมือไปมา👋
เสียงดังฉาด❗️ ฉาด❗️
เมื่อตบหน้าก๊วยเจ๋งอย่างหนักหน่วง
จนก๊วยเจ๋งหน้ามืดวูบวาบสองข้างแก้มบวมแดงขึ้น😵
จิวแป๊ะทงยังกล่าวอีกว่า
“อึ้งโกวเนี้ย พอแล้วหรือไม่ ❓ หากยังไม่เพียงพอเราจะตบตีให้ท่าน ”
อึ้งย้งเห็นสองข้างแก้มก๊วยเจ๋งบวมแดงขึ้น
ปรากฏรอยนิ้วมือแดงถนัดชัดตา เพลิงโทสะเต็มอก
พลันมลายกลายเป็นความรักเวทนา
ภายใต้อารมณ์นี้จึงหนุนให้อึ้งย้งมีโทสะต่อจิวแป๊ะทง😡
.
“ข้าพเจ้ามีโทสะต่อเขา เกี่ยวข้องใดกับท่าน
ผู้ใดให้ท่านลงมือตบตีคน”
จิวแป๊ะทงพลันแลบลิ้นที่😜ประจบสอผิดพลาดว่าแล้วจึงตีจากทั้งสองไป..
เฒ่าทารกนับเป็นตั่วกอที่มาช่วยน้องร่วมสาบานและน้องสะใภ้ให้คืนดีกัน
ด้วยวิธีการหนามยอกต้องเอาหนามบ่งอย่างแท้จริง...นี่เป็นความฉลาดของเฒ่าทารกประการนึง
...ในเวลาต่อมาด้วยการสนับสนุนจากยาจกอุดร อั้งฉิกกง
และด้วยความรักที่อึ้งย้งมีต่อก๊วยเจ๋ง
ก๊วยเจ๋งจึงผ่านด่านงักแป๋ หรือพ่อตาสุดพิสดาร
ของตนได้ครองคู่อยู่ร่วมกับอึ้งย้งคนรัก ณ เกาะดอกท้ออย่างเป็นสุข...
.🌸🌸🌸
.
เหล่าชาวยุทธหากได้ติดตามเรื่องมังกรหยกภาคแรก
ก๊วยเจ๋งยอดวีรบุรษ ก็จะเห็นได้ว่า หากไม่มี “#อึ้งย้ง”
อาจไม่มีจอมยุทธก๊วยเจ๋ง ฉายาผู้กล้าอุดร ในวันนี้
เพราะก๊วยเจ๋งเป็นคนที่เชื่อฟังคนรักของตน
จึงได้เรียนวิชา 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรกับยาจกอุดร #อั้งฉิกกง เมื่อตามมาหาอึ้งย้งที่เกาะดอกท้อ ยังมีวาสนาได้ร่ำเรียนวิชาจากเฒ่าทารก #จิวแป๊ะทง
แม้ภายหลังวิชาฝีมือของเกาะดอกท้อและคัมภีร์เก้าอิม
ก๊วยเจ๋งศึกษาวิชาเพิ่มเติมจากพ่อตาของตนเองอีกด้วย
กล่าวได้ จอมยุทธก๊วยเจ๋งนั้นได้ดีเพราะมีภรรยาเช่นอึ้งย้งก็ว่าได้
....
อึ้งย้งนั้นให้กำเนิดบุตร 3 คนแก่ก๊วยเจ๋ง คือ
ก๊วยพู้ ก๊วยพั่วลู่ ก๊วยเซียง
ยามบ้านเมืองเกิดสงครามกับมองโกล
ก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง ก๊วยพู้ ก๊วยพั่วลู่ ซึ่งเป็นบุตร
ปกป้องเมืองเซียงเอี้ยงจนตายในเพลิงสงคราม🔥
จึงเหลือรอดแต่เพียง ...ก๊วยเซียง ซึ่งมิได้ตายในคราวเมืองเซียงเอี้ยงแตกทำให้ก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งยังคงมีทายาทสืบทอดอยู่คือ
ก๊วยเซียง ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสำนักง้อไบ๊ และเป็น 1ใน 6 สำนักใหญ่แห่งบู๊ลิ้มตงง้วน...เรื่องราวของก๊วยเซียงและง้อไบ๊
ข้าพเจ้าขอเขียนถึงในช่วงของดาบมังกรหยกครับ
...
เป็นอันจบเรื่องราวของอึ้งย้ง ขงเบ้งหญิงแห่งจักรวาลมังกรหยก
ตั้งแต่ภาคปฐมบทจนถึงภาคปัจฉิมบท
ชาวยุทธทั้งหลายจะเห็นได้ว่าเรื่องของอึ้งย้งใน มังกรหยกภาค 1 (ก๊วยเจ๋ง ยอดวีรบุรุษ) นั้น ล้วนผูกพันกับ #คัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง
ตั้งแต่ยามเกิดมามารดาก็ด่วนตายจากเพราะคัมภีร์เก้าอิมฯ
ยามทะเลาะกับบิดาเพราะเฒ่าทารกจิวแป๊ะทง
ซึ่งเป็นผู้ดูแลรักษาคัมภีร์เก้าอิม
ยามประลองเลือกคู่ครองซึ่งก็ใช้คัมภีร์เก้าอิมฯ เป็นตัวตัดสิน
แม้แต่ยามถูกศัตรูไล่ล่าก็ยังเพราะคัมภีร์เก้าอิมฯ เป็นเหตุ
จนได้มาแต่งงานกับชายคนรักซึ่งก็เป็นผู้ที่สำเร็จคัมภีร์เก้าอิมจินเก็งผู้หนึ่ง แม้ยามตายอึ้งย้งยังซ่อนวิชาในคัมภีร์เก้าอิมไว้ที่กระบี่อิงฟ้าเพื่อให้วีรชนคนรุ่นหลังใช้กู้ชาติ จนเป็นที่มาของเรื่อง #ดาบมังกรหยก เสมือนคัมภีร์เก้าอิมฯนี้ก่อให้เกิดบุญคุณความแค้นในยุทธจักร ซึ่งล้วนเกี่ยวพันกับ “อึ้งย้ง” ทั้งสิ้น
แม้แต่ชื่อผู้แต่งคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง ยังแซ่ “อึ้ง” นามว่า “เซี้ยง” หรืออึ้งเซียะ (Huang Shang) ซึ่งเป็นแซ่เดียวกับอึ้งย้ง อีกเช่นกัน
นับว่าท่านกิมย้ง ร้อยเรียงความเกี่ยวพันระหว่างอึ้งย้งกับคัมภีร์เก้าอิมได้อย่างแนบเนียนไร้ที่ติจริงๆขอรับ
🦅🦅
คารวะจอมยุทธทุกท่าน🍶🍶
.
อนันตทวิ☯
.
🙏ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ท
โฆษณา