The Rose of No Man’s Land เป็นหนึ่งในเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อทำการเชิดชูพยาบาลที่อยู่แนวหน้าต่างๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เกิดจากสงครามต่างๆ จนทำให้มีผู้รอดชีวิตมากมายในเวลาต่อมา ซึ่งเดิมทีเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นเป็นภาษาฝรั่งเศสเมื่อปี 1918 โดย Louis Delamarre กับชื่อเพลงว่า La rose sous les boulets แล้วจึงได้มีการแปลงออกมาเป็นภาษาอังกฤษในปี 1945 โดย Jack Caddigan and James Alexander Brennan ที่เปรียบพยาบาลด่านหน้าต่างๆ เสมือน “กุหลาบงามเบ่งบานในดินแดนที่ไม่มีศึกสงคราม” (หรือจะเรียกว่าเป็นกุหลาบในเขตปลอดการรบก็ได้) เพราะเป็นข้อตกลงที่เป็นกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เจาะจงไปที่อนุสัญญาเจนีวาที่ระบุเรื่องการคุ้มครองหน่วยพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆ ให้ไม่ถูกโจมตีจากสงครามใดๆ
และ Rose Of No Man’s Land นี่แหละ จึงได้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นที่ Tribute ให้กับความไม่เห็นแก่ตัวและความเห็นอกเห็นใจของพยาบาลด่านหน้าต่างๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จากแบรนด์ Byredo ที่จะมาเรียบเรียงและถ่ายทอดกลิ่นผ่านตัวอักษรว่าแบรนด์จะสื่อสารกลิ่นนี้ออกมาอย่างไรบ้าง
สรุป - Minimal Rose Scent ถือเป็นคำจำกัดความที่ชัดเจนมากที่สุดของ Rose Of No Man’s Land เพราะ เนื้อกลิ่น Tribute ความตรงไปตรงมาของกุหลาบที่หอมสดชื่นก็ได้ และละมุนก็ดี โดยที่มีความเรื่อยๆ เรียบหรู และไม่ดูเป็นโทน Classic สไตล์แนวกุหลาบแดงกำมะหยี่คุณนายมาจากไหน ทำให้อารมณ์กลิ่นมาแบบกุหลาบงามท่ามกลางโทนสว่างนวลรายล้อมแบบที่สวยงามทางกลิ่นแบบไม่ต้องพยายาม ที่สำคัญนี่เป็นอีกหนึ่งกลิ่นกุหลาบที่ผู้เขียนสามารถใช้งานได้โดยที่ไม่มีอาการติดเอียนจนเวียนหัว ซึ่งประทับใจมากเลยทีเดียว