30 ส.ค. 2021 เวลา 08:38 • ท่องเที่ยว
สวิสเซอร์แลนด์ (5) .. Luzern เมืองเก่า ภูเขา และสายน้ำ .. ความโรแมนติกแบบลูเซิร์น
Luzern ไม่ใช่เมืองที่เจริญทางเศรษฐกิจหรือการค้ามากอย่างเมืองใหญ่อื่นๆ อย่าง Geneva หรือ Bern ... แต่ Luzern เติบโตขึ้นจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของความนิยมทางของการท่องเที่ยวในช่วงศตวรรษที่ 19
 
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเมืองลูเซิร์น ที่ตั้งอยู่ใจกลางประเทศและใกล้กับเมือง Zurich ที่เป็นเมืองหลักของการเดินทางทางอากาศและรถไฟในยุโรป
.. จึงทำให้ผู้คนได้มีโอกาสมาสัมผัส Luzern และประทับใจในความสวยงามของเมืองใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาสีขาวทั้งยอดเขา Rigi และ Pilatus ทั้งมีเสียงของสายน้ำจากแม่น้ำ Reuss สะพานไม้เก่าแก่อันเลื่องชื่อที่พาเราไปสู่เมืองเก่าอันสวยงามและคึกคัก
ในยามเย็นที่อากาศสดใส .. เราเห็นพ้องต้องกันว่า การไปเดินเล่นรอบทะเลสาบ Luzern ที่ใสสะอาด เป็นทางเลือกที่นาสนใจ
เมือง Luzern เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในส่วนของปากแม่น้ำที่เพิ่งแยกออกจากทะเลสาบ ตั้งอยู่ในจุดที่แม่น้ำรอยซ์และทะเลสาบลูเซิร์นไหลมาบรรจบกัน .. เมื่อเดินออกมาทางสถานีรถไฟ จะมีสะพานใหญ่ที่ทางซ้ายมือจะเป็นแม่น้ำ Reuss และทางขวามือคือทะเลสาบ Luzern
ด้วยภูมิประเทศเป็นปากแม่น้ำเช่นนี้ ในสมัยโบราณเมือง Luzern จึงเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเงียบๆเท่านั้น จนกระทั่งได้มีการสร้างรถไฟสายแรกของสวิสฯที่นำผู้คนขึ้นไปยังยอดเขาในปีค.ศ. 1871 .. ยอดเขานี้ คือ ยอดเขา Rigi-Kulm ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขา Rigi ด้วยความสูง 1,798 เมตร
การท่องเที่ยวโดยรอบทะเลสาบ Luzern จึงคึกคักขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีการสร้างโรงแรมที่พักขึ้นมากมายเพื่อรองรับการบูมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนี่งของสวิสเซอร์แลนด์
การเดินเที่ยวในใจกลางเมือง Luzern ไม่ยาก .. หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเริ่มท่องเที่ยวที่จุดใดของเมือง ก็แค่ไปที่ศูนย์การท่องเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับทางทิศใต้ของสะพานชาเปล เป็นจุดหมายแรก .. ศูนย์การท่องเที่ยว มีแผนที่และแผ่นพับเชิงประวัติศาสตร์ที่แนะนำสถานที่ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว
ทะเลสาบ .. สิ่งเราเห็นว่าโดดเด่นมากๆ คือ น้ำที่ใสสะอาด มีภาพของเรือต่างๆ ที่เป็นทั้งการนำเรือออกมาโลดแล่นไปตามสายน้ำในวันที่อากาศดี ฟ้าสวย
Luzern เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขา .. มีฉากหลังเป็นเทือกหลายอัน ทั้งเขาแอลป์ เขาริกิ และเขาพิลาทุสหรือเขามังกร ด้วยเหตุนี้อากาศจึงเย็นตลอดทั้งปีในเมืองแสนสวยแห่งนี้
หากคุณอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศฟินๆ และล่องเรือ ที่ท่าเรือมีเรือที่ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย ..
.. ว่ากันว่า เมื่อแล่นเรือออกไป จะได้เห็นภาพของงามของหมู่บ้าน และบ้านหลังน้อยๆ ริมเขาแบบใกล้ๆ หรือแม้แต่แค่ล่องไปอ้อยอิ่งกลางทะเลสาบเฉยๆ ก็ยังมีความสุขไม่รู้จบ .. เสียดายที่เราไม่มีเวลาพอ
The Church of St. Leodegar .. ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบ ผู้คนมักจะรียกกันว่า The Twin Tower ยอดแหลมแฝดของโบสถ์ St. Leodegar ที่สูงเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทำให้มองเห็นได้จากหลายมุมของเมือง
Church โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในระหว่างปี 1633 – 1639 โดยใช้รากฐานจากโบสถ์โรมันที่ถูกเผาผลาญไปแล้วในปี 1633 .. จากนั้นจึงได้สร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมาแทน และถือว่าเป็นโบสถ์เพียงไม่กี่แห่งที่สร้างทางตอนเหนือของภูเขาแอลป์ในช่วง 30 ปีของสงคราม ในยุคเรเนซองส์
ภายในของโบสถ์สวยงามด้วยศิลปะเก่าแก่ อันเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนสำคัญของคริสต์ศาสนา .. โดดเด่นด้วยผลงานศิลปะอันวิจิตร งานแกะสลักฝีมือประณีต และออร์แกนโบราณ
เราออกมาเดินชมเมือง .. ร้านอาหารใกล้ทะเลสาบ มีที่นั่งกลางแจ้ง บรรยากาศสุดฟิน ด้วยบรรยากาศของฟ้าใสๆ ลมเย็นๆ .. จะทาน Lunch หรือ Dinner ก็รู้สึกดีสุดๆกับการเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ระหว่างอิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรส
Luzern จึงมีความพิเศษ มีชื่อเสียงจากย่านเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ควรค่าต่อการออกมาเดินชมเมือง สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ
เมืองเก่า กับการวาดภาพฝาหนังบ้านที่มีเรื่องราว .. ลูเซิร์นเล่าเรื่องความสำคัญของตัวเมือง ผ่านฝาผนังอาคาร เป็นรูปภาพที่มีเรื่องราวและคำคม
.. ตามจัตุรัสเหล่านี้จะได้เห็นลวดลายของตึกเก่าที่น่าดูน่าชม จนเราต้องกดชัตเตอร์กล้องมือเป็นระวิง
ร้านขายของสีสันและการตกแต่งหน้าร้านสวยงาม .. ร้านในสวิสมักจะมีธงประดับ มีรูปปูนปั้นในลักษณะต่างๆวางเอาไว้หน้าร้าน มีป้ายโลหะ ทำให้ดูเปี่ยมสีสันและมีชีวิตชีวามากมาย
ชอบอาคารสีสันสดใสทำให้เขตเมืองเก่าของ Luzern ไม่เหมือนใคร ป้ายเขียนว่า Old Swiss House .. ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านชาเลต์ คือมีหน้าต่างขึ้นมาเป็นเหมือนเพิงเล็กๆ บนหลังคา ชาเลตไม้แบบนี้ทำให้เมืองใหญ่อย่าง Luzern ยังคงความสวยงามและมีเสน่ห์
เราเดินกลับมาที่สถานีรถไฟ เพื่อซื้อซิมการ์ดของโทรศัพท์ ด้วยเหตุที่ซิมที่เตรียมมาจากเมืองไทยไม้ทำงาน โดยไม่รู้สาเหตุ ..
สถานรถไฟใกล้ๆกับ Chapel Bridge เป็นสถานีใหม่ .. สร้างขึ้นและเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 อันเป็นเวลาราว 20 ปีหลังจากที่สถานีรถไฟเดิมถูกไฟไหม้ทำลาย
สถานีใหม่นี้ได้รับการวางผังที่สร้างความสะดวกสบายให้ผู้มาใช้บริการมาก ... พื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่หลายชั้นที่เชื่อมโยงการทำงานต่างๆของใจกลางเมืองเข้ากับทางรถไฟ
.. ช้อปปิ้งอาเขตใต้ดินมีขนาดใหญ่มาก รวมถึงมีชานชาลายาวกว่าสถานีเก่า
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา