31 ส.ค. 2021 เวลา 00:55 • นิยาย เรื่องสั้น
Chapter 7 : ไม่สุข ไม่เศร้า แค่ว่างเปล่า ...
2
อาการนี้เรียกอีกชื่อว่า “หน่วง” มันคือภาวะของการที่เราไม่รู้ว่าอะไรทำให้เรารู้สึกแบบนี้ รู้แค่ว่าเราไม่ได้เศร้า แต่ก็ไม่ได้มีความสุข
และแน่นอนว่า ความรู้สึกแบบนี้มาบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน เวลาที่หัวใจเราว่างเปล่า พร้อมรับอารมณ์ ความรู้สึกเต็มที่
ทั้งที่เมื่อก่อนเราหลงรักตอนกลางคืน มากกว่าตอนเช้าซะอีก มันเป็นช่วงเวลาที่จิตใจสงบ และเงียบที่สุด สมาธิในการทำอะไรหลายอย่างก็ดีมาก แต่ในตอนนี้ความเงียบนั้นมันกลับเป็นความว่างเปล่า
1
ตั้งแต่อาการแบบนี้เข้ามาในชีวิต เรากลับชอบตอนเช้า มากกว่ากลางคืนซะอีก
การได้ตื่นเช้ามาทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่คิดไว้ในตอนกลางคืนของเมื่อวาน มันช่างน่าตื่นเต้น และดูมีหลายอย่างต้องทำ ทำให้เราไม่มีเวลามากพอกับอาการหน่วงนี้
เมื่อได้ทำทุกสิ่งที่อยากทำไปหมดแล้ว พอตกดึก มันเลยกลับรู้สึกว่างเปล่ามากแบบบอกไม่ถูก
เข้าแอปนู้น ออกแอปนี้ เลื่อนหาหนังใน Netflix ต่อด้วยช่อง Youtube ที่ชอบ แต่มันกลับไม่ได้มีความสุขขึ้นมาเลย
หรือจริง ๆ มันคืออาการของคน Extrovert ที่ต้องมาอยู่บ้านเป็นเวลานาน ?
ถ้าใครไม่ใช่คนที่ทุกวันศุกร์ต้องออกไปสังสรรค์กับเพื่อน , วันหยุดต้องหาที่เที่ยว , เวลาอ่านหนังสือก็เลือกที่จะไป Starbuck ข้างนอก ฯลฯ คงไม่เข้าใจว่าการต้องให้คนแบบนี้มาอยู่บ้านเป็นเวลาหลายเดือน มันต้องรู้สึกแบบไหน ...
แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่ทำได้คือ “หาความสุขใหม่ ๆ”
เราค้นพบว่า เราชอบตื่นเช้ามา เพื่อทำกับข้าว ฟังเพลง อ่านหนังสือ รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ อย่างวันนี้ก็พึ่งออกไปเดินออกกำลังกายรับลมยามเช้า และกลับมานั่งเขียนบทความนี้ แทนการเขียน Morning Pages (การเขียนอะไรก็ได้ยามเช้า เพื่อปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ตัวเอง ในช่วงเวลาที่สมองโล่งมากที่สุด)
เมื่อเรามีอะไรต้องทำ เมื่อเรารู้ว่าเราต้องทำอะไร อาการหน่วงก็หายไป
แต่ ...
ความสุขใหม่ ๆ ที่ว่า มันอยู่ในช่วงเวลาเช้า/กลางวัน/เย็น ทั้งหมดเลยนะสิ แล้วตอนกลางคืนหละ ?
เราเริ่มหาความสุขใหม่นั้นอีกครั้ง ในโหมดกลางคืน ซึ่งพบว่าเราชอบฟังเพลงเสียงดัง กับลำโพงคู่ใจ เปิดมันวนไปแนว Pop R&B
แต่มันไม่ถาวรนะสิ มันแค่ความสุขช่วงเวลาหนึ่ง สุดท้ายความจริงคือเราอยู่บนเตียง และไม่รู้จะทำอะไร และเกิดความรู้สึกว่า ทำไมมันว่างเปล่าจังนะ
เราก็คิดว่าหรือเราแค่เหงา เราอยากมีใครสักคนในช่วงเวลากลางคืนแบบนี้ ก็เลยได้คุยกับคน ๆ นึง ที่ดูเหมือนไม่พูดอะไรก็เข้าใจกันไปซะหมด เราก็คิดว่า นี่แหละ สิ่งที่เราตามหา
แต่อยู่ ๆ ประโยคนี้ก็เข้ามาในหัว “It seems like I got everything I want, but it’s not real”
ความหมายมันก็ตรงตัวแบบนั้นเลย มันเหมือนว่าเราได้ทุกสิ่งที่อยากได้ ทำทุกสิ่งที่อยากทำ แต่มันไม่ใช่ของจริง มันก็แค่ความสุขช่วงเวลานั้น
หรือความจริงแล้ว คน Extrovert แบบเรา แค่ต้องการชีวิตเรียบง่ายที่เป็นปกติ สามารถออกไปข้างนอกได้ เห็นแสง สี เสียง ยามค่ำคืน เห็นความวุ่นวายของกลุ่มคน
จนถึงตอนนี้ เราก็ไม่รู้อยู่ดี ว่าไอความรู้สึกไม่ได้เศร้า ไม่ได้มีความสุข แต่ว่างเปล่านี้ มันมาจากไหน และต้องทำยังไงมันถึงจะหายไป
เราอาจต้องทำความรู้จักกับมันแล้วแหละ เพราะมันเป็นเพื่อนเราทุกค่ำคืนเลย ...
โฆษณา