31 ส.ค. 2021 เวลา 03:37 • ท่องเที่ยว
สวิสเซอร์แลนด์ (6) .. Stein Am Rhien เมืองเก่า เล่าเรื่องอดีต
Stein Am Rhien .. เป็นเมืองเก่าริมแม่น้ำไรน์ ที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโบราณยุคกลางที่สวยงามไว้ได้อย่างสมบูรณ์
Stein Am Rhien ..ได้รับรางวัล The First Wakker Prize เมื่อปี 1972 ในฐานะที่อนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมไว้แป็นอย่างดี
เมืองนี้มีประชากรราว 3000 คน มีพื้นที่แค่ 6.06 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆที่มีถนนสายหลัก Rathausplatz เพียงสายเดียว และมีแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน โดยตั้งอยู่ ณ จุดที่น้ำตกคอนสแตนท์ Konstanz สิ้นสุด และกลายเป็นแม่น้ำไรน์
เราเดินทางมาถึงเมืองนี้ในช่วงเช้ากลางฤดูใบไม่เปลี่ยนสี อากาศจึงค่อนข้างเย็น มีหมอกขาวลอยตัวต่ำโอบกอดเมืองเป็นส่วนใหญ่ .. ประตูทางเข้าสู่ถนน Rathausplatz และจตุรัสของเมือง จึงดูเลือนรางท่ามกลางสายหมอก
ท่ามกลางสายหมอกที่เย็นเยียบ เรายังสามารถมองเห็นอาคารต่างๆที่โดดเด่นในสายตา .. เป็นเมืองที่มีจุดเด่นด้านสถาปัตยกรรม บ้านเรือนปลูกสร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ หรือในยุคกลาง ทว่าเปี่ยมเอกลักษณ์ในเรื่องของการนำเสนอเสนอเรื่องราวต่างๆ ออกมาเป็นงานศิลปะภาพวาดสีน้ำปูนเปียก สไตล์ Fresco แทบจะทุกบ้าน
.. ใครบางคนบอกว่า เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่มีเลขที่บ้าน จึงสร้างความแตกต่างด้วยการวาดภาพสีสดใสประดับให้สุงเกตุได้ง่ายๆ เช่น บ้านพระอาทิตย์ บ้านวัวแดง
เสน่ห์อย่างหนึ่งที่เราชอบมาก คือ .. นอกจากภาพเขียนสีจากยุคกลางแล้ว บางบ้านมีมุขยื่นออกมา เหมือนโดมระเบียงไม้เล็กๆ ประดับอยู่ด้วย พร้อมภาพวาดเฟรสโกสวยๆ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี สภาพสมบูรณ์มาก .. การเดินเล่นบนถนนสายกลางเมืองนี้สำหรับเราจึงเพลิดเพลินมากมาย
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Wohnmuseum Lindwurm ... จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ มีภาพวาดตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 รวมถึงจำลองเรื่องราวของผู้คนที่นี่ในสมัยโบราณย้อนไปเมื่อปี 1850 ให้เราได้เรียนรู้ … แต่ช่วงเช้าที่เราไปถึง พิพิธภัณฑ์ยังไม่เปิดค่ะ
บริเวณจัตุรัสใหญ่ Rathausplatz ... ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจัตุรัสที่สวยแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์
อาคารต่างๆที่สวยและน่าสนใจมีอยู่มากมาย .. เป็นความสนุกสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ในการกดชัตเตอร์
ตรงกลางจัตุรัสเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการของเมือง Rathaus .. โดดเด่นมาก และมีภาพเขียนสี Fresco ที่งดงามอลังการ เป็นจุดที่เมื่อใครมาเยือนเมืองนี้แล้ว ต้องมาเก็บภาพ เป็นมุมมหาชนอีกจุดหนึ่ง
ศาลาว่าการของเมือง .. โดดเด่น สวยงาม
อาคารส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้ที่เราสังเกตเห็น .. จะมีลักษณะเหมือน Shop house คือ ด้านล่างจะทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ส่วนด้านบนก็เป็นที่พักอาศัยของเจ้าของร้าน .. เห็นแล้วให้นึกถึงร้านของคนจีนในเมืองไทยสมัยหลายสิบปีก่อน ที่มีลักษณะการใช้สอยเหมือนกันกับที่นี่
น้ำพุโบราณ .. ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของเมืองนี้ น้ำพุกระเหล่านี้จายตัวอยู่ทั่วทั้งเขตเมืองเก่าเดินไปไม่เท่าไหร่ก็จะเจอ และเป็นจุดที่นักเดินทางชื่นชอบที่จะมาโพสท่าถ่ายภาพด้วย
ถนนใหญ่ Rathausplatz ซึ่งเป็นถนนสายเดียวของเมืองนี้ เป็นที่ตั้งของอาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร ที่เรียงรายอยู่ทั้งสองฝากของถนน .. ดูหมือนว่างานศิลปะจะอยู่ในลมหายใจของคนที่นี่เสมอ สื่ออกมาผ่านความมีมิติของงานศิลป์ที่มากมายที่สวยงามจนหลายคนต้องมองเหลียวหลัง
ไม่เว้นแม้กระทั่ง จักรยานเก๋ๆ ชิ้นงานที่วางประดับหน้าร้าน รวมไปถึงไอเดียการตกแต่งร้านที่กิ๊บเก๋ น่าเข้าไปนั่งจิบกาแฟหอมๆสักแก้ว หรือดื่มเครื่องดื่มสีสวยในขณะที่ส่งสายตาออกไปมองผู้คนที่เป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวของเมือง .. แต่เรามาถึงเช้ามาก เลยยังไม่มีร้านไหนเปิดบริการ
 
น้ำพุ Tellerbrunnen … น้ำพุโบราณนี้ ตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารที่มีภาพเขียน Fresco สวยงามอลังการมาก และอยู่เยื้องๆกับศาลาว่าการของเมือง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาเช๊คอิน และเก็บภาพมากที่สุดจุดหนึ่งในจัตุรัสแห่งนี้ มีเรื่องราวตำนานที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ
น้ำพุ Tellerbrunnen .. มีตำนานเล่าขานกันมาว่า ชื่อของน้ำพุมาจากชื่อของ William Tell ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ Habsburg จากออสเตรีย-ฮังการีที่เข้ามารุกรานบ้านเมืองในสมัยนั้น
William Tell เป็นนักยิงหน้าไม้ที่แม่นมาก (หากเป็นสมันนี้ ก็คงเหมือนนักแม่นปืนค่ะ) เขาเดินทางล่าสัตว์ ปีนเขา เข้าป่า .. วันหนึ่งเค้าเข้าไปในเมืองที่มีเจ้าเมืองซึ่งมาจากราชวงศ์ Habsburg
เจ้าเมืองคนนี้ได้แขวนหมวกเอาไว้ ให้ทุกคนที่เดินโค้งคำนับ .. William Tell เดินผ่านหมวก แต่กลับไม่ยอมคำนับ และแน่นอนค่ะ เขาถูกจับกุมตัวพร้อมกับลูกชายที่เดินทางมาด้วยกัน
เจ้าเมืองได้ตัดสินโทษประหารกับทั้งสองคน .. แต่มีการลองเชิง William Tell ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่ยิงธนูแม่นมาก ด้วยการท้าว่า หากเขาสามารถยิงลูกแอปเปิ้ลที่วางไว้บนหัวของลูกชายได้ ทั้งคู่ก็จะพ้นโทษประหาร
เรื่องนี้สำหรับหรับ William Tell แล้ว IT’s a piece of cake เรื่องกล้วยๆ .. เขาสามารถยิงลูกแอปเปิ้ลได้สำเร็จในครั้งเดียว พ่อลูกจึงรอดตายจากโทษทัณฑ์ที่ไม่ยอมคำนับหมวก
แต่ .. เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น เมื่อเจ้าเมืองเห็นว่า William Tell มีลูกดอกสองดอก เลยถามว่าทำไมถึงต้องใช้สองอัน .. William Tell เลยตอบว่าถ้าเค้ายิงพลาดไปโดนลูกชายก็จะใช้ลูกดอกอันที่สองนี่ล่ะยิงเจ้าเมืองซะ!
แน่นอนค่ะ .. พอเจ้าเมืองได้ยินแบบนั้นก็โกรธจนลมออกหู ...William Tell ก็เลยโดนส่งไปจำคุกตลอดชีวิตแทน แต่ในระหว่างทางได้เกิดพายุขึ้น เรือที่พาเจ้าเมืองและ William Tell รวมทั้งเหล่าทหารทำท่าจะล่มกลางทะเลสาบลูเซิร์น ...
... ทหารจึงขอร้องเจ้าเมืองให้แก้มัด William Tell จะได้มาเป็นแรงงานอีกหนึ่งคนในการช่วยกันพายเรือไปให้ถึงฝั่ง .. ในช่วงที่ได้รับการแก้มัด และเกิดชุลมุนจากพายุ William Tell กระโดดไปยังโขดหินใกล้ๆ แล้วหลบหนีได้สำเร็จ
ต่อมา William Tell ได้ลักลอบเข้าเมืองไปดักรอเจ้าเมือง แล้วก็สังหารเจ้าเมืองด้วยลูกดอกอันที่สองได้ในที่สุด ... เรื่องราวของเขาได้จุดชนวน เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนลุกฮือขึ้นมาต่อต้านออสเตรีย ทำให้ William Tell กลายเป็นฮีโร่ของประเทศสวิสไปเลยค่ะ
โบสถ์ประจำเมือง .. Monastery of St. Georgen อาคารในเฉดสีแดงสดใส
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา