31 ส.ค. 2021 เวลา 04:57 • การศึกษา
จากผลการโหวต จากคนทั่วโลกในการประกาศผล 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ซึ่งทางองค์กร New 7 wonders
ได้ประกาศผล 7 สิ่งสถานที่เข้าชิง เมื่อวันที่ 7 เดือน 7 2007 ที่ผ่านมา (โหถือว่าพึ่งเป็นปีเกิดของผู้เขียนเลยค่ะ) 😅😆 เเละสิ่งเหล่านี้คือ 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่ค่ะ
1.ชิ เชน อิตซา ประเทศเม็กซิโก 🇲🇽🌮
ชิ เชน อิตซา
ชิ เชน อิตซา
เป็นส่วนหนึ่งของวิหารจำนาวนมากซึ่งพวกมายาได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้าผู้กระหายพระโลหิต ตัววิหารก่อสร้างซ้อนกันเป็นชั้นๆ
บนเนื้อที่ราว 6.4 ตารางเมตร วิหารที่ใหญ่สุดมีชื่อว่า “ มหาวิหารแห่งนักรบ” สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 12 สร้างทีหลัง “ วิหารเก่าแห่งช้คมูล “ ตรงกลางสร้างเป็นประสาทคือเหลี่ยมทึบสูงขึ้นไปใช้เป็นที่ทำพิธีสังเวยพระเจ้า โดยใช้เด็กสาวยนลงไป ถวายพระเจ้า ณ ที่นั้น
ลักษณะโดยทั่วไปของชิเชน อิตสา ทำเป็นรูปเหลี่ยมรลดขั้ว เป็นชั้นๆ มีบันไดกลาง รอบทำเป็น บริเวณตลาดทำนองเดียวกับสถานสถิตย์ยุติธรรมของพวกโรมันซึ่งอยู่กลางเมือง ที่สาธารณะ ที่รวมของฝูงประชาชน ชนเผ่ามายาแห่งเม็กซิโก
-ศึกษามาจากคนพวกแรกที่เดินทางจากเอเชีย ข้าวมายังอเมริกา ทางช่องแคบเบริ่ง ได้มีการพัฒนาทางวัฒนธรรมทั้งในด้านเหี้ยมโหด และความมีสติปัญญาอันสูงส่งในขนาดเดียวกัน
พวหมายาฝึกความเสียสละด้านมนุษยชาติ ควักหุวใจผู้ที่รับการบูชาออกสุงเวยพระเจ้า ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาความรู้ด้านดาราศาสตร์ สถานปันยกราม ทางอักษรศาสตร์ ด้านการเขียนบันทึกด้วยตัวอีกษรพิเศษ
เเละการค้นพบค่าของเลขทางคณิตศาสตร์ เเต่ก็น่าเเปลกนะคะที่ไม่ได้ค้นพบประโยชน์จากการล้อเลียน
⚪️ ศูนย์กลางของอารยธรรมของคนพวกนี้ อยู่ที่ชิเชนมอิตสา ในคาบสมุทร ยุกาตัน ผู้คนพบอารยธรรมเหล่านี้นำมาออกเผยเเผ่ให้คนทั่วโลกได้ทราบ คือ **นายธอมป์สัน ** ชาวอเมริกา
2. รูปปั้นพระเยซูคริส ประเทศบราซิล 🇧🇷
รูปปั้นพระเยซู
รูปปั้นพระเยซูที่โปรดให้พ้นบาปยืนสูง 300 เมตร (98 ฟุต) และกำลังมองข้ามเมือง Rio de Janeiro เป็นรูปปั้นที่สูงที่สุดในโลก บ้านพระเยซู ยื่นแขนออกมาต้อนรับและเป็นหนึ่งของสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนี้
ออกแบบโดยวิศวะกร “ Heitor da silver costa และองค์กรสร้างขึ้นในปี 1921 ก่อสร้างแล้วเสร็จเกือบ 5 ปี
รูปปั้นอยู่บนภูเขา Corcovado (ภูเขาHunch back) และตั้งอยู่มนอุทยานเเห่งชาติ Tijiuca เป็นสถานที่ปิกนิกของนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปฐานของรูปปั้นซึ่งสูง 709 เมตรหรือ 2326 ฟุตสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขา Rio de Janeiro และชายหาด Rio de Janeiro
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟไปยอดของภูเขาเพื่อมองรูปปั้นอย่างใกล้ชิดและเห็นวิวที่สวยงามมากมาย
3. มาชู ปิกชู ประเทศเปรู 🇵🇪
มาชู ปิกชู
มาชู ปิกชู⛰
 
แห่งอาณาจักรอินคา (Inca city, Machu Picchu) ตั้งอยู่ที่เมืองคุสโช ประเทศเปรู มาชู ปิกชู อยู่บนยอดสูงมีบริเวณรอบๆ รวมแล้วความสูงของหน้าผาประมาณ 304.8 เมตร (1,000 ฟุต) ฮิแรม บิงแฮม
นักสำรวจชาวอเมริกันพบในปี ค.ศ.1911
บริเวณนั้นเป็นป่าใหญ่คลุมพื้นที่อยู่ นอกจากสิ่งก่อสร้าง ปรักหักพังบางส่วน
ที่โผล่อยู่ให้เห็นสิ่งก่อสร้างดังกล่าวบ่งบอกให้เห็นความสามารถยอดเยี่ยม เชิง
สถาปัตยกรรมของชาวอินคาในอดีต
เพราะมีทั้งโบสถ์วิหาร อ่างหินสำหรับเก็บน้ำ
บันไดหินเป็นพันๆ ขั้น เพื่อเป็นทางทอดระเบียงลงไปในที่ต่างๆ แห่งนครภูเขานี้
4.กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน🇨🇳
กำเเพงเมืองจีน
กำแพงเมืองจีน (Great Wall of china)
เป็นกำแพงกั้นเมือง และกั้นประเทศตามพรมแดนด้านเหนือของจีน เป็นกำแพงที่
ยาใหญ่มหึมา มีขนาดกว้างตั้งแต่ 4.5-7.5 เมตร(10ฟุต) มีความสูงจากพื้นด้านล่าง ตั้งแต่ 8-9เมตร (20-30 ฟุต หนา 15-25 ฟุต)
ได้รับขนานนามว่ากำแพงหมื่นลี้ เพราะมีความยาวถึง 14,600 ลี้ (ราว 6,700กิโลมตร) บนกำแพงทุกๆ ระยะ 200 เมตร (300 ฟุต) จะมีหอหรือป้อม สำหรับตรวจเหตุการณ์ มีป้อมมากกว่า 15,000 แห่ง
สร้างสูงขึ้นไปอีก 3 เมตร ถึง 6 เมตร และมีระฆังแขวน เพื่อตีบอกสัญญาณเกิดเหตุ ไว้ประจำทุกหอ รวมทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า
เริ่มสร้างระหว่างปี 243-252 ปี ก่อนคริสตกาล ในสมัยพระเจ้าซี่วังตี่(จิ้นซี ฮ่องเต้) มีการสร้างต่อเติมอีกหลายครั้งใช้แรงงานเกณฑ์จากราษฎรทั้งประเทศหลายล้านคน มีผู้เสียชีวิตเรือนหมื่น อีกทั้งยังเป็นสิ่งก่อสร้างชนิดเดียวในโลก ที่สามารถมองเห็นจากดวงจันทร์
5.เปตา ประเทศจอร์แดน🇯🇴
เปตา
สีของหินกลมกลืนกัน ตัวตึกสี เลือดนก สีกุหลาบและสีม่วงเป็นลำดับ ถือกันว่าเป็นศูนย์กลางของอารยธรรม เบื้องต้นของเขตตะวันออกกลางที่เรียกว่านาบาทีนส์ คนแถบนี้เป็นพวกเร่รอน
อาชีพเลี้ยงแกะอยู่ไม่เป็นที่ เป็นพวกชอบทำ ธุรกิจค้าขายเครื่องเทศจากตะวันออก ไปยังเขตเมดิเตอร์เรเนียน
จากนั้นก็ขนส่งลงเรือไปสู่ยุโรป ในช่วงเวลาที่มีการค้าขายอย่างกว้างขวางกับอาณาจักรต่างๆ สืบมาจนถึงปัจจุบันได้ใช้เส้นทางในเขตซีเรียสู่ซาอุดีอารเบีย โดยอาศัยกองคาราวานขนส่ง
ได้สร้างความร่ำรวย และอำนาจราชศักดิ์ จนได้กลายมาเป็นนครเปตราขึ้นจากพวกอีโดไมท์ ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงในราว 300 ปี ก่อนคริสต์กาล
สิ่งก่อสร้างสำคัญชิ้นหนึ่งในนครเปตรา คือ มหาวิหารกวาซร์ ฟีราโอน ซึ่งสร้างสมัยพระเจ้าอาเรตัสที่ 4 มหาราชของชาวนาบาทีนส์ ซึ่งครองราชย์ระหว่าง 9ปีก่อน ค.ศ. จนถึง ค.ศ.40
การบูรณปฏิสังขรณ์นครเปตรากำลังดำเนินอยู่อย่างมากในปัจจุบัน นครแห่งนี้ถูกคันพบในรูปปรักหักพังมาตั้งแต่ ค ศ. 1812 นับเป็นนครที่ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้ไปชมปีละมากมาย
6 ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย🇮🇳
ทัชมาฮาล
ทัชมาฮาล
ป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะที่นี่เป็นสุสานศพของ มุมทัชมาฮัล ราชินีผู้ปีนที่รักของ พระเจ้าชาห์เยยัน อยู่ในเมืองอัศระ บนแม่น้ำยมนา ประเทศอินเดีย มุมทัชมาฮาล เป็นมเหสีที่พระเจ้าชาห์เยฮันรักที่สุด
พระนางสิ้นพระชนม์เพราะคลอดโอรสองค์ที่ 15 ซึ่งทำให้พระเจ้าชาห์เยยันโศกมาก พระองค์จึงสร้างที่ฝังศพที่ใหญ่โตที่สุดในโลกขึ้นที่ริมแม่น้ำ
สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1630 -1648 สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์ ตามถาปัตยกรรมเปอร์เซีย โดยสถาปนิก อุสตาด ไอสา (Ustad (sa) มีผู้ร่วมออกแบบ ช่างเขียนลวดลาย ช่างอิฐ ช่างปูน ช่างประดับลวดลายด้วยการสลัก
ช่างตกแต่งภายใน รวม 20,000 คน วัตถุในการก่อสร้าง
คือ หินจากเมืองมะครานา หินอ่อนสีแดง จากเมืองฟาตีบุระ หินอ่อนสีเหลือง จากฝั่งแม่น้ำ
นรภัทฑ์ เพชรตาแมวจากกรุงแบกแดด ปะการัง และหอยมูกจากมหาสมุทราอินเดีย หินเจียรไนสีฟ้าจากเกาะลังขะ เพชรจากเมืองบนทลขัณฑ์
สิ้นเงินค่าก่อสร้าง 50,000,00เหรียญเมริกัน หรือ ประมาณ 1,000,000,00
ได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลกว่าสร้างขึ้นโดยถูกสัดส่วน และวิจิตางดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 39 เมตร (130 ฟุต) ตรงกลางมีโดมสูง 60 เมตร (200ฟุต)
มีโดมเล็กๆ เป็นหอสูงอยู่ทั้ง 4 มุม ภายในประดับด้วย หินอ่อนสลักอลุเป็นลวดลายวิจิตรตระการตาแทรกเสริมด้วย พลอยสี ทับทิม และนิล ตรงกลางภายใต้หลังคาโดมใหญ่มีแท่นวางหีบศพที่ทำด้วยหินอ่อน
และมีฉากหินอ่อนฉลุลายงามเป็นพิเศษกั้นอีกชั้นหนึ่ง แต่ศพจริงๆ ไม่ได้บรรจุอยู่ในหีบ
ซาร์เจฮันใฝ่ฝันที่จะสร้างที่ฝังศพตัวเองที่ฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามจะเป็นหินอ่อนสีดำ
หากฝังอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินตรงกับที่วางหีบศพนั้น
ภายหลังที่สร้างทัขมาฮังล้วนๆ แต่เมื่อโอรสขึ้นครองราชย์สมบัติจึงจับพระองค์ขังอยู่ได้ 7 ปี ก็สิ้นพระชม์ประมาณปี พ.ศ.2209 (ค.ศ. 1666) แล้วเอาศพไปฝังข้างศพมเหสีผู้เป็นที่รัก ส่วนนายช่างผู้ออกแบบถูกสั่งให้ประหาร เพื่อป้องกันไม่ให้มีโอกาสออกแบบสิ่งก่อสร้าง
ใดๆ ที่สวยกว่า
7 .สนามกีฬาโคลอนเซียม ประเทศอิตาลี 🇮🇹
สนามกีฬาโคลอนเซียม
ตั้งอยู่ในกรุงโรม อิตาลี เป็นสนามกีฬากลางแจ้งสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรโรมันโบราณสร้างขึ้นในระหว่างค.ศ. ที่ 72 ถึง 80 รูปสนามสร้างมีลูกเป็นตึกวงกลมก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่วัดโดยรอบยาว 522 เมตรสูง 57 เมตรมี 4 ชั้น
ภายในมีอัศจรรย์สำหรับคุณนั่งดู จุดูประมาณ 80,000คน ใต้อัศจรรย์และใต้ดินมีห้องสำหรับข้างหน้าโทษทีรการประหาร มีกรงสิงโต
หลาย 100 ห้องใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษ ต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดชนะ ค่าสิงโตด้วยมือเปล่าได้ก็รอดชีวิตได้ ก็รอดชีวิตไป หรือไม่ใช่เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบคมบันดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเอง
ยิ่งถ้าต่อสู้กัน จนถึงสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตาย ก็จะได้รับเกียรติอย่างสูงเพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมและยกย่องกันมากๆ ปีๆหนึ่งต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและถ้าไม่ต่ำกว่า 100 คน
ที่มา : หนังสือรวมวิชา สาระน่ารู้
https://intrend.trueid.net/post/237725 สามารถติดตามผลงาน blog ได้อีกที่ที่นี่เลย
นะคะ 😁😄
โฆษณา