ชื่อ "นิโคลา เทสลา" เป็นที่คุ้นหูใครหลายคนในฐานะชื่อบริษัทผลิตรถไฟฟ้าสุดล้ำของอีลอน มัสก์ แต่บุรุษเจ้าของชื่อที่แท้จริงนั้นเสียชีวิตไปแล้วเกือบแปดสิบปีก่อน และตัวจริงของนิโคลา เทสลา ก็ปราดเปรื่องเรื่องไฟฟ้ายิ่งนัก สมควรแล้วที่จะใช้ชื่อเป็นแรงบันดาลใจ เทสลาได้รับยกย่องเป็นอัจฉริยะนักประดิษฐ์ แต่น่าเศร้าที่มักพ่วงต่อท้ายด้วยคำว่า "ที่โลกลืม"
เทสลาเป็นวิศวกรและนักฟิสิกส์เชื้อสายเซอร์เบีย เกิดปี 1856 ที่จักรวรรดิออสเตรียฮังการี ซึ่งปัจจุบันคือประเทศโครเอเชีย ผลงานจากมันสมองของเทสลาจำนวนมากเปลี่ยนโลกเราตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ หรือ Alternating Current (AC) ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่เราใช้ตามบ้านอยู่ทุกวันนี้ การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ไดนาโม มอเตอร์เหนี่ยวนำ เรดาร์ เอ็กซ์เรย์ รีโมทคอนโทรล รวมไปถึง ‘เทสลาคอยล์’ หม้อแปลงที่สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าระดับสูงได้ ซึ่งเป็นหลักการที่ต่อมาถูกใช้ในการส่งคลื่นวิทยุและโทรทัศน์
เมื่ออายุ 28 เทสลาเดินทางออกจากยุโรปเพื่อแสวงหาความก้าวหน้าในงานวิทยาศาสตร์ที่สหรัฐอเมริกา โดยได้ร่วมงานกับโทมัส อัลวา เอดิสัน ผู้ยิ่งใหญ่อยู่แล้วในตอนนั้น หลายคนจดจำเขาในฐานะผู้ผลิตหลอดไฟ ซึ่งไม่ใคร่จะตรงความจริง เพราะมันเป็นสิ่งประดิษฐ์จากการต่อยอดของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นหลายคน แต่เอดิสันเป็นคนแรกที่นำหลอดไฟเข้าสู่ตลาดพาณิชย์ กลายเป็นสินค้าที่ทุกบ้านต้องมี
และว่ากันว่า ธรรมชาติของความเป็นนักประดิษฐ์ผสมความเป็นพ่อค้าหัวใสของเอดิสันนี่เอง ทำให้เขาและเทสลาต้องแยกทางใครทางมันในที่สุด และต่อมาก็กลายเป็นคู่แข่งกันกลาย ๆ
ในสงครามกระแสไฟฟ้า เอดิสันเชียร์ให้รัฐบาลสหรัฐฯ เลือกใช้ไฟฟ้ากระแสตรง หรือ Direct Current (DC) ซึ่งครองตลาดอยู่แล้ว ขณะที่บริษัทซึ่งว่าจ้างเทสลา หนุนให้หันมาใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเป็นผลงานประดิษฐ์ของเทสลา
หลังการขับเคี่ยวและดิสเครดิตสารพัดวิธี (หลักๆเป็นฝีมือเอดิสัน) และในที่สุดรัฐบาลสหรัฐก็เลือกใช้กระแสไฟฟ้าสลับของเทสลา ด้วยความเหนือกว่าที่ค่อนข้างชัดเจน นั่นคือไฟฟ้ากระแสสลับส่งได้ไกลกว่าไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งก็คือไฟฟ้าลักษณะเดียวกับที่อยู่ในแบตเตอรี่ เวลาส่งกระแสไฟฟ้าทำให้แรงเคลื่อนสูงมากไม่ได้ ต้องเป็นแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่ต่ำ ทำให้ต้องส่งกระแสไฟฟ้ามาก มีค่าการสูญเสียพลังงานไปตามสายส่งไฟฟ้ามากตามไปด้วย แต่ถ้าเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ จะสามารถแปลงกระแสไฟให้เป็นไฟฟ้าแรงสูงก่อนที่จะส่งมาตามบ้านเรือน แล้วมาลดกลับที่ปลายทางโดยผ่านหม้อแปลง ซึ่งยังสามารถแปลงแรงดันให้สูงขึ้น หรือต่ำลงได้ด้วย
นอกจากเป็นนักวิทยาศาสตร์แล้ว เทสลายังเป็นนักฝันผู้ยิ่งใหญ่ ช่วงทศวรรษที 1900 เขาหมกมุ่นหลงใหลระบบการส่งพลังงานอย่างไร้สาย และตั้งใจปั้นโปรเจ็กต์หลุดโลกในการส่งมอบพลังงานฟรีให้กับคนทั้งโลก เขาสร้างโรงไฟฟ้าพร้อมหอส่งขนาดยักษ์ที่ลองไอส์แลนด์ นิวยอร์ก โดยมีนายทุนเงินหนาอย่างเจ.พี.มอร์แกน แต่สุดท้ายมันก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้จริง และไม่มีนายทุนคนไหนสนับสนุนเขาอีกต่อไป
ความซื่อสัตย์กับตัวเองและไม่อาจประนีประนอมทำให้เทสลาต้องเผชิญการกลั่นแกล้งและถูกหักหลัง จนถึงจุดที่เริ่มฟั่นเฟือนและแทบไร้ที่ยืนในสังคม เดิมทีผู้คนก็คิดว่าเขาเพี้ยนนิดๆ อยู่แล้ว แต่ว่ากันว่าบั้นปลายชีวิตเขาเพี้ยนหนักกว่าเดิม
เทสลาเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และเนื่องจากเขาไม่คิดว่าชีวิตสมรสนั้นดีต่อการเป็นนักประดิษฐ์ เขาจึงจากโลกนี้ไปอย่างไร้คู่ครอง
แต่อาจไม่ไร้ซึ่งความรัก เพราะเขาเคยประกาศไว้ชัดว่าเขาตกหลุมรักอยู่กับนกพิราบตัวเมียตัวหนึ่ง อาจฟังดูน่าขัน แต่ก็นั่นแหละ ใครกันจะมองโลกได้อย่างเขาอีก
"If you want to find the secrets of the universe, think in terms of energy, frequency and vibration."
สำนักพิมพ์ Sophia
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
