31 ส.ค. 2021 เวลา 13:53 • ไลฟ์สไตล์
Tea Time..!☕️
กราบสวัสดีงามๆ ผู้อ่านที่น่ารักทุกๆคนวันนี้นิกกี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักเรื่องราว Afternoon Tea และ High Tea กันนะฮับ
ก่อนอื่นนิกกี้ขอให้ผู้อ่านทุกคนย้อนเวลาไปยุครีเจนซี่ หรือยุคอาณานิคมในราวปี 1840 ซึ่งเป็นรอยต่อในยุคที่จะเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ยุควิคตอเรียน และเป็นยุคที่เฟื่องฟูในด้านอารยธรรม ต่างๆ ทางด้านแฟชั่นการแต่งตัวและวัฒนธรรมการกินการดื่มต่างๆในยุคสมัยนั้น และในวันนี้นิกกี้ขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับการดื่มชา
นิกกี้เชื่อว่าหลายหลายคนคงเคยได้ยินประโยคสองคำนี้ คือ Afternoon Tea และ High Tea มาก่อน มาทำความรู้จักกันก่อนเลยครับ
ช่วงเวลาของการดื่มชาที่เกิดขึ้นในอังกฤษประมาณยุคปี 1840 เนื่องจากในสมัยก่อนเวลาอาหารของคนอังกฤษมี 2 มื้อ คือมื้อเช้าและมื้อค่ำ ซึ่งเสิร์ฟตอน 2-3 ทุ่ม ดัสเชสแอนนา ดัสเชสลำดับที่ 7 แห่งเบดฟอร์ด (Duchess of Bedford) จึงสั่งให้มีการตั้งโต๊ะชา ขนมปัง และเค้กเพื่อเสิร์ฟระหว่างวันเพื่อดับความหิว
และดัสเชสก็เริ่มเชิญเพื่อนๆ มาดื่มชาและทานขนมกับเธอจนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อๆ มา โดยชาของอังกฤษแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Afternoon Tea และ High Tea
Afternoon Tea หรือ Low Tea คือช่วงเวลาดื่มชายามบ่าย มักเริ่มทานตั้งแต่ 4 - 6 โมงเย็น เป็นมื้อของว่างระหว่างมื้อเช้าและมื้อค่ำของชาวอังกฤษที่มักทานกันตอนดึก จัดวางบนโต๊ะทรงเตี้ย ถือเป็นเป็นกิจกรรมของหญิงชนชั้นสูง และมีการจัดวางอาหารว่าง ขนมหวานทานคู่กับชาอีกด้วย
และต่อมางานเลี้ยงน้ำชาไม่ใช่เป็นเพียงแค่เป็นการดื่มในกลุ่มเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็สามารถนั่งร่วมโต๊ะดื่มชาได้ด้วยและยังมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมการดื่มชาโดยการนำไวน์ วิสกี้ บรั่นดีแชมเปญ เพิ่มเข้ามาด้วยกับการดื่มชา
ในยุคหลังหลังต่อมาการนั่งดื่มชานั้นไม่ใช่เพียงแค่เป็นการดื่มชาเท่านั้นแต่เป็นดื่มเพื่อพูดธุรกิจ การสร้างพันธมิตรใหม่ และเรื่องอื่นๆ อีกด้วย
ส่วน High Tea คือ ชาที่เสิร์ฟในมื้อเย็นของชนชั้นแรงงาน ทานตอน 5โมงเย็น - 1 ทุ่ม High Tea คือการดื่มชาพร้อมกับอาหารมื้อหลัก เสิร์ฟพร้อมกับขนมปัง เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผัก ผลไม้ และของหวานชนิดต่างๆ เช่น เค้กฟองน้ำ (Sponge cakes), ทาร์ต (Tart), ช็อกโกแลต, แซนด์วิชและขนมอื่นๆ เพราะชนชั้นแรงงานเลิกงานกลับบ้านก็ถึงในช่วงเวลาค่ำพร้อมกับความหิวจึงได้มีการดื่มชาพร้อมกับอาหารค่ำเลยในครั้งเดียว ซึ่งมีการจัดวางบนโต๊ะอาหารทรงสูงรวมกันบนโต๊ะอาหาร จึงเป็นที่มาของคำว่า High ใน High Tea นั้นเอง
ต่อมาการดื่มชาพร้อมอาหารหลักก็ไม่มีจำกัดว่าจะต้องเป็นชนชั้นแรงงานเท่านั้นที่จะดื่มชาพร้อมการทานอาหารค่ำ แต่เป็นการจัดเตรียมเพื่อเตรียมรับรองแขกที่ถูกเชิญมาก่อนงานเลี้ยงมื้ออาหารจะเริ่ม อาจจะเสิร์ฟอาหารว่าง สลัด ผลไม้และขนมต่างๆ พร้อมกับเครื่องที่มีแอลกอฮอล์ด้วยก็ได้
ต่อมานิกกี้ขอลงรายละเอียดอีกนิดเกี่ยวกับประเภทของ Afternoon Tea มีอะไรบ้าง?
Light Tea: ทานชากับสโคน (ไม่ทานครีม) + ขนมชิ้นเล็กๆเช่น ลูกกวาดหรือคุกกี้
Cream Tea: ทานชากับสโคน + แยม + ครีม
Full Tea: ทานชา + สโคน + แซนวิช + ขนมหลากชนิด
ประเภทของชาที่นิยมดื่มในช่วงเวลาของ Afternoon Tea
Assam เป็นชาที่มีความเข้มข้นค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นจึงเหมาะกับการดื่มในช่วงเวลาเช้าเป็นที่สุด ชาประเภทนี้จะเข้ารสกลมกล่อมกับนมและน้ำตาลเป็นอย่างดี
Darjeeling เป็นเหมือนแชมเปญจน์ของชาเลยค่ะ เพราะชาประเภทนี้ปลูกในที่สูงมาก เป็นชาที่นุ่มและอ่อน นิยมกินกับอาหารมื้อใหญ่ๆ ส่วนมากจะไม่ใส่นม
Ceylon orange เป็นชาที่มีสีทอง เป็นสีอ่อนๆ ชาประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ชอบดื่มชาจางๆ ด้วยความที่มันอ่อนอยู่แล้ว ชาประเภทนี้จึงอร่อยกว่าถ้าไม่เติมนมหรือน้ำตาล แต่เติมเลมอนลงไปชิ้นนึงก็สดชื่นดีค่ะ
English Breakfast เป็นชาที่คนนิยมกันมากที่สุด ใบชานำมาจากอินเดียและศรีลังกา
English Afternoon เป็นส่วนผสมกันของ Darjeeling, Assam และ Ceylon teas แนะนำให้ดื่มในช่วงบ่าย แต่เพราะความหอมอ่อนๆของชาประเภทนี้ จึงทำให้สามารถดื่มได้ทุกเวลา วิธีชงให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดคือ ไม่ใส่นม
Earl gray เป็นการผสมกันของใบชาแบบที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น จะมีกลิ่นหอม คล้ายๆกลิ่น aroma ออกมา เป็นกลิ่น Bergamot แต่ถ้าใครที่ชอบชาคล้ายๆ แบบนี้แต่อ่อนกว่าก็ต้องนี่เลย Lady Grey
ต่อมามารยาทในการดื่มชาหากเป็นงานเลี้ยงน้ำชาเล็กๆเป็นการส่วนตัวที่มีแขกไม่กี่คนเจ้าของงานหรือเจ้าบ้านจะเป็นคนรินชาให้กับแขกที่ถูกเชิญมาร่วมงานและการดื่มชาก็ไม่ควรยกจานถ้วยชาเกินช่วงหน้า หรือว่าควรวางไว้ที่หนักตักหรือบนโต๊ะดื่มชา ควรขนชาแทนการเปาชาและยกดื่ม
และหากเป็นงานเลี้ยงน้ำชาขนาดใหญ่มีแขกร่วมงานจำนวนมากจะมีการจัดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้แขกที่มาร่วมงานนั่งเป็นจุดๆ ได้เลือกนั่งอย่างอิสิระมีโต๊ะวางอาหารว่าง ขนมต่างๆ ชา กาแฟ เหมือนโต๊ะบุพเฟ่ต์ หรือมีการนั่งดื่มบนโต๊ะทานอาหารที่มีการจัดที่นั่งให้แขกทุกคนที่ร่วมงานได้ทานร่วมกันได้โดยการนั่งสลับชายหญิง
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนที่อ่านจนจบบทความนี้ ถ้าชื่นชอบก็อย่าลืมกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนิกี้ในการเขียนบทความครั้งต่อไปๆ ด้วยนะครับ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
โฆษณา